" PHILIP WILLIAM" กับ...พลังศรัทธาพระอาจารย์แดง วัดไร่ ปัตตานี

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง   ภาพ :  ชวกรณ์  สะอาดเอี่ยม

" PHILIP WILLIAM"

หนองจิก เป็นเมืองเก่าแก่คู่เมืองปัตตานี ดุจเดียวกับอีกหัวเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อครั้งอดีตจึงมีปราชญ์สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน หลวงพ่อแดง พระสมุห์ชัยยะ โอภาโส เจ้าอาวาสวัดสถิตย์ชลธาร(วัดไร่) เป็นอีกหนึ่งของความเป็นปราชญ์ที่พึ่งของชาวบ้านได้ในทุกยาม จึงไม่แปลกนักหากมีผู้คนทยอยกันไปกราบไว้ท่านตลอดเวลา เพื่อขอคำปรึกษาในหลายประการ ยามบ้านเมืองวิกฤต ผู้คนขาดที่พึ่ง อำนาจรัฐอ่อนแอ ชาวบ้านต่างอยู่กันด้วยความหวาดระแวง จนปัจจุบันมีชาวต่างชาติเกิดความเลื่อมใสมาขอเป็นศิษย์ และหนึ่งในจำนวนนี้ คือ นายฟิลิป วิลเลี่ยม (PHILIP WILLIAM) ชาวออสเตรเลีย

นายฟิลิปวิศวกร กล่าวว่า ได้รู้จักประเทศไทยมาเป็นเวลา ๒๕ ปี แล้วเมืองไทยก็อยู่ในใจมาตลอด แล้วก็รู้จักองค์เทพจตุคามฯ มาเมื่อประมาณ ๑๐ ปีที่แล้ว โดยมีคนนำมาให้แขวน ประกอบกับมีความศรัทธาในพระอาจารย์แดง เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นโรคเบาหวานจะปวดมืออย่างมาก รักษามาหลายปีรักษาเท่าไหร่ก็ยังไม่หาย จนกระทั่งหมอตรวจอีกครั้งแล้วได้ตัดสินใจว่าอาจจะต้องตัดนิ้วมือ แต่นับว่าโชคดีที่ได้มาเจอกับพระอาจารย์แดง เมื่อท่านได้ให้น้ำมันมาทาบริเวณที่ปวดอย่างต่อเนื่อง เชื่อไหมว่า อาการปวดที่เคยมีหายไปอย่างปลิดทิ้งเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์อย่างมาก

"ผมแขวนพระ แขวนจตุคามฯ มากกว่า ๕๐ องค์เพราะว่าชอบ และศรัทธา แขวนแล้วชีวิตดีขึ้น แขวนแล้วโชคดี พระอาจารย์แดงให้มาก็จะเอามาแขวนทั้งหมด คนเรามีจิตใจดี ชีวิตก็จะดี ผมเองก่อนหน้านี้บอกตามตรงว่า ไม่มีศาสนาอะไรที่ใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่วันนี้ผมมาอยู่เมืองไทย มีความศรัทธาพระอาจารย์แดง ทำให้ผมได้หันมานับถือศาสนาพุทธเรียบร้อยแล้ว แล้วจากนี้ไปได้ให้น้องชายดูแลธุรกิจแทน แล้วผมก็จะอยู่เมืองไทยช่วยเหลือพระอาจารย์แดงต่อไป" นายฟิลิป กล่าวทิ้งท้าย

ทางด้านพระอาจารย์แดง บอกว่า นายฟิลิปเป็นเจ้าของเหมืองแร่ทองคำที่ประเทศออสเตรเลียแล้วได้มาอยู่เมืองไทยเมื่อ ๖ ปีก่อน ประกอบกับมีความศรัทธาองค์เทพจตุคามฯ อยู่แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้อาตมาได้ไปทำจตุคามฯให้กับวัดยายหาร จ.ภูเก็ต แล้วได้เกิดองค์จตุคามฯ ขึ้นมาเป็นร้อยเป็นพันดวง เมื่อฟิลิปเห็นจึงได้เสาะแสวงหาว่า อาตมาจำวัดอยู่ที่ไหน กระทั่งได้มาเจอตัวอาตมาที่ศาลหลักเมือง จากนั้นมาเขาก็ติดตามมาขับรถไปตามงานพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ แล้วฟิลิปจะไม่ยอมให้ใครขับรถให้อาตมานอกจากเขาเลย

"เขาบอกว่าได้แขวนจตุคามฯ แล้วรู้สึกธุรกิจที่เขาทำอยู่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ฟิลิปมาอยู่ที่วัดเชื่อไหมว่า เขาสามารถพูดคุยได้ทั้งชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิม แม้อาตมาจะอยู่ปัตตานีที่เป็นพื้นที่เสี่ยงกับอันตราย แต่อาตมาก็ไม่กลัว ขนาดฝรั่งเขายังไม่กลัวเราเป็นคนไทยแล้วจะไปกลัวอะไร แล้วตะกรุดที่อาตมาทำขึ้นมาแจกฟรีให้กับทุกคนนั้น ได้ทำมาจากการนิมิตว่า ถ้าทำแล้วจะได้ช่วยเหลือชาวไทยที่อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" พราจารย์แดงกล่าว

