รอยัล เอนฟิลด์ เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์คัสตอมบนเครื่องยนต์สองสูบ 3 คันใหม่ ณ เทศกาล วีลส์ แอนด์ เวฟส์ 2018 เมืองเบียริกซ์ ประเทศฝรั่งเศส
รอยัล เอนฟิลด์ เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์คัสตอมบนเครื่องยนต์สองสูบ 3 คันใหม่
ณ เทศกาล วีลส์ แอนด์ เวฟส์ 2018 เมืองเบียริกซ์ ประเทศฝรั่งเศส
22 มิถุนายน 2561: รอยัล เอนฟิลด์ ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกขนาดกลางสายพันธุ์อังกฤษระดับโลก เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์คัสตอม 3 คันล่าสุด นับเป็นครั้งแรกที่มีการคัสตอมและตกแต่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์สองสูบคู่เรียง (Twin engine) ที่ยังไม่ออกสู่ตลาดจากรอยัล เอนฟิลด์ ณ เทศกาลวีลส์ แอนด์ เวฟส์ (Wheels and Waves) ครั้งที่ 7 งานจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์และกิจกรรมโต้คลื่นระดับแลนด์มาร์คของยุโรปที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองเบียริกซ์ ประเทศฝรั่งเศส โดยงานนี้เป็นเทศกาลที่รวบรวมเอาความหลากหลายของโลกแห่งรถมอเตอร์ไซค์เข้ากับวัฒนธรรมการเล่นสเก็ตและโต้คลื่นผ่านปรัชญาและเสียงเพลงในสไตล์แบบวินเทจ ซึ่งเทศกาลวีลส์ แอนด์ เวฟส์ นับเป็นหนึ่งในงานจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์คัสตอมที่ไบค์เกอร์ทั่วโลกตั้งตารอคอยมาที่สุดงานหนึ่ง
ปีนี้เป็นปีที่ 4 ที่รอยัล เอนด์ฟิลด์เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาล โดยยังคงคอนเซ็ปต์ “ประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่แท้จริง” (Pure Riding Experience) ในการคัสตอมและแต่งรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งสะท้อนแนวคิดดังกล่าวผ่านรถมอเตอร์ไซค์คัสตอม 3 คันใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวภายในงาน ได้แก่ ล็อค สต็อค (Lock Stock), โรฮีนี (Rohini) และอินเตอร์เซ็ปเตอร์ (Interceptor) โดยทั้ง 3 คันถูกแต่งและคัสตอมบนพื้นฐานของรถมอเตอร์ไซค์สองรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่างอินเตอร์เซ็ปเตอร์ ไอเอ็นที 650 (Interceptor INT 650) และคอนติเนนทัล จีที 650 (Continental GT 650) ที่ติดตั้งเครื่องยนต์สองสูบคู่รอยัล เอนฟิลด์ 650 ที่เป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากรอยัล เอนฟิลด์
ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายและคลาสสิกของรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ ทำให้รถเปรียบเสมือนสื่อกลางในการแสดงความเป็นตัวตนและเอกลักษณ์ของสาวกไบค์เกอร์ทั่วโลก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้นักคัสตอมรถมอเตอร์ไซค์ได้ค้นหาและผลักดันตนเองสู่ไอเดียการแต่งรถใหม่ๆ ในเทศกาลครั้งนี้ ไม่เพียงจัดแสดง ‘ล็อค สต็อค’ (Lock Stock) รถมอเตอร์ไซค์สายแดร็กไบค์ (Drag Bike) ขนาด 865 ซีซี ที่รอยัล เอนฟิลด์คัสตอมและแต่งขึ้นเอง นอกจากนี้ รอยัล เอนฟิลด์ยังร่วมกับสำนักแต่งรถชื่อดังอย่าง ยัง กัน สปีด ช็อป (Young Gun Speed Shop) และโอลด์ เอ็มไพร์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (Old Empire Motorcycles) จากประเทศอังกฤษ เพื่อแปลงโฉมรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์คอนติเนนทัล จีที 650 และอินเตอร์เซ็ปเตอร์ ไอเอ็นที 650 อีกด้วย
รถมอเตอร์ไซค์คัสตอมทั้ง 3 คัน ที่เปิดตัวในเทศกาลวีลส์ แอนด์ เวฟส์ 2018 ครั้งนี้ นับเป็นสิ่งที่บ่งบอกสไตล์และวิถีความเป็นรอยัล เอนฟิลด์อย่างแท้จริง ผ่านการนำเสนองานคัสตอมจากนักแต่งรถที่ดีที่สุดในยุโรป เพื่อถ่ายทอด “ประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่แท้จริง” หรือ “Pure Motorcycle”
‘ล็อค สต็อค’ (Lock Stock) โดยรอยัล เอนด์ฟิลด์
คัสตอมจากรอยัล เอนฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที 650 เครื่องยนต์สองสูบคู่
