นานมีบุ๊คส์ ฉลองครบรอบ 10 ปีการ์ตูนความรู้
เปิดตัวหนังสือ “ร่วมค้นหาพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า
กองทัพบกสร้างขวัญทหาร จับมือไทยประกันชีวิตลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารบกปีที่ 30
กองทัพบกสร้างขวัญทหาร จับมือไทยประกันชีวิตลงนามต่อสัญญาประกันชีวิตทหารบกปีที่ 30 ภายใต้แบบประกันภัยสงคราม พิทักษ์พล และพิทักษ์พลพิเศษ
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อมอบสวัสดิการที่มั่นคงและสร้างขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารหาญ กองทัพบกจึงได้ร่วมกับบริษัทฯ ลงนามสัญญาประกันชีวิตทหารต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 โดยมีพลเอกธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วยนางวราวรรณ เวชชสัสถ์ รองเลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้เกียรติร่วมลงนาม ณ กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา
สำหรับปีนี้นับเป็นวาระพิเศษ ที่บริษัทฯ ได้มอบความคุ้มครองกำลังพลของกองทัพบกเป็นปีที่ 30 โดยไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกที่รับประกันชีวิตทหารทุกระดับชั้น ทั้งในยามสงบและยามสถานการณ์ไม่ปกติ ภายใต้แบบประกันภัยสงคราม พิทักษ์พล และพิทักษ์พลพิเศษ ซึ่งเป็นแบบประกันที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้สอดรับกับแนวคิด การเป็นเพื่อนคู่คิด ที่พร้อมดูแลเคียงข้างทุกชีวิตในสังคมไทย
กรมธรรม์แบบภัยสงคราม ให้ความคุ้มครองทหารที่ออกปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งในและนอกประเทศ ทั้งกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพจนถูกปลดประจำการ สำหรับนายทหารชั้นสัญญาบัตร, นายทหารชั้นประทวน, พลทหารประจำการ, พลทหารกองประจำการ, พลอาสาพิเศษอาสาสมัครทหารพราน, อาสาสมัครทหารพราน, ลูกจ้างประจำ, ลูกจ้างชั่วคราว และพนักงานราชการ
กรมธรรม์แบบพิทักษ์พล ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ สำหรับนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ, นักเรียนแพทย์ทหาร, นักเรียนพยาบาลกองทัพบก, นักเรียนนายสิบ, นักเรียนดุริยางค์ทหารบก, นักเรียนผู้ช่วยพยาบาลทหารบก และพลทหารกองประจำการ กรณีปฏิบัติการฝึก การปฏิบัติภารกิจด้วยการใช้อากาศยานของ ทบ. และการปฏิบัติหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย แล้วได้รับอันตรายถึงเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ เป็นเหตุให้ต้องปลดประจำการหรือพ้นราชการ จะได้รับค่าชดเชยพิเศษจำนวน 5 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย
“Wine Testing”
โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค-รัชดา นำโดย Mr.Marcel Sawyere ผู้จัดการใหญ่และชาตรี นุ้ยประสิทธิ์ รองผู้จัดการใหญ่ของโรงแรม พร้อมด้วย เอิร์ธ สายสว่าง จัดกิจกรรม “Wine Testing 2016” มีไวน์หลากหลายทั่วทุกมุมโลกจากบริษัทนำเข้าไวน์ชั้นนำ BB&B คัดสรรมาให้ดื่มด่ำพร้อมอาหารเลิศรสมากมาย และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ชรัส เฟื่องอารมย์, โจแอน บุญสูงเนิน, เทวัญ ทรัพย์แสนยากร, ไกรวิทย์ พุ่มสุโข มาให้ความบันเทิงอย่างสนุกสนาน โดยมีแขกผู้มีเกียรติ เซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ นฤมล นามนิรันดร์, สิร์ปางค์ สิทธิ์เศรษฐ์กุล, วสุ แสนวันดี เข้าร่วมงานคับคั่งและกิจกรรมจับรางวัลมอบโชคให้กับผู้โชคดีที่มาใช้บริการที่โรงแรมไปพร้อมกัน ณล็อบบี้เล้าน์จไวน์แอนด์บาร์ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค - รัชดาภิเษก
เสริมศักยภาพ “นักสร้างกิจกรรม” เพื่อจุดประกายนักวิทย์รุ่นเยาว์
เสริมศักยภาพ “นักสร้างกิจกรรม” เพื่อจุดประกายนักวิทย์รุ่นเยาว์
เชฟรอนสนุกวิทย์จับมือสวทช. จัดอบรมเครือข่ายหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา
ภายใต้โครงการ ‘มหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย’
ข้อมูลจากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ระบุว่า ในแต่ละปีประเทศไทยสามารถผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ได้เพียง 8 คน ต่อประชากร 10,000คน ขณะที่สัดส่วนของนักศึกษาใหม่ที่เลือกเรียนในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีเพียงร้อยละ 39ทำให้ไม่สามารถผลิตบุคลากรในสาขาดังกล่าวได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงาน
ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานพันธมิตรของโครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด สถาบันคีนันแห่งเอเซีย และมหาวิทยาลัยเครือข่าย จึงร่วมกันจัดโครงการ “มหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย” ประจำปี2559เพื่อสร้างความสนใจและแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือ “สะเต็ม” (STEM) ผ่านกิจกรรมการทดลองแสนสนุกเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์รอบตัวโดยล่าสุดได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรจากหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ อันจะเป็นกำลังหลักในการจัดกิจกรรม ถ่ายทอดความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน โดยเชิญนักวิชาการจากห้องปฎิบัติการทอยโทแลป (Teutolab)มหาวิทยาลัยบีเลเฟล ประเทศเยอรมนี ผู้ริเริ่มโครงการมหาวิทยาลัยเด็ก มาถ่ายทอดและ
แลกเปลี่ยนความรู้กับอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและหน่วยงานเครือข่าย เกี่ยวกับแนวทางในการจัดกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมการเรียนรู้และความสนใจในสาขาสะเต็มให้กับเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางฤทัย จงสฤษดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารค่ายวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)เปิดเผยว่า “การอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายของ ‘นักสร้างกิจกรรม’ หรือผู้ที่มีความชำนาญและความเชี่ยวชาญในการสร้างกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของเยาวชนไทย เพื่อวางรากฐานในการสร้างบุคลากรในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนยกระดับขีดความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเราได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากห้องปฏิบัติการทอยโทแลป ผู้คิดค้นหลักสูตรโครงการมหาวิทยาลัยเด็ก ที่ส่งเสริมให้เด็กมีความสนใจและเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์แบบลงมือทำ (Hands-on Experiments) ที่ออกแบบมาให้เด็กได้ทำกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์และหาคำตอบด้วยตนเอง มาบรรยายและสาธิตการจัดกิจกรรม ให้กับอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเครือข่ายโครงการมหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรม ณ มหาวิทยาลัยของตนต่อไป”
ในการอบรม อาจารย์ 50 คน จาก 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศและ 2 หน่วยงานภาครัฐได้แก่ สวทช. และสสวท. ได้เข้ารับการอบรมตลอด 2 วัน ซึ่งประกอบไปด้วยการบรรยายพิเศษและกิจกรรมการทดลองแบบลงมือทำ ตามแนวทางของห้องปฏิบัติการทอยโทแลป ซึ่งมีจุดเด่นคือเน้นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน อาทิ น้ำตาล สีจากธรรมชาติ และอาหาร โดยแต่ละเรื่องจะมีกิจกรรมการทดลองย่อยๆ หลายกิจกรรมต่อเนื่องกันไป เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความคิดและความเข้าใจในหัวข้อต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบและลึกซึ้ง อาทิ หัวข้อเกี่ยวกับน้ำตาลจะมีการทดลองเพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ถึงที่มา ตลอดจนคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของน้ำตาล ซึ่งเด็กๆ จะค้นหาคำตอบจากการทดลองด้วยตนเอง โดยอาจารย์จะเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ คอยชี้แนะและกระตุ้นความสงสัยของเด็กๆ เท่านั้น
ดร. รูดอล์ฟ เฮอร์เบอร์ อาจารย์วิชาเคมี มหาวิทยาลัยบีเลเฟล ประเทศเยอรมนีกล่าวว่า “เมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมา เยอรมนีประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะจำนวนของนักเรียนเลือกเรียนสาขานี้มีลดลง โครงการมหาวิทยาลัยเด็กจึงเกิดขึ้นเพื่อทำให้เด็กมีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์และเลือกเรียนสาขานี้ต่อไปในอนาคต โดยหัวใจของโครงการนี้คือการกระตุ้นความสนใจในวิทยาศาสตร์ของเด็กและเยาวชน ผ่านการลงมือทำกิจกรรมการทดลองในห้องปฏิบัติการทาง
