จับสัญญาณ “เม็ดเงินโฆษณา” ปี 2568 ทีวียังไปรอด สื่อดิจิทัลโตพุ่ง ล่าสุด เว็บไซต์ https://www.changeintomag.com/ ยอดทยานทะลุ 40 ล้านวิว
จับสัญญาณ “เม็ดเงินโฆษณา” ปี 2568 ทีวียังไปรอด สื่อดิจิทัลโตพุ่ง
ล่าสุด เว็บไซต์ https://www.changeintomag.com/ ยอดทยานทะลุ 40 ล้านวิว
MI GROUP เผย แม้เศรษฐกิจปี 2568 ผันผวน นักการตลาดที่เข้าใจผู้บริโภคลึกซึ้ง อ่านเกมขาด และปรับตัวไว ยังมีโอกาสเติบโต ชี้ 4 ปรากฏการณ์ Q1/68 ส่งสัญญาณบวก พร้อมชวนจับตา 8 กลุ่มเป้าหมายสำคัญและวางกลยุทธ์ "สื่อผสม" รับมือสงครามแย่งชิงความสนใจ
เปิดมุมมองจาก MI GROUP ที่วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดในปี 2568 ว่าเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม MI GROUP กลับมองเห็น "สัญญาณบวก" ที่เริ่มปรากฏขึ้น พร้อมชี้แนะกลยุทธ์สำคัญให้นักการตลาดและแบรนด์ใช้เป็นเข็มทิศนำทางธุรกิจในภาวะท้าทายนี้
-4 ปรากฏการณ์เศรษฐกิจ Q1/2568 ส่งสัญญาณฟื้นตัว
MI GROUP ได้ยก 4 ปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ที่สะท้อนถึงพลังการฟื้นตัวและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ได้แก่
•Motor Show 2025 ยอดจองทะลุเป้า: ยอดจองรถยนต์ในงาน (ไม่รวมมอเตอร์ไซค์) สูงถึง 77,379 คัน เพิ่มขึ้นถึง 41.6% จากปีก่อน โดยเฉพาะตลาด EV จากจีนที่ครองสัดส่วนยอดจองสูงถึง 65% สะท้อนกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
•Maha Songkran Festival 2025 สร้างเม็ดเงินสะพัด: การจัดงานสงกรานต์ 5 วัน ณ ท้องสนามหลวง ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 1.1 ล้านคน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 4,097.17 ล้านบาท ตอกย้ำศักยภาพ Soft Power ของไทยในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
•ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแรงต่อเนื่อง: รัฐบาลประกาศปี 2568 เป็น Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year พร้อมจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอดปี หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าใกล้เป้าหมาย 39 ล้านคน รวมถึง Bangkok Pride Festival 2025 ที่คาดการณ์ผู้ร่วมงานกว่า 300,000 คน
•แรงกดดันภาษีสหรัฐฯ ผ่อนคลายชั่วคราว: การที่ทรัมป์ชะลอการขึ้นภาษีนำเข้า 90 วันทั่วโลก รวมถึงท่าทีที่ผ่อนปรนต่อภาษีสินค้าจีนบางประเภท ส่งสัญญาณว่านโยบายเศรษฐกิจที่เข้มงวดอาจมีการทบทวน
•แนวโน้มตลาดโฆษณา-การตลาดปี 2568 โตช้า แต่ยังเดินหน้า
MI GROUP คาดการณ์ตลาดโฆษณาไทยปี 2568 จะเติบโตเพียง 2.2% มูลค่ารวมประมาณ 87,666 ล้านบาท ปรับลดจากคาดการณ์เดิม +4.5% แม้สื่อดิจิทัลจะยังเติบโตถึง 10% แต่เริ่มมีการแข่งขันสูงจนเกิดภาวะ "สงครามแย่งความสนใจ (Attention War)"
โดยสัดส่วน Media Mix ปี 2568 (ประเมินโดย MI LEARN LAB):
•ดิจิทัล 50% (โดยมี KOLs/Influencers กว่า 3 ล้านราย ครองเม็ดเงินกว่า 60% ของดิจิทัล)
•ออฟไลน์ 50% (รวมโทรทัศน์, สื่อนอกบ้าน ฯลฯ)
นายภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดียอินเทลลิเจนซ์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าบทเรียนสำคัญ นักการตลาดต้องวางแผน "สื่อผสม" อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ต่อเนื่องและทรงพลัง การพึ่งพาสื่อดิจิทัลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป
ด้าน นายสุทธิคุณ กองทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชนจ์ มีเดีย(ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร เชนจ์ อินทู(CHANGE into Magazine) และเว็บไซต์ http://www.changeintomag.com กล่าวว่า ปัจจุบัน เว็บไซต์ http://www.changeintomag.com มียอดผู้เข้าชมกว่า 40 ล้านครั้งนั้น ทำให้คาดการณ์ว่ากระแสธุรกิจโซเชียลมีเดียมีประชาชนได้เข้าถึงเป็นจำนวนมาก หากเปรียบเทียบจากหลายปีที่ผ่านมา
