ทีมอลล์ จับมือ ฟอร์ด เปิดตัว “ตู้จำหน่ายรถยนต์อัตโนมัติ”
ทีมอลล์ จับมือ ฟอร์ด เปิดตัว “ตู้จำหน่ายรถยนต์อัตโนมัติ”
กวางโจว ประเทศจีน – 10 เมษายน 2561 – ทีมอลล์ และฟอร์ด มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกา เปิดตัว “ตู้จำหน่ายรถยนต์อัตโนมัติ” (https://bit.ly/2u6vOqS) ตู้แรกของประเทศจีน ในเฟสแรกของการอัพเกรดประสบการณ์การทดลองขับรถยนต์ให้กับลูกค้าชาวจีน
“ศูนย์ทดลองขับรถยนต์อัจฉริยะ” หรือ Super Test-Drive Center (https://bit.ly/2IiT4IT) ในกวางโจว เปิดให้ผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์ได้ทดลองขับเป็นเวลา 3 วัน โดยสามารถเลือกได้จากรถยนต์กว่าร้อยคัน ซึ่งรวมถึงโมเดลเอกซ์พลอเรอร์ เอสยูวี (Explorer SUV) มัสแตง (Mustang) เอดจ์ (Edge) และเอเวอเรสต์ (Everest)
นายดีน สโตนลีย์ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด ฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า “เรากำลังหาวิธีช่วยอำนวยความสะดวกและให้ประสบการณ์การทดลองก่อนซื้อที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า”
การเปิดตัวนี้เป็นความร่วมมือนำร่องระหว่างอาลีบาบา กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของทีมอลล์ และฟอร์ด นับตั้งแต่การประกาศความร่วมมือในเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา (https://bit.ly/2uIi5v8) โดยวางแผนใช้ประโยชน์จากเอไอ (artificial intelligence) คลาวด์ คอมพิวติ้ง (cloud computing) อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (Internet of Things) และอีคอมเมิร์ซ ในการ “สร้างนิยามใหม่ของประสบการณ์ด้านยานยนต์ของผู้ใช้งานและลูกค้า”
นอกเหนือจากการรับรถยนต์และทดลองขับ ประสบการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นบนแอปพลิเคชั่นอีคอมเมิร์ซบนโทรศัพท์มือถือของอาลีบาบา ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่หน้า “Super Test-Drive” เพื่อค้นหาโมเดลที่พร้อมให้ทดลองขับและเลือกเวลารับรถ หลังจากนั้นถ่ายภาพตนเองเพื่อใช้ยืนยันการจองไปยังศูนย์ทดลองขับรถยนต์ดังกล่าว
นายกู้ ว่านกั๋ว ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายยานพาหนะ ทีมอลล์ ออโต้ กล่าวว่า ตู้จำหน่ายรถยนต์อัตโนมัติเป็นความก้าวหน้าล่าสุดในการสนับสนุนค้าปลีกยุคใหม่ หรือ New Retail (https://bit.ly/2ByJ8Zm) ของอาลีบาบา โดยโมเดลค้าปลีกยุคใหม่นั้นให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นหลัก รวมทั้งการเข้าถึงบริการต่างๆ เช่น ศูนย์ทดลองขับรถยนต์จะทำให้ลูกค้าเข้าใจรถยนต์รุ่นต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และยังทำให้รู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมกับการซื้อรถมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นายกู้ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนั้น การประยุกต์การวิเคราะห์และการตลาด (https://bit.ly/2pWlNMG) ของอาลีบาบา สามารถนำมาใช้สนับสนุนให้แบรนด์และผู้จำหน่ายสินค้าได้รู้ถึงกลุ่มเป้าหมายและสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ “โดยอาลีบาบามุ่งหวังว่าเทคโนโลยีตู้จำหน่ายอัตโนมัตินี้จะนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ได้โดยรวม”
นายเฉา เจิ้นอวี่ ผู้บริหารระดับสูงของ ฉางอาน ฟอร์ด ออโตโมบิล โครงการความร่วมมือของฟอร์ดที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองฉงชิ่ง กล่าวว่า การทดลองขับรถยนต์เป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์การซื้อ อย่างไรก็ตาม การทดลองแบบเดิมที่ตัวแทนจำหน่ายเสนอมักมีข้อจำกัดด้านเวลา พื้นที่ และเส้นทาง
นายเฉา กล่าวเสริมอีกว่า “ถ้าเราขยายระยะเวลาการทดลองขับ ลูกค้าจะสามารถตัดสินใจซื้อได้ด้วยความมั่นใจและสะดวกสบายมากขึ้น เราอยากให้ลูกค้าได้ลองใช้รถของเราในชีวิตประจำวัน เพื่อสัมผัสประสบการณ์กับรถอย่างเต็มรูปแบบ และตัดสินใจซื้อที่หน้าร้านของเราในที่สุด”
ประเทศจีนเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2552 ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของยอดขายชะลอตัวลงอย่างมากในปี 2560 (https://bit.ly/2H2sPXE) เหลือเพียง 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จาก 13.6% ในปี 2559 ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้เปลี่ยนกลยุทธ เพื่อดึงดูดลูกค้าในประเทศที่มียอดขายทั่วโลกเพียง 30% (https://on.mktw.net/2pVPaiy) โดยหนึ่งในกลยุทธดังกล่าว ได้แก่ การร่วมมือกับทีมอลล์ รวมถึงการร่วมมือกับบริษัทต่างๆ เช่น มาเซราติ (Maserati - https://bit.ly/2BrrS7I) อัลฟาโรมิโอ (Alfa Romeo - https://bit.ly/2nLJuYs) และบีเอ็มดับเบิลยู (BMW - https://bit.ly/2BrrS7I)
ฟอร์ดเป็นพาร์ทเนอร์พิเศษของทีมอลล์ในเฟสแรกของการเปิดตัวตู้จำหน่ายรถยนต์อัตโนมัติ ในขณะนี้ ทีมอลล์ยังไม่ได้ประกาศพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ แต่กำลังพิจารณาเมืองปักกิ่งและเมืองหางโจว ซึ่งอาจเป็นพื้นที่ดำเนินการสำหรับเฟสต่อๆ ไป
เกี่ยวกับอาลีบาบา กรุ๊ป
พันธกิจของอาลีบาบา กรุ๊ป คือการทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกหนแห่งทั่วโลก เรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคตสำหรับการประกอบธุรกิจ โดยจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนต่างพบปะ ทำงาน และใช้ชีวิตอยู่บนแพลตฟอร์มของอาลีบาบา และมีความมุ่งหวังที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปถึง 102 ปี
เกี่ยวกับอาลีบาบา กรุ๊ป
พันธกิจของอาลีบาบา กรุ๊ป คือการทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกหนแห่งทั่วโลก เรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคตสำหรับการประกอบธุรกิจ โดยจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนต่างพบปะ ทำงาน และใช้ชีวิตอยู่บนแพลตฟอร์มของอาลีบาบา และมีความมุ่งหวังที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปถึง 102 ปี