วิทยาศาสตร์ด้วยตนเอง ในหัวข้อที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ในบรรยากาศที่สนุกสนาน ซึ่งพบว่าเด็กๆ มีความสุขและเพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้เป็นอย่างดี นับตั้งแต่ดำเนินโครงการนี้ในเยอรมนี เราพบว่ามีจำนวนนักเรียนที่
เลือกศึกษาต่อสาขาวิทยาศาสตร์ในระดับมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนแรงงานในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
รศ.ดร.สรัญญา วัชโรทัย อาจารย์ประจำภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงความประทับใจต่อการอบรมครั้งนี้ว่า “กิจกรรมที่วิทยากรนำมาสาธิตมีความน่าสนใจและจัดเตรียมได้สะดวก วัสดุที่นำมาใช้ทดลองก็ล้วนเป็นของใกล้ตัว อาทิ น้ำตาล กะหล่ำปลี น้ำอัดลม ทั้งนี้เมืองไทยเรามีทรัพยากรมากมายที่จะนำมาปรับใช้กับกิจกรรมลักษณะนี้เพื่อให้เด็กๆ สนุกกับการเรียนรู้และหาคำตอบเพราะรู้สึกว่าเป็นสิ่งใกล้ตัวเขาจริงๆ โดยจะนำแนวทางการจัดกิจกรรมที่ได้จากการอบรม ไปปรับใช้ในการจัดกิจกรรมมหาวิทยาลัยเด็ก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำลังจะจัดขึ้นเร็วๆนี้”
ดร.วิทยา กาณจนภูษากิจ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า “กิจกรรมการทดลองในวันนี้ออกแบบมาได้สนุกมาก แม้การอบรมจะเน้นไปในเรื่องเคมี แต่ส่วนตัวมองว่าหลายกิจกรรมสามารถนำมาปรับมุมมองหรือต่อยอดให้เป็นวิธีคิดวิเคราะห์ตามปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ได้ด้วย และรู้สึกชอบวิธีการที่แต่ละการทดลองจะมีใบงานที่บอกเด็กๆ ว่าจะต้องสังเกตอะไรบ้าง และมีการอภิปรายร่วมกัน ซึ่งเป็นการกระตุ้นกระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ของเด็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ผ่านมา มจธ.ได้จัดกิจกรรมในโครงการ ‘มหาวิทยาลัยเด็กประเทศไทย’ มาแล้วหลายครั้งและประสบความสำเร็จมาก มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างล้นหลาม โดยนักเรียนบอกว่ากิจกรรมนี้ช่วยให้พวกเขาเห็นว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจ”
“การสนับสนุนโครงการ ‘มหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย’ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Chevron Enjoy Science เพราะเชฟรอนเชื่อว่าการสร้างความสนใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นรากฐานสำคัญในการสร้างบุคลากรในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยบุคลากรในหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ และรู้สึกว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งผ่านการพิสูจน์ได้แล้วว่าหากเยาวชนรู้สึกสนุกกับวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็ก ความสนใจและอยากเรียนรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ของพวกเขาเหล่านี้จะติดตัวไปจนโต เป็นผลให้อัตราการเลือกเรียนสาขาวิทยาศาสตร์ในระดับมหาวิทยาลัย และการประกอบอาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้นตามมา” นางหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ เชฟรอนประเทศไทยกล่าวทิ้งท้าย
โครงการมหาวิทยาลัยเด็ก เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักเรียนในระดับประถมศึกษาตอนปลายถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ได้ลงมือทำกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่สนุกและท้าทาย เสมือนนักเรียนแต่ละคนได้เข้ามา
เรียนในมหาวิทยาลัยจริง เพื่อจุดประกายความสนใจในสาขาวิทยาศาสตร์ และสร้างแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพในสาขาสะเต็มในอนาคต โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศเยอรมนี ก่อนขยายผลไปยังประเทศต่างๆ สำหรับโครงการ ‘มหาวิทยาลัยเด็ก ประเทศไทย’ จัดตั้งขึ้นในปี 2554 ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทั้งนี้หน่วยงานเครือข่ายของโครงการมหาวิทยาลัยเด็กในปัจจุบัน ประกอบด้วยสถาบันการศึกษา ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง องค์กรภาครัฐ ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) องค์กรภาคประชาสังคมได้แก่ สถาบันคีนันแห่งเอเซีย และภาคเอกชน ได้แก่ เชฟรอนประเทศไทย
###