ทิพยประกันชีวิต โชว์กำไร 1,220 ล้าน ปี 62 ตั้งเป้า หมื่นล้าน พร้อมมุ่งพัฒนาการรับประกันและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง

ทิพยประกันชีวิต โชว์กำไร 1,220 ล้าน ปี 62 ตั้งเป้า หมื่นล้าน พร้อมมุ่งพัฒนาการรับประกันและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง

 

 

  

 

 

 


 

 

ทิพยประกันชีวิต โชว์กำไร 1,220 ล้าน
ปี 62 ตั้งเป้า หมื่นล้าน
พร้อมมุ่งพัฒนาการรับประกันและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง

 


ทิพยะประกันชีวิต กางแผนปี 62 มุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาด้านการรับประกันและบริการอย่างไม่หยุดยั่ง เดินหน้าผนึกพันธมิตรเสริมแกร่ง หวังดันเบี้ยรับรวมแตะ 10,000 โต 30% พร้อมโชว์ผงานปี 61 โกยกำไร 1,022 ล้านบาท โต 29.4%
พร้อมจัดกระบวนทัพใหม่ลุยเป้าเบี้ยปี 2562 ที่ 10,000 ล้านบาท มุ่งสู่การเป็น "บริษัทที่มีการพัฒนาด้านการรับประกันและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง"


นายนพพร บุญลาโภ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันชีวิต (TIPLIFE) กล่าวว่า “สำหรับผลประกอบการปี 2561 ที่ผ่านมานั้น เราเดินตามแผนจนสร้างผลงานได้ทะลุเป้า สามารถทำเบี้ยรับรวม 7,615 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 14.8% ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโต 4.3% โดยผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ (Bancassurance) จากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) 5,364 ล้านบาท ประเภทสามัญ (Ordinary) 1,216 ล้านบาท ผ่านช่องทางตัวแทน 862 ล้านบาท และ ประกันชีวิตประเภทกลุ่ม 173 ล้านบาท


ซึ่งผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทำให้กำไรทะลุเป้าถึง 1,022 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนถึง 29.4% ในขณะที่การลงทุนทำรายได้ 859 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 19.7% โดยแผนการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นตราสารหนี้ประมาณ 74% และ ที่เหลือก็เป็นกองทุนรวมหรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Property Fund/REITs and Infrastructure fund) หุ้นสามัญ สลากออมสิน และ เงิรฝากธนาคาร สลากออมสิน และ เงินฝากธนาคาร


สำหรับในปี 2562 นี้ เราจะมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาด้านการรับประกันและบริการอย่างไม่หยุดยั่ง เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ท้าทายยิ่งขึ้นด้วยเบี้ยรับรวมที่ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 30% โดยขายผ่านช่องทางเดิมคือ สินเชื่อธนาคาร, Bancassurance,ตัวแทน และประกันกลุ่ม พร้อมทั้งมีแผนในการหาพันธมิตรใหม่ๆ ทั้งในภาคธุรกิจไปจนถึงผู้ประกอบการด้านอื่นๆ ซึ่งในปีนี้เราเตรียมเปิดช่องทาง ดิจิทัล Digital เพื่อเป็นช่องทางการขายและช่องทางการบริการรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ทั้ง MYMO ในช่องทางของธนาคารออมสิน และเว็ปไซต์ tiplife.com สำหรับลูกค้าทั่วไป พร้อมทั้งยังได้มีแผนปรับโครงสร้าง เพิ่มฟังกั่นงานเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจและเพื่อให้บริการที่เข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น


ในส่วนของการพัฒนาระบบดูแลลูกค้า Contact Center ตลอดจนช่องทางการให้บริการผ่าน Mobile Application และ Line official โดยให้ความสำคัญต่อการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างแม่นยำ และได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้มากยิ่งขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงระบบสารสนเทศหลักของบริษัท (New Core Insurance System) พร้อมทั้งพัฒนา E-Applicatin การใช้ใบคำขอผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ผมพยายามที่จะพัฒนาในทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในยุคที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิตอล


นายนพพร กล่าวสรุปว่า “บริษัทยังเดินหน้าที่จะสร้างแบรนด์ TIPlife ให้เป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการผนึกกำลังพันธมิตรทั้งเก่าและใหม่ เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเหลือง ซึ่งเป็นสีตัวแทนของบริษัท ให้เข้าไปอยู่ในความคุ้นเคยและจดจำได้ของผู้บริโภค พร้อมทั้งให้ความสำคัญต่อการกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมในทุกมิติ ไม่ว่าจะด้านศาสนา กีฬา การศึกษา เยาวชน ตลอดจนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการร่วมสร้างสรรค์สังคมที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืนครับ”