ห้างเซ็นทรัล ผนึกค่ายนาฬิกาชั้นนำ ทุ่มงบ 80 ล้านบาท ตั้งเป้า 800 ล้านบาท

ห้างเซ็นทรัล ผนึกค่ายนาฬิกาชั้นนำ ทุ่มงบ 80 ล้านบาท ตั้งเป้า 800 ล้านบาท

 

 

 

 

 

ห้างเซ็นทรัล ผนึกค่ายนาฬิกาชั้นนำ ทุ่มงบ 80 ล้านบาท ตั้งเป้า 800 ล้านบาท
ประกาศ 2 งานนาฬิกายิ่งใหญ่ “นาฬิกา-จิวเวลรี่” ระดับประเทศ

พร้อมเปิดตัว “ธาพิดา นรพัลลภ” ทายาทเซ็นทรัลเจนฯ 3 
โต้โผจัดงานมหกรรมนาฬิกา 2 ครั้งสุดยิ่งใหญ่

 

 

          กรุงเทพฯ, 8 ส.ค. 62 : ห้างเซ็นทรัล ผู้ริเริ่มการจัดมหกรรมนาฬิกาประจำปีที่ยิ่งใหญ่ในประเทศไทย 
จนกลายเป็นสุดยอดมหกรรมนาฬิกาแห่งภูมิภาคเอเชีย นำโดย ธาพิดา นรพัลลภ ออมนิ-แชนแนล เมอร์ชั่นไดซิ่ง 
ไดเร็กเตอร์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เดินหน้าตอกย้ำความสำเร็จในฐานะกูรูงานนาฬิกา ผนึกค่ายนาฬิกา
ชั้นนำ ทุ่มงบ 80 ล้านบาท แถลงข่าวจัดงาน “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” (Central | ZEN International Watch Fair 2019) มหกรรมนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย ครั้งที่ 21 ณ ดิ อีเว้นต์ ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม ระหว่างวันที่ 20 ส.ค. 62 16 ก.ย. 62 และความพิเศษในปีนี้ ห้างเซ็นทรัลได้จัดงาน 
“เดอะ เวิลด์ พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” (The World’s Premier Watch & Jewellery Expo) มหกรรมสุดยิ่งใหญ่ที่รวบรวมนาฬิกาและจิวเวลรี่จากแบรนด์ดัง ครั้งแรกใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 25 ก.ย. - 6 ต.ค. 62 รวมมูลค่านาฬิกาและจิวเวลรี่กว่า 6,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายทั้งสองงาน 800 ล้านบาท ณ ห้องแพลตินัม เลาจน์ ชั้น 7 ห้างเซ็นทรัลชิดลม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม 2562       

 

ความครบครันของสุดยอดแบรนด์นาฬิการะดับเวิลด์คลาส แบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะห้างเซ็นทรัล รวมถึงคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุด ลิมิเตด เอดิชั่น รวมกว่า 180 แบรนด์ ส่งตรงจาก 2 งานแสดงนาฬิการะดับโลกที่บรรดาวอทช์เลิฟเวอร์ทั่วเอเชียตั้งตารอคอยทุกปี คือ บาเซิลเวิลด์ 2019 (Basel World 2019) และเอสไอเอชเอช (SIHH-The Salon International de la Haute Horlogerie) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาให้อัปเดตพร้อมกันที่ประเทศไทย ด้วย “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด” และ “โปรโมชั่นที่ดีที่สุด”

 

            การจัดมหกรรมนาฬิกาสุดยิ่งใหญ่ปีที่ 21 นี้ มาพร้อมจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่นับว่าเป็นปรากฏการณ์หน้าประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่น่าจับตาในรอบ 2 ทศวรรษ ทั้งเชิงรูปแบบการจัดงาน และกลยุทธ์การตลาด โดยห้างเซ็นทรัลได้ลุกขึ้นมาปรับกลยุทธ์การทำตลาดนาฬิกา ด้วยการ จัดงานนาฬิกา 2 ครั้ง 2 สถานที่ สถานที่แรกคือ ห้างเซ็นทรัลชิดลม ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 21 ครั้งที่สอง จัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้นำจิวเวลรี่เข้ามาร่วมในครั้งนี้บนพื้นที่ใหญ่ที่สุด เต็มพื้นที่ชั้น 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จึงคาดว่าทั้ง 2 สถานที่ จะเป็นเดสทิเนชั่นแหล่งท่องเที่ยวและช็อปปิ้งอันดับต้นๆ ของกลุ่มลูกค้าคนไทยและต่างชาติ

 

            บรรยากาศภายในงานแถลงข่าว ได้รับเกียรติจากผู้บริหารแบรนด์นาฬิกาดัง มาร่วมนั่งพูดคุยถึงเทรนด์นาฬิกา และนาฬิกาไฮไลต์ที่เตรียมนำมาให้อัพเดทและจับจองกันเฉพาะในงาน “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” ดังนี้ ทิพาณัท เลณบุรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด มากับนาฬิกาจาก LONGINES Master Collection และแบรนด์ TISSOT Seaster 1000 Quartz Chrono, ยูมิ เคียงศิริ ผู้อำนวยการอาวุโส แผนกสื่อสารการตลาด บริษัท เพนดูลัม จำกัด มากับนาฬิกา FRANCK MULLER รุ่น VANGUARD GRAVITY TOURBILLON และ BREITLING รุ่น Navitimer 1 B01 Chronograph 43 Pan Am Edition, เตย มหาดำรงกุล ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท โทรคาเดโร ไทม์ จำกัด มากับนาฬิกา ORIS 40th Squadron Limited Edition  และ GUCCI G-Timeless Automatic, ศาศวัต ตัณมานะศิริ บริษัท ที เอส แอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตัวแทนจำหน่าย TAG Heuer แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มากับนาฬิกา BOMBERG Bolt-68 MAYA และ Bomberg Bolt-68 racing, เทวินทร์ เรศานนท์ บาชโทลด์ กรรมการบริหาร, ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท บาชโทลด์ จำกัด มากับนาฬิกา CORUM Golden Bridge Rainbow และPARMIGIANI FIEURIER Kalpagraphe Chronometre Parmigiani Flueurier  และ ไกรรพ เหลืองอุทัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จีไอเอส จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG) ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยของ บริษัท การ์มิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด มากับนาฬิกา GARMIN MARQ Series ทั้ง 5 เรือน ได้แก่ MARQ Driver, MARQ Aviator, MARQ Captain, MARQ Expedition และ MARQ Athlete

 

ธาพิดา นรพัลลภ ออมนิ-แชนแนล เมอร์ชั่นไดซิ่ง ไดเร็กเตอร์ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยถึงรูปแบบการจัดงานที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม ซึ่งแตกต่างจากปีที่ผ่านมาว่า “ปีนี้เราจัดงานนาฬิกา 2 ครั้ง 2 สถานที่ คือ “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์” และ “เดอะ เวิลด์ พรีเมียร์ วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” มาพร้อมกับความท้าทายใหม่เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า โดยเราปรับกลยุทธ์จากเดิมที่จะจัดงานนาฬิกาที่เซ็นทรัลชิดลมเพียงแห่งเดียว แต่ปีนี้เราต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จึงได้จัดงาน 2 สถานที่ และเรายังได้นำแบรนด์จิวเวลรี่เข้ามาร่วมเป็นครั้งแรกในปีนี้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 

            สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาด ที่ตอกย้ำเรื่อง “ช่วงเวลาที่ดีที่สุดและโปรโมชั่นที่ดีที่สุด” ที่จะซื้อนาฬิกาและจิวเวลรี่ สู่เป้าหมายยอดขาย 800 ล้านบาท คุณธาพิดาเปิดเผยว่า “ทุกช่วงการจัดงานในปี 2019 นี้ เราได้คัดสรรช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อนาฬิกา ซึ่งห้างเซ็นทรัลตั้งใจจัดขึ้นเพื่อนำคอลเลกชั่นล่าสุดจากแบรนด์ดังระดับโลกตลอดจนเรือนไฮไลต์ ส่งตรงจากงาน Basel World 2019 และ SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาให้ผู้ที่รักนาฬิกาชาวไทยและต่างชาติที่รอคอยมาเลือกชม โดยหลายคอลเลกชั่นได้นำมาให้จับจองเป็นเจ้าของในงานนี้เป็นที่แรก และมีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลเท่านั้น

 

            ในปีนี้ เราได้เตรียมโปรโมชั่นที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ตอบโจทย์ลูกค้าทุกคนตั้งแต่นาฬิกาสมาร์ตวอทช์ จนถึงลักซ์ชัวรี่วอทช์ เรามีมูลค่าคูปองสูงสุดถึง 135,000 บาท ซึ่งเราคิดว่าเป็น Value ที่คุ้มค่ามากๆ ในการมาเลือกซื้อนาฬิกาที่เซ็นทรัลในช่วงนี้ ด้วยโปรโมชั่นที่ดีที่สุด และในส่วนโปรโมชั่นบัตรเครดิต เราได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรบัตรเครดิต 9 บริษัทที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าของเรา ดังนั้น เราจึงมีโปรโมชั่นครอบคลุมทุกเรื่องทุกบัตรให้กับลูกค้าของเรา

 

ทั้งนี้ เรามี Big Data จากบัตร The1 ที่สะสมข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2006 เป็นเวลามากกว่า 10 ปี มีสมาชิกมากกว่า 15 ล้านคน เราจึงมีการเก็บข้อมูล และรู้พฤติกรรมของลูกค้าว่าแต่ละคนชอบอะไร และมีความถี่การซื้อของแค่ไหน ทำให้สามารถวางแผนกระตุ้นให้เกิดการซื้อ และตรงต่อความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ในขณะที่ลูกค้าในประเทศเวียดนาม มีผู้ถือบัตร The1 ของเราจำนวนมากเช่นกัน มีสมาชิกถึง 10 ล้านคน ดังนั้น เราจึงสามารถที่จะทราบพฤติกรรมการช็อปปิ้งของกลุ่มลูกค้าเหล่านี้และสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง

 

          ด้าน ช่องทางการจัดจำหน่าย ออมนิแชนแนล เรามีนาฬิกาจำหน่ายภายในห้างเซ็นทรัลชิดลม และห้างเซ็นทรัล 22 สาขา รวมถึงการจำหน่ายนาฬิกาในเซ็นทรัลออนไลน์ หรือบริการ Chat & Shop ลูกค้าจึงสามารถมาสั่งซื้อนาฬิกาผ่านช่องทางออนไลน์ หรือมาทดลองในห้างแล้วตัดสินใจซื้อในออนไลน์ได้ ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อกันได้หมดแบบไร้รอยต่อ นอกจากนี้เราสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคผ่านสื่อทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ โดยห้างเซ็นทรัลเป็นที่ 1 ในทุกช่องทางที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ค อาทิ Facebook มีผู้ติดตาม 1,302,599 Instagram มีผู้ติดตาม 93,612 Twitter มีผู้ติดตาม 970,000 และ Line มีผู้ติดตาม 6,436,327 จึงทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งลูกค้าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าๆ กัน

 

            ด้านความพิเศษของการจัดงานนาฬิกาครั้งที่ 2  “เดอะ เวิลด์ พรีเมีย วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป” (The World’s Premier Watch & Jewellery Expo) มหกรรมสุดยิ่งใหญ่ที่รวบรวมนาฬิกาและจิวเวลรี่จากแบรนด์ดัง 
ครั้งแรกใจกลางกรุง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 25 ก.ย. - 6 ต.ค. 62 ซึ่งเป็น “ช่วงเวลาที่ดีที่สุด” เนื่องจากในช่วงเวลาจัดงานเป็นช่วง Golden Week หรือวันชาติของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทยจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นโอกาสที่ถูกต้องและดีที่สุด

 

นอกจากตลาดจีนแล้ว ยังมีตลาดกลุ่มประเทศ CLMV ที่เข้ามาท่องเที่ยวช่วงปลายปี ซึ่งกลุ่มนี้มีแนวโน้มช็อปปิ้งที่ห้างเซ็นทรัลสูงขึ้น โดยครึ่งปีแรกของ 2019 มียอดใช้จ่ายสูงขึ้น +10% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2018 และประเทศที่มีอัตราเติบโตสูงสุดคือ กัมพูชา (Cambodia) โดยครึ่งปีแรกของ 2019 มียอดใช้จ่ายสูงขึ้น +25% จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรามั่นใจว่าสามารถเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ได้

 

ครั้งแรกของตลาดจิวเวลรี่ร่วมกับนาฬิกา คุณธาพิดา กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “เรามองว่าจิวเวลรี่เป็นสินค้าที่อยู่ในหมวดลักซ์ชัวรี่ ซึ่งเป็นหมวดเดียวกับนาฬิกา ที่หลายคนมักซื้อไว้เพื่อการสะสมและลงทุน เพราะสินค้าเหล่านี้มีมูลค่าคงทน และมูลค่าจะเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ในช่วงที่ผ่านมาความต้องการซื้อของลูกค้ายังมีอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่นิยมซื้อเพชรเพื่อใช้สำหรับการออกงานสังคม อีกกลุ่มหนึ่งซื้อไว้เพื่อเป็นสินทรัพย์และเพื่อการลงทุน

 

สำหรับเทรนด์นาฬิกาจากบาเซิลเวิลด์ที่มาแรงในปีนี้ มี 5 เทรนด์ ได้แก่

1. Vintage Inspired ที่ได้รับความนิยมจากคนรักนาฬิกาทุกสมัย ขณะเดียวกันแบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ต่างก็นำดีไซน์อันเป็นตำนาน กลับมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้ง ให้โฉบเฉี่ยว รวมถึงดีไซน์หน้าปัดให้มีขนาดเล็กลง และสืบทอดซีรีส์รุ่นคลาสสิกให้เป็นที่รู้จักในทุกเจนเนอเรชั่น

2. 3D Innovation แบรนด์นาฬิกาชั้นนำต่างนำเสนองานฝีมือของช่างนาฬิกา ที่สร้างสรรค์กลไก กับนวัตกรรมใหม่ๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์นั้นๆ

3. Infusion of Color เทรนด์นาฬิกาหวนกลับไปหาดีไซน์หน้าปัดที่นำเอาเฉดสีมาไว้บนเรือนเวลา โดยในปีนี้เน้นไปที่นาฬิกากลุ่มสีเขียว น้ำเงิน หรือการใช้การประสานสี เพื่อสะท้อนความต้องการของผู้สวมใส่ที่มากขึ้น

4. Useful Functions นาฬิกาบนข้อมือที่บอกฟังก์ชั่นสำหรับผู้สวมใส่ตามไลฟ์สไตล์ รวมถึงออกแบบฟังก์ชั่นให้มีลูกเล่นและดีไซน์ให้เป็นมากกว่านาฬิกา หรือมีประโยชน์การใช้งานที่มากขึ้น  

5. High-Tech Materials นำเสนอการใช้วัสดุใหม่ที่แตกต่างและแปลกใหม่ โดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้ได้สิ่งที่ไม่มีใครทำในตลาดนาฬิกา

 

เหล่าคนรักนวัตกรรมเรือนเวลาสามารถไปอัปเดต และช็อปปิ้งงาน “เซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019” (Central | ZEN International Watch Fair 2019) ที่มาพร้อมด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลดสูงสุดถึง 30% รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 45% จาก The 1 (เดอะวัน) และบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ พิเศษโหลดรับฟรี!! LINE คูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่า 1,000 บาท ใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อนาฬิกามูลค่า 20,000 บาทขึ้นไป โดยดาวน์โหลดคูปองได้ที่แอปพลิเคชั่นไลน์ Central Department Store รับฟรีคูปองส่วนลดแทนเงินสดสูงสุด 135,000 บาท เมื่อช็อปฯ ตามเงื่อนไข และรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน จากบัตรเครดิตชั้นนำ ณ ดิ อีเว้นต์ ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัล   ชิดลม ระหว่างวันที่ 20 ส.ค. 16 ก.ย. 62  และที่แผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเซน ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. - 6 ต.ค. 62

 

เทรนด์นาฬิกา

Central | ZEN International Watch Fair 2019

 

สำหรับเทรนด์นาฬิกาจากงานบาเซิลเวิลด์ และงาน เอสไอเอชเอชปีนี้ ห้างเซ็นทรัลได้หยิบยกมานำเสนอ 5เทรนด์ ซึ่งได้รับความนิยมจากนักสะสมนาฬิกาทั่วโลก ได้แก่ 1. Vintage Inspired
2. 3D Innovation 3. Infusion Of Color 4. Useful Functions 5. High-Tech Materials

 

1. Vintage Inspired

ดีไซน์และสีสันอันคลาสสิกของนาฬิกาแห่งยุคสมัยยังคงเสน่ห์จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะนาฬิกาจากยุค 40s-70s นำมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้งเป็นเรือนเวลาล้ำค่า รูปทรงสอดรับกับข้อมือและรสนิยมของหนุ่มสาวปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันแบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน ต่างก็นำดีไซน์อันเป็นตำนาน กลับมาสร้างสรรค์ใหม่อีกครั้ง ให้โฉบเฉี่ยว  รวมถึงดีไซน์หน้าปัดให้มีขนาดเล็กลง และสืบทอดซีรีส์รุ่นคลาสสิกให้เป็นที่รู้จักในทุกเจนเนอเรชั่น

 

LONGINES (ลองจินส์)

Master Collection

ราคา 224,300บาท

 

Master Collection จากลองจินส์ คือตัวแทนอันสมบูรณ์แบบแห่งจิตวิญญาณของแบรนด์ ดังจะเห็นได้จากความสำเร็จของคอลเลกชั่นนี้นับตั้งแต่เปิดตัวในปีค.ศ.2005 โดยตัวเรือนมีขนาด 40 มม.ประดับขอบ
ตัวเรือนโรสโกลด์ 18 กะรัต ทำงานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ และแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา หน้าปัดสีเงินบาร์ลีย์คอร์น ตกแต่งเข็มนาฬิกาสีน้ำเงิน มาพร้อมสายรัดข้อมือหนังอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาลอันสะท้อนถึงความสง่างามและคลาสสิกตอกย้ำความเป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีประเพณีสืบทอดยาวนาน และมีความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาทรงประสิทธิภาพพร้อมดีไซน์สง่างามมานับแต่แรกเริ่ม

 

GUCCI (กุชชี่)

Gucci G-Timeless Automatic

ราคา 99,900บาท

 

สร้างสรรค์ความลงตัวแบบร่วมสมัย ด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนอย่างไร้ขีดจำกัดภายใต้การนำของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ อเลสซานโดร มิเคเล่ (Alessandro Michele) ถูกถ่ายทอดส่งผ่านเครื่องบอกเวลาคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์อันเปี่ยมด้วยความเรียบหรู ประดับประดาด้วยโมทีฟหมู่มวลผึ้ง ตัวล็อคปรับเลื่อนสายประดับด้วยแบรนด์โมทีฟInterlocking G ฝาหลังที่เปิดเปลือยให้มองทะลุเห็นกลไกออโตเมติคที่งดงามภายใน และกระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์คริสตัลกันรอยขีดข่วน ทุกเอเลเมนต์ประกอบขึ้นเป็นผลงานประดิษฐกรรมนาฬิการะดับมาสเตอร์พีซของสวิสที่งดงามเหนือกาลเวลา ตัวเรือนสตีลขนาด 38 มิลลิเมตร หน้าปัดหิน Onyx สีดำ แมทช์คู่กับสายสตีลดูเรียบหรู