‘ล็อค สต็อค’ เปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองการเกิดใหม่ของเครื่องยนต์สองสูบ ภายใต้รูปลักษณ์ของยานยนต์เพื่อความเร็วส่งตรงจากโรงงาน โดยดึงเอาสมรรถนะของเครื่องยนต์สองสูบคู่เรียง 650 ออกมาได้เต็มที่ รถมอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นรถคัสตอมคันแรกในรอบหลายปีจากโรงงานรอยัล เอนด์ฟิลด์ที่ติดตั้งท่อไอเสียคู่ ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นเพื่อก้าวผ่านขีดจำกัดและค้นพบศักยภาพใหม่ๆ จากเครื่องยนต์สองสูบของรอยัล เอนฟิลด์ ในส่วนโครงรถเป็นการขึ้นรูปร่วมกับค่ายแต่งที่เป็นปรมาจารย์ด้านโครงรถอย่างแฮร์ริส เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Harris
Performance) ผสมผสานความงดงามในแบบคลาสสิกเข้ากับสมรรถนะของตัวรถ ยกระดับสู่ยานยนต์เพื่อการแข่งขันอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ สำนักแต่งเครื่องยนต์ เอส แอนด์ เอส ไซเคิลส์ (S&S Cycles) สำนักแต่งเครื่องยนต์ประสบการณ์สูงจากสหรัฐอเมริกา เข้ามารับหน้าที่ปรับจูนเครื่องยนต์สำหรับรถคันนี้ โดยสำนักนี้ได้ช่วยยกระดับสมรรถนะของเครื่องยนต์ 650 ไปสู่มิติใหม่ด้วยพื้นฐานเครื่องเดิม ด้วยการขยายขนาดความจุเครื่องยนต์ไปที่ 865 ซีซีพร้อมติดตั้งระบบฉีดไนตรัสออกไซด์ สำหรับงานสี ค่ายแดสเซิล คาโม (Dazzle Camo) ได้เพิ่มลวดลายที่ดูสนุกสนานเข้าไป นอกจากนี้ตัวรถเองขึ้นรูปจากคาร์บอนไฟเบอร์ ในขณะที่เบาะหนังเป็นแบบเรียบง่ายมินิมอล สะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลและความปรานีตในการออกแบบของดีไซน์เนอร์จากรอยัล เอนฟิลด์ รถคัสตอมคันนี้ได้เผยให้เห็นอีกมุมที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงจาก รถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์
‘โรฮีนี’ (Rohini) โดยสำนักแต่ง ยัง กัน สปีด ช็อป (Young Gun Speed Shop)
คัสตอมจากรอยัล เอนฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที 650 เครื่องยนต์สองสูบคู่
‘โรฮีนี’ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการตีความรอยัล เอนฟิลด์ ของสำนักยัง กัน สปีด ช็อป โดยรวมเอาเอกลักษณ์ของแบรนด์ แรงบันดาลใจจากโครงการดาวเทียมโรฮีนีของอินเดียและความเชื่อมโยงสู่ต้นกำเนิดของแบรนด์ที่ประเทศอังกฤษเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งตัวดีไซน์ของรถคอนติเนนทัล จีที 650 เองแสดงออกถึงความเป็นอังกฤษอยู่แล้ว ส่งผลให้เมื่อคัสตอมรถคันนี้ ทีมงานจึงเลือกเก็บชิ้นส่วนเดิมของตัวรถเอาไว้ให้มากที่สุด โดยตกแต่งใหม่เพียงพ่นสีใหม่แบบเทาดำและตีตัวถังใหม่ให้โค้งมนสอดรับกันเป็นชิ้นเดียวตั้งแต่เบาะนั่งไปจนถึงส่วนท้ายของตัวรถ ทั้งนี้ ตามคอนเซ็ปต์แล้วรถคันนี้จะแต่งคัสตอมออกมาเป็นสไตล์คาเฟ่เรซเซอร์ขนานแท้แบบริกส์แมนส์ แฟร์ริ่งส์ (Rickman’s Fairings) ที่มีเอกลักษณ์เป็นครอบกันลม (Windshield) หน้ารถ แต่ยังแอบมีเซอร์ไพรส์ซ่อนเอาไว้บนลวดลายบนตัวถังรถ ซึ่งเลื่อมลวดลายจะสะท้อนแสงไฟในตอนกลางคืน มอบความรู้สึกแบบคลาสสิกเรโทรและโมเดิร์นที่สื่อแรงบันดาลใจจากดาวเทียมบนท้องฟ้าไปพร้อมๆ กัน
อินเตอร์เซ็ปเตอร์ โดยสำนักแต่งโอลด์ เอ็มไพร์ มอเตอร์ไซค์เคิลส์ (Old Empire Motorcycles)
คัสตอมจากรอยัล เอนฟิลด์ อินเตอร์เซ็ปเตอร์ 650 เครื่องยนต์สองสูบคู่
สำนักแต่งโอลด์ เอ็มไพร์ มอเตอร์ไซค์เคิลส์ ได้เลือกถอดชิ้นส่วนของอินเตอร์เซ็ปเตอร์ 650 เดิมที่ไม่จำเป็นออกเกือบทั้งหมด เหลือเพียงแค่ชิ้นส่วนสำคัญสำหรับการขับขี่เอาไว้ ตัวรถถูกพ่นสีแดงเมทัลลิคใหม่ที่เข้ากับเบาะหนังสีแดงเลือดวัว (Oxblood) ที่เลือกใช้วัสดุทดแทน หนังกลับหรือผ้าอาคันทาร่า มอบสัมผัสแบบพรีเมี่ยมให้กับตัวรถ ซึ่งรถคัสตอมคันนี้ ให้คาแรกเตอร์ที่ดูหรูหราและขบถในคันเดียวกันประกอบกับเครื่องยนต์พ่นสีดำที่วางเครื่องให้ต่ำลงซ่อนอยู่ภายใต้ตัวรถที่เรียบหรูด้านนอกมอบลุคดุดันให้กับตัวรถ ขณะที่แฮนด์จับเป็นบาร์เปลือยแบบคลาสสิก ซ่อนสายไฟกับสายเคเบิ้ลไว้ด้านในอย่างแนบเนียน ทำให้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้เปรียบดั่งตัวแทนเทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ รถมอเตอร์ไซค์คันนี้ไม่ได้ติดตั้งช่องเสียบกุญแจ เนื่องจากมีระบบสตาร์ทติดตั้งไว้ในถุงมือขับขี่ นับเป็นตัวอย่างการผสมผสานสไตล์ที่เหนือกาลเวลาเข้ากันกับโลกสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
เกี่ยวกับรอยัล เอนฟิลด์
รอยัล เอนฟิลด์ เป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์เก่าแก่ที่สุดที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยผลิตรถมอเตอร์ไซค์คันแรกในปี พ.ศ. 2444 ทั้งนี้ รอยัล เอนฟิลด์เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด เป็นผู้บุกเบิกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางด้วยรถมอเตอร์ไซค์แบบโมเดิร์นคลาสสิกที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ด้วยฐานการผลิตในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย รอยัล เอนฟิลด์สามารถขยายการผลิตให้เติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อความต้องการรถมอเตอร์ไซค์ของแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นด้วยอัตราเติบโตมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์กลายเป็นบริษัทที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลกและกำลังบุกเบิกตลาดใหม่ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์แห่งดีไซน์ ตอบสนองเส้นทางท้าทาย และมอบความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่ โดยสายการผลิตของรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศอินเดียประกอบด้วยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นบุลเล็ต (Bullet) คลาสสิก (Classic) และธันเดอร์ เบิร์ด (Thunder Bird) ในเครื่องยนต์ขนาด 350 และ 500 ซีซี รวมถึงรุ่นคอนติเนนทัล จีที 535 ซีซี (Continental GT) สไตล์คาเฟ่ เรเซอร์ และรุ่นหิมาลายัน (Himalayan) ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ แอลเอส 410 รอยัล เอนฟิลด์ มีสโตร์ที่ดำเนินงานเองทั้งหมด 17 แห่ง และมีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 790 รายในทุกหัวเมืองใหญ่ทั่วอินเดีย และส่งออกไปมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร หลายประเทศในยุโรป และลาติน อเมริกา รวมถึงตะวันออกกลางและเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ รอยัล เอนฟิลด์สนับสนุนและจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์และการขับขี่ต่างๆ มากมายทั่วโลก ได้แก่ ‘ไรเดอร์ มาเนีย’ (Rider Mania) กิจกรรมประจำปีที่ถือเป็นการรวมตัวของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ รอยัล เอนฟิลด์จากทั่วโลก ณ ชายหาดที่สวยงามของเมืองกัว (Goa) และ ‘หิมาลายันอโอดิสซีย์’ ทริปการขับขี่บนเส้นทางที่นับว่าหฤโหดที่สุด และสูงที่สุดบนเทือกเขาหิมาลัย รอยัล เอนฟิลด์ ยังจัดกิจกรรมที่เรียกว่า ‘วัน ไรด์’ (One Ride) ที่ไบค์เกอร์รวมตัวกันขี่มอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ของตนในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายนไปพร้อมกันๆ ทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเรื่องของผลิตภัณฑ์ ความเป็นมา และกิจกรรมต่างๆ ของรอยัล เอนฟิลด์ ได้ที่ www.royalenfield.com/thai
และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนรักรถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์
ทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/royalenfield/ หรือ https://www.facebook.com/royalenfieldsocietythailand
ทวิตเตอร์ @royalenfield และอินสตาแกรม @royalenfield