ยุบ อนค.-ตัดสิทธิ์ กก.บห.พรรค 10ปี คดีพรรคอนาคตใหม่กู้เงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวนเงิน 191.2 ล.บาท

ยุบ อนค.-ตัดสิทธิ์ กก.บห.พรรค 10ปี คดีพรรคอนาคตใหม่กู้เงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวนเงิน 191.2 ล.บาท

 

 

 

 

 

ยุบ อนค.-ตัดสิทธิ์ กก.บห.พรรค 10ปี
คดีพรรคอนาคตใหม่กู้เงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
จำนวนเงิน 191.2 ล.บาท
 
 
 
 
วันที่ 21 ก.พ. 63 - ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่จากการกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้านบาท
 
 
 
ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย 4 ประเด็น
ประเด็นวินิจฉัยที่ 1 ผู้ร้องมีอำนาจร้องหรือไม่ ศาลเห็นว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 ประกอบมาตรา 93 ให้อำนาจ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลได้ มติ กกต.ยื่น ศาล รธน. เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วย ก.ม.
 
 
ประเด็นวินิจฉัยที่ 2 มีเหตุยุบพรรคตามมาตรา 92 หรือไม่
พรรคการเมืองสามารถกู้เงินได้หรือไม่ ศาลเห็นว่าการดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองต้องอาศัยรายได้ของพรรคการเมือง ซึ่งมาตรา 62 กำหนดไว้ หากพรรคการเมืองนำเงินมาจากส่วนอื่น ก็ถือว่า เป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้กฎหมายจะไม่ได้เขียนห้ามไว้ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เขียนรับรองให้ทำได้ เงินกู้ถือเป็นรายรับ พรรคการเมืองถือเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน
 
 
ศาลอธิบายนิยามของคำว่า "บริจาค" ซึ่งหมายรวมถึงประโยชน์อื่นใดด้วย ไม่เฉพาะเงิน / นิยามคำว่า "ประโยชน์อื่นใด" หมายถึงการให้บริการ การให้ส่วนลด มีค่าตอบแทน หรือทำให้หนี้ที่พรรคการเมืองเป็นหนี้ลดลง หรือหมดสิ้นไป ฉะนั้นการให้กู้โดยไม่คิดดอกเบี้ย หรือคิดดอกเบี้ยต่ำกว่าที่คิดตามปกติทางการค้า จึงเข้าข่าย "ประโยชน์อื่นใด"
 
 
คำว่าบริจาค และประโยชน์อื่นใด จึงมีความหมายเฉพาะตามกฎหมายนี้ และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบ ที่ต้องการให้พรรคการเมืองมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ป้องกันบุคคลหรือกลุ่มบุคคลป้องกันการใช้พรรคกาเรมืองเพื่อหาประโยชน์ส่วนตน หรือใช้ความได้เปรียบทางการเงินครอบงำพรรคการเมือง งบการเงินของ อนค.ปี 61 มีรายได้จากทุนประเดิน 1.06 ล้านบาท รายได้เงินบำรุงสมาชิก 8.6 ล้านบาท / รายได้จากการจำหน่ายสินค้า 2.7 ล้านบาท / รายได้จากเงินบริจาค 58.7 ล้านบาท / รายได้อื่น 3 หมื่นบาท / รวมรายได้ 70 กว่าล้าน / ส่วนค่าใช้จ่ายเป็นต้นทุกการจำหน่ายสินค้า 2 ล้านกว่าบาท / ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 61 ล้าน / ค่าใช้จ่ายประชาสัมพันธ์ 8 ล้าน / รวมค่าใช้จ่าย 70 กว่าล้าน / ค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ 1 ล้านบาทเศษ / แต่ อนค.กลับทำสัญญากู้เงินถึง 191.2 ล้านบาท (สัญญากู้ 2 ฉบับ) แต่คิดอัตราดอกเบี้ยหรือเบี้ยปรับ ไม่เป็นปกติทางการค้า ถือว่าเข้าข่าย
ประโยชน์อื่นใด
 
 
การคืนเงินในเดือนเดียวกับที่กู้ ถือว่าผิดปกติวิสัย / สัญญากู้ฉบับที่ 2 คิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 และรับเงินในวันทำสัญญาเพียง 2 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ยังมีหนี้เก่าอยู่ / และยังไม่มีหลักประกันเงินกู้ / ถือว่าผิดปกติวิสัย / รวมเงินกู้ 191.2 ล้านบาท / เงินบริจาคของนายธนาธรอีก 8 ล้านในปี 62 / ถือว่าพรรครับบริจาคเกิน 10 ล้านบาท ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 66 วรรค 2
 
 
กรรมการบริหารพรรคควรรู้ว่า การเป็นหนี้บุคคลจำนวนมาก ทำให้เจ้าหนี้มีอิทธิพลเหนือพรรค เข้าข่ายธุรกิจการเมือง การกู้ยืมเงิน เข้าข่ายหลีกเลี่ยงการรับบริจาค ตามหลักเกณฑ์มาตรา 66/ และ เข้าข่ายมาตรา 72 คือรับเงินโดยรู้หรือควรรู้ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย อนค.กระทำผิดมาตรา 72 สั่งยุบพรรค ตามมาตรา 92 ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10ปี