หายนะ...เพราะสติหาย ยุ้ย-รจนา เพชรกันหา
เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง ภาพ : เจษฏา จันทรรักษ์
หายนะ...เพราะสติหาย ยุ้ย-รจนา เพชรกันหา
"ยุ้ย" รจนา เพชรกันหา หลายคนคงจำกันได้ เมื่อเธอก้าวไปสู่นางแบบโกอินเตอร์ที่โด่งดังที่สุดของเมืองไทย โดยได้ไปสร้างชื่อเสียงในต่างแดน เรียกค่าตัวปีละ ๒๐ ล้านบาท แล้วทำสถิติรายได้สูงสุดถึง ๕๐ ล้านบาทต่อปี มีเงินเป็นร้อยล้านตลอด ๘ ปี ของการเป็นนางแบบในต่างแดน
แต่ชีวิตต้องตกอับเพราะเสพยา ในที่สุดต้องเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อรักษาตัว คงเหลือเงินกลับบ้านเพียง ๕๐๐ บาทเท่านั้น
กระทั่งข่าวใหญ่ที่เกิด เมื่อครั้งที่เธอกลับมาใช้ชีวิตในบ้านเกิด กินเหล้า และตีแม่จนขึ้นโรงขึ้นศาล วันนี้ชีวิตของเธอได้ผ่านการบำบัดจนหายเป็นปกติแล้ว
น.ส.รจนา เล่าว่า การดำเนินชีวิตในเมืองนอก ค่าใช้จ่ายก็สูงมาก ประกอบกับเป็นคนใช้เงินเก่ง ใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย ซื้อเสื้อผ้าที่มียี่ห้อดังๆ แล้วก็ไปเที่ยวดิสโก้ รับประทานอาหารหรูตามโรงแรมที่มีชื่อเสียง เงินที่ได้มาเป็นสิบๆ ล้านก็ใช้จ่ายแบบนี้ แถมยังเอาไปเลี้ยงเพื่อนๆ เรียกได้ว่า เงินที่เข้ามาพาเราหลงระเริงลืมตัว ท้ายที่สุดได้เริ่มเข้าสู่วังวนของยาเสพติด ตอนอายุ ๒๐ ปี แล้วมาติดยาเสพติดอย่างหนักตอนอายุ ๒๕ ปี
จนกระทั่งเดินทางกลับประเทศไทย เหลือเงินอยู่เพียง ๕๐๐ บาท ช่วงที่พักรักษาตัว ยอมรับว่า เคยตีแม่ ช่วงเวลานั้นเราไม่มีสติ ทำไปแบบไม่มีสติ เวลาผ่านไปเรามีสติแล้วคิดว่าสิ่งที่ทำกับแม่ไม่ดีเลย แต่ในที่สุดก็ได้ขอขมาแม่ ให้ท่านอภัยกับสิ่งที่ทำลงไป จึงรู้สึกสบายใจ วันนั้นหากมีสติชีวิตคงไม่ผิดพลาดแบบนี้
กลับมาคิดครั้งใด มันก็สายเกินไปแล้ว เพราะยาเสพติดถือว่าทำลายชีวิต ทำลายอนาคตทั้งหมดลงอย่างไม่น่าเชื่อ หากย้อนเวลากลับไปได้ คิดว่าเราน่าจะต้องมีสติมากกว่านี้ แล้วจะนำเงินเหล่านี้มาซื้อบ้านให้แม่ และเก็บเงินฝากธนาคาร ทั้งนี้ เมื่อชีวิตหลงอยู่ในแสงสี เรื่องบาปและบุญไม่เคยนึกถึง ความรู้สึกตรงนี้คิดว่าอาจเป็นเรื่องของบุญเก่า ที่เคยมีนำพาเราไปทำงานต่างประเทศ แต่พอบุญเก่าเราหมดลง ชีวิตที่เคยสุขสบาย กลับบ้านเหมือนคนหมดตัว ไม่เหลืออะไรเลย
"ตรงนี้ทำให้ยุ้ยเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม รวมทั้งเรื่องของบุญ และกรรม ชีวิตวันนี้ยุ้ยก็ปลงได้แล้ว เมื่อชีวิตกลับมาอยู่เมืองไทยก็ได้ไปอยู่กับแม่บุญธรรม ที่ชอบสวดมนต์ ทำบุญ เข้าวัดเข้าวา ท่านก็เลยให้ยุ้ยเริ่มสวดอิติปิโสเท่าอายุก่อน แล้วก็ให้นับไม้ขีด หลังจากนั้นท่านก็เริ่มสวดมนต์ รวมทั้งให้ยุ้ยได้ปล่อยนกปล่อยปลา แล้วให้ใส่บาตรทุกวันพระ อย่างน้อยยุ้ยก็คิดว่า การทำบุญแบบนี้ก็เหมือนยุ้ยได้เสริมดวงของยุ้ยด้วย" เธอเชื่อเรื่องบุญที่ลิขิตชีวิตให้สูงและต่ำได้