ตำนานแห่งตะกรุดลูกปืน

พระอาจารย์แดง ถือกำเนิดเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๒ สนใจพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เล็กๆ โดยเฉพาะด้านไสยศาสตร์ พุทธาคม ท่านชื่นชอบมากจึงเป็นผู้ขวนขวายใคร่เรียนรู้วิชาเหล่านี้มาตั้งแต่ก่อนบวชพระ เมื่ออุปสมบทได้รับฉายา “โอภาโส ” จากองค์พระอุปัชฌาย์ “ พ่อท่านสุข” พระสิทธิญารมุนี วัดมุจลินทวาปิวิหาร หรือ วัดตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ผู้สืบทอดสายวิชาจากองค์ “หลวงพ่อดำ วัดตุยง ” ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนทั่วบ้านเมืองว่า ท่านมีเมตตาสูง และคาถาอาคมขลังมาก

พระอาจารย์แดง ร่ำเรียนวิชาอาคมจากพ่อท่านสุข ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีใจรักและพื้นฐานทางนี้ก็แน่นพอสมควร วิชาอาคมที่พ่อท่านสุขมอบให้ทุกอย่าง จึงจดจำได้ และนำมาใช้ ก็ได้ผลตามที่ครูบาอาจารย์บอกไว้ เช่น วิชาทำผ้ายันต์ผูกหัวเรือ ที่พ่อท่านสุขเชี่ยวชาญและถนัด หลวงพ่อแดงก็เรียนรู้อย่างตั้งใจ เมื่อทดลองแจกศิษย์ที่ใกล้ชิดนำไปผูกหัวเรือประมงก็ได้ผลดี แคล้วคลาดปลอดภัย หาปลาได้มาก ดีไม่แพ้ขององค์พระอุปัชฌาย์

แรกเริ่มการสร้างตะกรุดลูกปืน หลวงพ่อได้นำปลอกกระสุนของปืนเอ็ม ๑๖ มาทำเป็นตะกรุดโดยใช้บรรจุยันต์ และคาถาอาคมหลายบท ที่หลวงพ่อทวดพุ่มมาบอก ลักษณะคล้ายตะกรุดนารายณ์แปลงรูป ของพ่อท่านนอง วัดทรายขาวจ. ปัตตานี เพียงแต่แตกต่างตรงที่ของพ่อท่านนองจะมีห่วงร้อยเชื่อมไว้ แต่สำหรับตะกรุดลูกปืนของหลวงพ่อแดงประกบต่อกันไว้เท่านั้น หาได้มีห่วงเชื่อมไม่ เมื่อครั้งสร้างใหม่ๆ ตะกรุดลูกปืนเอ็ม ๑๖ ของท่านถูกแจกจ่ายแก่วัยรุ่นใกล้วัดทั้งไทยพุทธ และมุสลิม มีจำนวนการสร้างน้อยเพียงไม่กี่ดอก ทุกดอกหลวงพ่อลงพุทธคุณเข้มขลัง

จนบังเกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ช่วยชีวิตศิษย์ของหลวงพ่อได้หลายเรื่อง เช่น เมตตา คงกระพันชาตรี กันของ แก้คุณไสย กันงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ใช้ได้ทุกทาง จนร่ำลือไปว่าหลวงพ่อแดง วัดบ้านไร่ นั้นมีของดี ทำให้หลวงพ่อต้องสนองศรัทธา สร้างตะกรุดลูกปืนขึ้นมาอีกหลายครั้ง โดยได้นำเอากระสุนปืนหลายขนาด จากลูกศิษย์ที่เป็นทหาร ตำรวจ มาทำ พระเณรที่วัดรวมถึงศิษย์วัดก็มาช่วยทำเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่พ้น ทหาร ตำรวจ ผู้ทำงานเสี่ยงภัย

พระอาจารย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ตะกรุดลูกปืนถือเป็นเครื่องรางของขลังเป็นสิ่งที่สืบทอดมาแต่โบราณ มิใช่เป็นสิ่งเหลวไหล แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยเตือนสติ มิให้ประมาทในการดำรงชีวิตในทุกกรณี เพราะเป็นสิ่งที่ปลุกเสกด้วยพระคาถาอาคม และพุทธคุณอันสูงส่ง “ ตระกุดลูกปืน ” ทุกคนจะผ่านการประจุพลังกฤติยาคม ตามหลักธาตุทั้ง ๔ ของโบราณคือ “ ดิน น้ำ ลม ไฟ ” การนั่งบริกรรมคาถาปลุกเสกแต่ละครั้ง จะผ่านธาตุทั้ง ๔ ของโบราณ คือ นั่งบนพื้นที่เปรียบดังธาตุดิน รายรอบไปด้วยพลังของไฟ จากแสงเทียนและลมปราณ ที่เป่าพระคาถาออกมาจากร่างกายที่ประกอบไปด้วยจิตที่มั่นคง และบริสุทธิ์ สุดท้าย “ ตะกรุดทุกดอก ” ผ่านธาตุน้ำ เสกในน้ำทะเล และนำไปหว่านลงในแม่น้ำเล็กๆ ที่ไหลผ่านวัด ( คลองตุยง เป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำปัตตานี ) สอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดสถิตชลธาร ( วัดไร่ ) ต.บางตาวา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โทร.๐-๗๓๔๓-๗๕๓๘,๐๘-๗๒๘๖-๔๘๕๐