“ผมว่ายอดวิวที่เกิดเหมือนเป็นพลังใจพลังกายที่ทำให้ทางทีมงานต่างมุ่งมั่นที่จะทำงานให้กับลูกค้าด้วยความซื่อสัตย์ และดูแลลูกค้าอย่างตั้งใจต่อไปอย่างดีที่สุด เพราะลูกค้ายังให้ความไว้วางใจให้กับทางทีมงานของเรา ผมและทีมงานต้องขอขอบคุณกับลูกค้าอย่างจริงใจจริงๆ
"แม้ปัจจุบันสื่อออนไลน์จะเติบโตมากเพียงใด ผมก็หวังว่า วันหนึ่งสื่อสิ่งพิมพ์อาจจะกลับมาเติบโตเหมือนสื่อออนไลน์ก็เป็นไปได้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระสังคมในเวลานั้นๆ วันเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร กลิ่นอายของกระดาษของสื่อสิ่งพิมพ์จะมีเสน่ห์ทุกครั้งที่ได้เปิดอ่าน ตรงนี้พอจะสรุปได้ว่าทั้งสองสื่อก็ยังเป็นสื่อที่เปิดประตูสู่โลกกว้างให้กับเราแบบไร้ขีดจำกัดเช่นกัน”
นอกจากนี้ นางขนิษฐา แสงมณี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด https://www.changeintomag.com/index.php (นิตยสาร เชนจ์ อินทู) กล่าวเสริมว่า "จากขีวิตกว่า 30 ปีที่อยู่ในสายการตลาดโฆษณามีการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก ยิ่งปัจจุบันอยู่ในยุคโซเชียลก็ยิ่งมีการแข่งขันกันสูงเป็นทวีคูณ แต่ถือเป็นโอกาสของเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่สามารถจะเลือกลงสื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ได้หลายช่องทางการโฆษณาออนไลน์ ทางวิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อโฆษณากลางแจ้งแล้วก็สื่อสิ่งพิมพ์ ว่าผลิตภัณฑ์จะเหมาะกับการโฆษณาแบบไหนนั่นเอง แต่ก็ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนพิจารณางบจากสื่อแต่ละประเภทว่าใช้แล้วจะคุ้มค่ามั้ย
"ส่วนการโฆษณาในนิตยสารกับออนไลน์เติบโตต่างกันอย่างไรนั้น แน่นอนว่า ณ ปัจจุบัน สื่อสิ่งพิมพ์หรือนิตยสารก็ปิดตัวลงตามที่เราๆทราบกัน เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคไม่นิยมในส่วนของนิตยสารหรือสื่อสิ่งพิมพ์ ไปแล้ว หันมาทางออนไลน์กัน ทำให้การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ทางออนไลน์ได้ผลรวดเร็วและสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เพียงแต่ว่าการโฆษณาออนไลน์ก็คงต้องมีการให้ข้อมูลหรือว่าจูงใจให้เกิดความต้องการซื้อโดยการใช้แถบโฆษณาที่กระชับและเข้าใจง่าย
"เราเองในฐานะนักขายต้องปรับตัวมากแค่ไหน ต้องบอกว่าา เรามีการปรับตัวแบบอย่างแน่นอนค่ะ สิ่งสำคัญต้องดูแลลูกค้า นำเสนอ รายละเอียดข่าวสาร ของลูกค้าผ่านเว็บไซต์ของเราให้ให้รวดเร็ว และสม่ำเสมอและมีการนำเสนอคุณค่าและประโยชน์ของข่าวประชาสัมพันธ์ของลูกค้าให้ได้ประโยชน์ที่ชัดเจน ให้ข้อมูลที่น่าสนใจในทุกๆเรื่องให้กับผู้ติดตามเว็บไซต์ของเราค่ะ"
#เมืองไทยประกันชีวิต #ไทยประกันชีวิต #วิริยะประกันภัย #ทิพยประกันภัย #ทิพยประกันชีวิต #กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต #กสิกรไทย #กรุงศรีอยุธยา #การประปานครหลวง #เอสซีจี #ทีคิวเอ็ม #FWDประกันชีวิต #ประกันภัยไทยวิวัฒน์ #พรูเด็นเชียล #เอไอเอ #กรุงเทพประกันภัย #กรุงเทพประกันชีวิต #คปภ #ไทยสมุทรประกันชีวิต #SAM #BAM #ธกส #ธอส #ดอยคำ #บางจาก #เคทีซี #สยามพารากอน #ยาคูลท์ #รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง #Centara #อมตะ #ธนชาต #TOA #TQM #MTL #MWA #เงินติดล้อ #เงินติดล้อ #OIC #สมาคมประกันชีวิตไทย #กองทุนประกันวินาศภัย #สมาคมประกันชีวิตไทย #บริษัทกลางคุ้มครองฯ #RVP #สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย #AIA #KTC #SCG