ยุ้ย อธิบายต่อว่า บทเรียนชีวิตที่ผ่านมา ทำให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม เพราะเราได้เห็นชีวิตที่เคยสูงสุดแล้ววันนี้ ชีวิตเราก็มาอยู่ต่ำสุดแล้ว ซึ่งชีวิตที่ต่ำสุดนี้ไม่มีอะไรเหลือเลย แต่ทุกวันนี้ยังมีความภูมิใจอย่างน้อยเรายังได้เห็นคนที่ยังลำบากกว่าเราอีกมากมาย มองลงไปตรงนั้น ได้เห็นคนที่แย่กว่าเรา ก็ทำให้จิตใจเราเข้มแข็ง พร้อมที่จะสู้ชีวิตต่อไปตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ
ส่วนมุมมองเกี่ยวกับการแขวนพระเครื่อง ถือเป็นมงคลของอดีตนางแบบอินเตอร์ โดยก่อนหน้านี้ มีพระที่แขวนติดตัว ได้แก่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ พระแก้วมรกต หลวงปู่ขาว ฯลฯ
ระยะหลังรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยระวัง ทำให้เผลอไปลอดราวตากผ้าบ้าง หรือไปอยู่ในที่อโคจร หลายคนบอกว่า จะไม่ดี ด้วยเหตุนี้เองทำให้ไม่แขวนพระเครื่อง เพราะไม่มั่นใจว่าจะรักษาองค์ท่านได้ ปัจจุบันบ้านอยู่ใกล้วัดยาง อ่อนนุช ๒๓ จึงมีโอกาสได้ทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่าเป็นประจำ
"ยุ้ยมาไหว้หลวงพ่อโตที่วัดยาง ยุ้ยก็ขอให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง แล้วที่ผ่านมา ยุ้ยยังเคยไปบวชชีพราหมณ์ที่ จ.นครนายก เป็นเวลาเกือบ ๒ สัปดาห์ พบว่า หลังจากได้ปฏิบัติธรรมแล้ว มีความรู้สึกว่าชีวิตมีความสงบขึ้น มีสติ แล้วปัญญาของตัวเองก็เริ่มที่จะเกิดขึ้น เราได้ขนาดนี้ไม่ได้แสดงว่าเราเก่งอะไร แต่ว่าการปฏิบัติธรรมสอนให้เรารู้จักตัวเองไม่ให้หลงระเริงกับกิเลสต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต" อดีตนางแบบอินเตอร์ กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ นางจันทร์ดี ทองมี มารดาของรจนา กล่าวให้ข้อคิดว่า เงินเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ส่วนยาเสพติดมีแต่จะทำลายชีวิต ชีวิตของลูกสาวที่ผ่านมาต้องเผชิญชีวิตที่สูงเทียมฟ้า แล้ววันหนึ่งตกจากฟ้ากลายเป็นคนไม่มีอะไร ทำให้เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม
บทเรียนของลูกสาวอาจเป็นกรรมเก่าที่ได้ทำเอาไว้ในอดีตชาติ วันหนึ่งลูกสาวคิดได้ ก็เกือบทำให้ชีวิตสายเกินไป แต่ถือว่ายังดีที่เขายังมีโอกาสได้แก้ตัว เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง