“ซินเดอเรลล่า” เมืองไทย ขวัญจิตร์ อุดมสุขนิรันดร “ทุกคนสูงสุดคืนสู่สามัญ”

“ซินเดอเรลล่า” เมืองไทย ขวัญจิตร์ อุดมสุขนิรันดร “ทุกคนสูงสุดคืนสู่สามัญ”

 

 

  

CHANGE to Dream   เรื่อง : สุทธิคุณ  กองทอง  ภาพ : ชวกรณ์ สะอาดเอี่ยม

 

 

 

 “ซินเดอเรลล่า” เมืองไทย

 

ขวัญจิตร์ อุดมสุขนิรันดร   “ทุกคนสูงสุดคืนสู่สามัญ”

 

 

 

เปิดชีวิตที่เปลี่ยนของ “ขวัญจิตร์ อุดมสุขนิรันดร” ที่กลายเป็น “ซินเดอเรลล่า” เมืองไทย เปิดบ้านที่ผสมผสานระหว่างสไตล์โพสต์โมเดิร์นแบบเรียบง่ายและสไตล์วินเทจที่ดูหรูทันสมัย ใช้เวลาสร้าง 4 ปี ด้วยงบประมาณ 300 ล้านบาท  พร้อมเผยวันนี้พบสัจธรรมของชีวิตมนุษย์  “ทุกคนสูงสุดคืนสู่สามัญ”

 


 
ย้อนไปหลายปีก่อนไฮโซรุ่นเดอะที่เฉิดฉายอยู่ในแวดวงสังคมประเภทสวยไม่เคยสร่างซาหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ ขวัญจิตร์ อุดมสุขนิรันดร  อดีตผู้บริหาร บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ติดอยู่ในลิสต์เป็นแน่ ถึงจะไม่นิยมการออกงานสังคมเป็นกิจวัตร หากแต่ละครั้งที่ได้พบเจอก็มักเห็นไฮโซสาวใหญ่คนนี้แต่งตัวสวยเช้งโดดเด่นไม่แพ้ใครทีเดียว มาครั้งนี้เธอเปิดใจถึงเรื่องราวชีวิตครอบครัว พร้อมให้ชมคฤหาสน์หรูหราครั้งแรก ย่านร่มเกล้า พร้อมเผยถึงหลักในการดำเนินชีวิตที่มีในวันนี้ด้วยธรรมะ

 

 

 

/// “ซินเดอเรลล่า” เมืองไทย

 

ระหว่างพาเดินชมบ้านสุดหรู คุณขวัญจิตร์ เป็นชาวจังหวัดนครปฐม เล่าว่า ชีวิตช่วงวัยรุ่นได้เดินทางมาเรียนในกรุงเทพฯ จบด้านเลขานุการ  “ชีวิตของพี่เหมือนสาวชนบททั่วไป ตอนนั้นก็เหมือนคนทั่วไปก็คือดำเนินชีวิตอย่างปากกัดตีนถีบ ขออภัยที่พูดไม่เพราะ(หัวเราะ) ถือเป็นช่วงของการชีวิตที่เปลี่ยนไปจริงๆ  ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวที่ไม่เหมือนพี่น้องคนอื่น หน้าตาก็พอดูได้ ทำให้ชีวิตพกผันเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ  แล้วก็ได้ทำงานอยู่พักหนึ่ง  กระทั่งวันหนึ่งได้มาใช้ชีวิตคู่กับเฮีย(อภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล) พี่ต้องเคารพและรักเหมือนเป็นคุณพ่อเลย มาถึงวันนี้ก็ใช้ชีวิตคู่กันมา 30 ปีแล้ว  มีลูกสาวสองคนที่จบปริญญาโทกันหมดแล้ว

 

“พอชีวิตได้เดินเข้าสู่สังคมไฮโซเราก็เข้าได้กับทุกสถานะ เพราะเราเคยลำบากมาก่อน  ทำให้จะทำอะไรก็ต้อง เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ก็ดูว่าสังคมเขาแต่งตัวกันยังไง เราก็ต้องเรียนรู้แล้วก็แต่งตามเขาไป  พอเข้าไปแล้วก็เป็นอีกสังคมหนึ่งที่สนุกสนาน จะให้เรียกว่าไฮโซมั้ย พี่ขอเรียกว่ากลุ่มนางฟ้าละกัน(หัวเราะ) เพราะนางฟ้าแต่ละคนก็จะมีเพชรมีพลอยประดับประดาด้วยความสวยงามมันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น เหมือนเราได้ไปใช้ชีวิตอีกมุมหนึ่งมันก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง ”  ปัจจุบันด้วยความที่อายุเริ่มมากขึ้นบวกกับมีหน้าที่การงานที่จะต้องรับผิดชอบมากขึ้นทำให้เธอไม่ค่อยได้ออกงานสังคมมากเหมือนเคย

 

 

 

/// ปลอมเป็นแจ๋ว...ซื้อต้นไม้ 
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งเริ่มใช้ชีวิตคู่มีครอบครัวฝ่ายสามีได้ให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นพนักงานขาย  จนกระทั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการ  จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องเรียนรู้งานภายในองค์กรทั้งหมด  ระหว่างที่เดินชมบ้านหลังนี้แล้วมองไปรอบๆ จะเห็นต้นไม้นานาชนิดที่ปลูกเอาไว้มากมาย ไต่ถามไปก็ได้คำตอบว่า เป็นฝีมือของเธอที่เป็นผู้ตกแต่งเองทั้งหมด ต้นไม้ทั้งหมดราคาประมาณหกล้าน แต่เธอสามารถซื้อมาได้อยู่ประมาณสามล้านบาท ต้นไม้ที่ซื้อมาได้ราคาไม่แพงนั้น มาจากคุณขวัญจิตร์ยอมลงทุนปลอมตัวเป็นนางซิน (ซินเดอเรลลา) แต่งกายประมาณ “ผ้าขี้ริ้วห่อทอง” เพื่อไปซื้อต้นไม้มาประดับประดาภายในโครงการหมู่บ้านจัดสรรของเธอเอง รวมถึงบ้านหลังนี้ด้วย เพื่อให้ได้ต้นไม้จากราคาสามสี่หมื่นเหลือหมื่นเดียว อาทิ ต้นหว้า ต้นไข่เน่า พยอม ลีลาวดี อโศกสปัน พยุง ที่เป็นต้นไม้มงคลที่ทุกบ้านน่าจะมีไว้เพราะจะช่วยพยุงครอบครัวของเรานั่นเอง 

“พอดีต้องต้องเปิดโครงการภายในสองวัน  แล้วเขาก็ออกไปทำงานใหม่ที่ภูเก็ต กับเจ้านายที่เคยมีบุญคุณกับเขา แล้วก็ไม่ได้บอกอะไรเราเลย  พี่เลยต้องเรียนรู้เอง จะไปจ้างใครตอนนั้นคงไม่ทัน  มีคนงานในโครงการที่อยู่ใกล้เคียงกันเห็นเราแล้วสงสาร ก็เลยพาไปซื้อต้นไม้จากแหล่งเองเลย   วันที่ไปถ้าแต่งตัวสวยๆแบบนี้จะได้ต้นไม้ราคาถูกมั้ยค่ะ(หัวเราะ)  ทำให้ต้อง ปลอมตัวเป็นชาวสวนสวมหมวกกางเกงวอร์มเก่าๆ ไม่งั้นจะได้ต้นไม้ราคาแพง  ตอนไปซื้อต้นไม้ก็มีบางคนนึกว่าเราเป็นแม่ค้าก็เข้ามาถามว่าต้นไม้นี้ราคาเท่าไหร่  เราก็บอกว่าเราก็เป็นคนซื้อ(หัวเราะ)

 

“แต่แม่ค้าบางคนก็ไม่เชื่อว่าเราเป็นชาวสวน พี่ก็เลยบอกไปว่า  พี่เป็นบริษัทรับจัดสวนวันนี้ลูกน้องไม่อยู่เลยต้องมาดูต้นไม้เอง   ตอนนั้นจำได้ที่เคยไปเลือกซื้อต้นนางขวักแล้วมีค่ายเพลงดังแห่งหนึ่งมาจองเอาไว้หกหมื่นห้า แต่พอเราไปถึงที่ราคาเหลือประมาณหมื่นกว่าบาท แต่พี่ต้องแปลงกายเป็นยายแจ๋วนะพี่ถึงได้ราคานี้ (หัวเราะ) ทำยังไงก็ได้ให้ดูแล้วเป็นคนจน แล้วต้นอินจันกว่าจะโตมีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ตอนนี้ที่บ้านพี่ออกลูกเต็มต้นเลย แล้วพี่เองชอบต้นไม้จัดแบบสวนป่า เป็นต้นไม้เก่าๆด้วย เพราะต้นไม้เหล่านี้อนาคตจะหาดูได้ยาก” ปัจจุบันทำให้เธอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้นานาชนิดไปโดยปริยาย

 

 /// สร้างบ้านอิงฮวงจุ้ย 
ระหว่างเดินเข้าไปในใจกลางบ้านก็ได้พบกับ เจ้าที่ตี่จู้ หรือ "ตี่จู้เอี้ย" เป็นเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวจีนให้ความเคารพ และนิยมกราบไหว้กันมานมนานแล้ว ด้วยมีความเชื่อว่าเจ้าที่ตี่จู้ หรือตี่จู้เอี้ย ท่านสามารถอำนวยโชคลาภ นำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้กับบ้านเรือนและผู้พำนักอาศัย ตลอดถึงกิจการค้าต่างๆให้เจริญรุ่งเรือง 

“ตรงนี้พี่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพราะจะบ่งบอกถึงอำนาจบารมีโชคลาภของเจ้าของบ้าน การสร้างอะไรสักอย่างหนึงต้องอิงด้วยหลักฮวงจุ้ย ขนาดต้องพอดีและสมส่วน ความอลังการจะต้องมี พี่เชื่อว่าจะส่งผลมาให้อย่างที่พี่เป็น ดูแล้วสมบูรณ์เห็นแล้วน่าเคารพ ผนังรอบนอกตี่จู้เอี้ยจะเป็นวอลเปเปอร์พิเศษผสมทองจากฝรั่งเศส ส่วนด้านในจะเป็นกระเบื้องทองอลังการ ตรงกลางเป็นกิเลนที่ซื้อมาจากประเทศจีน ซินแสยังแนะนำว่า ตี่จู้เอี้ย ควรจะเป็นสีแดงและทองมันหมายถึงความรุ่งโรจน์ ห้ามใช้เป็นหินอ่อนเด็ดขาด เพราะจะไม่ถูกโฉลกกับฮวงจุ้ย” 

นอกจากนี้ถามถึงหลักในการดำเนินชีวิตตลอดของการใช้ชีวิตที่ผ่านมา “หลักการดำเนินชีวิตของพี่ไม่มีอะไรมาก  ทุกสิ่งทุกอย่างทุกคนเกิดมาต้องลำบากมีอุปสรรค มีปัญหาในชีวิตทุกคน อยู่ที่ว่าเราจะต้องทำตัวอย่างไร เพื่อให้ตัวเองมีความสุขอยู่ในความทุกข์  หรือเมื่อความทุกข์เข้ามาเราต้องรู้ว่า เราจะแก้ปัญหานั้นอย่างไร   เพราะปัญหาที่เข้ามาเราต้องสู้และต้องคิด  ตรงนี้คือ วิกฤตคือโอกาส  เพราฉะนั้นเราเจอวิกฤต เราเจอปัญหา ถ้าเราฝึกคิดและแก้ปัญหาอันนั้นได้มันเป็นอีกหนึ่งวิชาที่เราจะได้รับ  ฉะนั้น เรายิ่งมีปัญหาแล้วแก้ปัญหานั้นได้ นั่นคือ วิชาชีวิตที่เราจะได้ ซึ่งจะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้น เราต้องดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความสุขแม้เราจะทุกข์ เราก็ต้องมีความสุขอยู่ในความทุกข์นั้นด้วย และคิดให้เป็นอนิจจัง  บางครั้งก็มีบ้างกับอารมณ์โมโห แต่ธรรมะจะคอยเข้ามาทำให้ความอารมณ์ที่ร้อนให้เย็นลงได้ ”

 

สุดท้ายของการเดินชมบ้านโดยรอบที่ด้านหลังยังจำลองพื้นที่ปลูกผักสวนครัวเหมือนในชนบทเพื่อเป็นความทรงจำของครอบครัว  “ขวัญจิตร์ อุดมสุขนิรันดร”  กล่าวปิดท้ายเอาไว้อย่างน่าคิด “ชีวิตที่ผ่านมาเป็นสัจธรรม จริงๆมันไม่มีอะไรเลย  สัจธรรมของชีวิตมนุษย์  ทุกคนสูงสุดคืนสู่สามัญ ทุกวันนี้ก็จะทำบุญสะสมความดี โดยเฉพาะกฐินพระราชทานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานให้กับวัดใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ พี่ก็ลงไปทำมาแล้วสองปีกับท่าน พลเอก ณพล บุญทับ พี่รู้สึกมีความสุขที่ได้ลงไปทำบุญกับวัดที่ไม่ค่อยมีใครได้ลงไปทำบุญกัน เพราะที่นั่นยังเป็นพื้นที่สีแดง เพื่อให้พระสงฆ์ได้ใช้ภายในวัด พี่คิดว่าเป็นบุญที่แรง แต่วันอื่นๆก็ทำตามกำลังศรัทธา”

 

ล้อมกรอบ

 

[HEAD]

 

Thailand’s real life ‘’Cinderella’’

 

Kwanchit Udomsuknirundorn  ‘’We all have to return to basics.’’

 

[INTRO]

 

Revealing the incredible life-changing story of “Kwanchit Udomsuknirundorn”, who has become Thailand’s real life ‘’Cinderella’’. Uncovering a classic post-modern, yet partly vintage, glam mansion, that took 4 years to build with the budget of 300 million THB. Also sharing with us the truth of human life she has found-‘’we all have to return to basics.’’

 

[BODY]

 

Many years back, when we were talking about female socialites who shone brightly in the high class society, with the kind of beauty which never diminishes, one of the names on the list had to be Kwanchit Udomsuknirundorn, a former board executive of K.C. Property Public Company LTD. Although she did not commit herself to attending social events very often, but whenever she did, her super stunning appearance was always in evidence. She has opened up to us about her family life and allowed us to have a look inside her mansion in Rom Klao for the first time. She also told us how she leads her life these days in accordance with Buddhist philosophy. Finally, she shared with us how she spends her life with her partner  Mr.Apisit Ngamachariyakul, which she said ‘’I love and respect him as if he is my own father. We have been together for 30 years and our two daughters have both finished their master’s degrees.’’