 

2. 3D Innovation

แบรนด์นาฬิกาชั้นนำต่างนำเสนองานฝีมือของช่างนาฬิกา ที่สร้างสรรค์กลไก กับนวัตกรรมใหม่ๆจนกลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์นั้นๆ เพื่ออวดความวิจิตรของศิลปะแห่งกลไกเวลา ด้วยการเปลือยฝาหลังให้เห็นการทำงานและความสวยงามของจักรกล รวมถึงนำนวัตกรรมใหม่ๆ สร้างสรรค์จนกลายเป็นเสน่ห์สำคัญของการออกแบบนาฬิกาจักรกลโดยช่างผู้ชำนาญ

 

FRANCK MULLER (แฟรงค์ มุลเลอร์)

VANGUARD GRAVITY TOURBILLON

ราคา 7,800,000บาท

 

จากวิศวกรรมสู่การปฏิวัต และผลักเข้าสู่พรมแดนใหม่ๆ ของนวัตกรรมแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา ซึ่งในวันนี้ คอลเลคชั่น กราวิตี้ (Gravity) ยังคงเดินหน้าสร้างวิวัฒนาการ พร้อมการเปิดตัวแนะนำเวอร์ชั่นสเกเลตันจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ากับงานออกแบบอันโดดเด่น นับเป็นการผนวกอย่างสมบูรณ์ของงานออกแบบอันทันสมัยและองค์ความรู้ทางเทคนิคที่ได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่อีกครั้งด้วยโครงสร้างนวัตกรรมของกลไกชุดนี้ได้ถูกจัดวางอยู่ภายใต้รูปทรงวงรีของบรรดาสะพานจักร ซึ่งเจาะขึ้นรูปจากชิ้นเดี่ยวของแท่งอลูมิเนียมมาสู่รูปทรงโค้งนูน เพื่อมอบบุคลิกอันโดดเด่นให้กับนาฬิกา และสร้างภาพอันน่าประทับใจให้กับผู้พบเห็นจากการรวมตัวของเหล่าสะพานจักรรูปทรงโค้งเดียวกัน กลายเป็นภาพแห่งการผจญภัยเล็กๆ ที่ปรากฏอยู่ใต้กระจกคริสตัลแซพไฟร์ ที่ซึ่งจักรกลทั้งหมดของนาฬิกาทำงานร่วมกันดั่งมีชีวิต ผ่านภาพที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนตอกย้ำความอัศจรรย์แห่งจักรกลด้วยลวดลายและโครงสร้างของกรงทูร์บิญอง และเข็มแบบฉลุเปลือย กราวิตี้ สเกเลตัน (Gravity™ Skeleton) ยังเชื้อชวนให้หวนนึกถึงจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของคอลเลคชั่น กราวิตี้ นับตั้งแต่เริ่มต้นการสร้างสรรค์

 

CORUM(โฆรุ่ม)

Golden Bridge Rainbow

ราคา 4,562,100ล้านบาท

มี 18 เรือน ทั่วโลก  และมาจำหน่ายที่ประเทศไทยเพียง 1 เรือนเท่านั้น ในงานเซ็นทรัล | เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2019

 

โกเด้นบริดจ์ เรนโบว์ ได้สร้างความประทับใจกับนักสะสมนาฬิกาผ่านเรือนเวลารุ่น Golden Bridge ในรูปแบบตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมมากว่า 35 ปี มาในปีนี้ โฆรุ่มเผยโฉมนาฬิกา Corum : Golden Bridge Rainbow ด้วยศิลปะการออกแบบร่วมสมัยในแบบตัวเรือนทองคำขาวทรงกลมล้อมด้วยอัญมณีแซฟไฟร์ 7 สีรุ้ง ที่เผยให้เห็นกลไกการเคลื่อนไหวของสะพานทองคำในแนวเส้นตรงตัวเรือนทำจากทองคำขาว 18 กะรัต ขนาด 43 มม. ประดับแซฟไฟร์หลากสี 68 เม็ด นํ้าหนัก 4.50 กะรัต ประกอบด้วย เพอริดอต 15 เม็ด นํ้าหนัก 0.99 กะรัต, ซาโวไรต์ 8 เม็ด นํ้าหนัก 1.04 กะรัต ทับทิม 5 เม็ด นํ้าหนัก 0.65 กะรัต เผยให้เห็นระบบกลไกการทำงานด้านบนและด้านล่างผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ นาฬิการุ่นนี้เป็นกลไกไขลาน CO113 เดินด้วยความถี่ 4 Hz รอบแรงสั่นสะเทือน 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 40 ชั่วโมง กั้นนํ้า 30 เมตร มาพร้อมสายหนังจระเข้และตัวพับล็อคสายทำจากทองคำขาว 18 กะรัต

 

3. Infusion Of Color

เทรนด์นาฬิกาหวนกลับไปหาดีไซน์หน้าปัดที่นำเอาเฉดสีมาไว้บนเรือนเวลา โดยในปีนี้เน้นไปที่นาฬิกากลุ่มสีเขียว น้ำเงิน หรือการใช้การประสานสี เพื่อสะท้อนความต้องการของผู้สวมใส่ที่มากขึ้น

 

BOMBERG (บอมเบิร์ก)

Bomberg Bolt-68 racing

ราคา 31,500บาท

 

เป็นนาฬิกา chronograph ที่เท่ไม่เหมือนใครด้วยลักษณะพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bomberg ซึ่งประกอบไปด้วย หน้าปัดที่ใหญ่พิเศษ ด้วยขนาด 45มม. เม็ดมะยมที่ตำแหน่งเลข 12 นาฬิกา และปุ่มกดจับเวลาที่ตำแหน่งเลข 11 นาฬิกา สีเข้ากับตัวเรือนและฟังชั้นที่เท่ที่สุดของ Bomberg คือสามารถถอดตัวเรือนเป็นนาฬิกาข้อมือเป็นนาฬิกาพกได้ด้วยชุดเหรียญและสายโซ่ที่สามารถเลือกมาเข้าคู่กับ Bolt-68 Racing ได้เพื่อเติ่มเต็มความเท่ให้กับเรือนเวลาเรือนนี้ มีให้เลือกถึง 4 สี จับคู่มากับสายยางสวมใส่สบายหน้าปัดถูกออกแบบมาให้สะท้อน lifestyle ความเป็น motorsport ออกมาได้อย่างดีด้วยลายเส้นที่ลากฝ่านหน้าปัดนาฬิกาเพื่อเป็นตัวแทนแสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวของตัวเองไม่เหมือนใครในแบบของ Bomberg

 

4. Useful Functions

แบรนด์นาฬิกาต่างหันมาสร้างสรรค์ผลงานที่ทันสมัยและแปลกใหม่ รวมถึงออกแบบฟังก์ชั่นให้มีลูกเล่นและดีไซน์ให้เป็นมากกว่านาฬิกา หรือมีประโยชน์การใช้งานที่มากขึ้น เช่น นาฬิกาที่มีฟังก์ชั่น  GMT หรือตัวจับเวลาโลก ฟังก์ชั่น Chronograph หรือฟังก์ชันอื่นๆที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น การสนทนาโทรศัพท์ผ่านตัวนาฬิกา, การแสดงแผนที่และการนำทาง,  เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ผู้ที่ง่ายต่อการสวมใส่ และช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้ดูดี

 

TISSOT (ทิสโซต์)

TissotSeastar 1000 Quartz Chrono

ราคา 18,700บาท

 

‘ทิสโซต์’ (Tissot) ผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพมาตรฐานสวิสเอาใจคนชอบกีฬาทางน้ำและคนชอบนาฬิกาสปอร์ตเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยทายาทซีสตาร์ใหม่ล่าสุดรุ่น ‘ทิสโซต์ ซีสตาร์ 1000 ควอทซ์ โครโน’ (TissotSeastar 1000 Quartz Chrono) โดดเด่นด้วยการออกแบบอันมีสไตล์สง่างาม มาพร้อมฟังก์ชั่นจับเวลาโครโนกราฟอันแม่นยำ ตลอดจนความสามารถกันน้ำลึกระดับ 30 บาร์ หรือ 1000 ฟุต และกลไกควอทซ์คุณภาพสูงและได้รับความเชื่อถืออย่างยาวนาน ทำให้สามารถสวมใส่นาฬิกาเพื่อดำดิ่งในท้องทะเลหรือเล่นกีฬาทางน้ำได้อย่างมั่นใจนอกจากนั้นเข็มนาฬิกาและเครื่องหมายบอกเวลายังเคลือบสารเรืองแสงเพื่อดูเวลาในสภาพแสงน้อยหรือดำน้ำได้สะดวกสบาย ขณะที่บนขอบตัวเรือนแสดงนาทีตัวเลขอารบิกขนาดใหญ่ทุกๆ 10 นาทีและเพิ่มเครื่องหมายแสดงนาทีต่อนาทีใน 20 นาทีแรกเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับนักดำน้ำในการคำนวณเวลาดำดิ่งลงท้องทะเลและกลับสู่ผิวน้ำอย่างปลอดภัย ส่วนฝาหลังสกรูปิดผนึกแน่นหนาและเม็ดมะยมได้รับการป้องกันความเสียหายจากการดำน้ำที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลา และความพิเศษของรุ่นนี้คือได้รับการออกแบบเพื่อเชื่อมโยงกับมหาสมุทร ด้วยการแกะสลัก ‘ม้าน้ำ’ หรือที่รู้จักฉายาว่า ‘นักอำพรางตัวยง’ ที่ฝาหลังและหน้าปัดเป็นสีน้ำเงินเข้มสะท้อนถึงความลึกลับน่าค้นหาของท้องทะเลอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้นาฬิกาเหมาะกับคนหลงใหลมหาสมุทรอย่างแท้จริง

 

GARMIN (การ์มิน)

MARQ Driver (MARQ ซีรี่ส์)

ราคา 92,990บาท

 

MARQ Driver สำหรับผู้รักความเร็ว มาพร้อมข้อมูลสนามแข่งกว่า 250 สนามทั่วโลก โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นแยกเวลาแต่ละรอบ (Lap) ให้อัตโนมัติ เทียบเวลาของรอบปัจจุบันกับรอบที่เร็วที่สุดในการแข่งขัน เสียงรายงานทุกการจบรอบ และแสดงผลเวลาของแต่ละรอบในการแข่งขัน รวมทั้งสรุปผลแสดงเวลาของรอบที่เร็วที่สุด จำนวนรอบทั้งหมด และความเร็วสูงสุดที่ใช้ในการแข่งขัน ขนาดตัวเรือน 46 x 14.7 มิลลิเมตร

 

MARQ ซีรี่ส์ ลักซ์ชัวรี่สมาร์ทวอทช์ ที่ประกอบด้วย 5 รุ่น ได้แก่ MARQ Athlete, MARQ Captain, MARQ Aviator, MARQ Driver และ MARQ Expedition โดยทั้ง 5 รุ่น นอกจากจะมีฟังก์ชั่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ทุกรุ่งยังได้รับการออกแบบโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงด้วยวัสดุไทเทเนียมที่มีน้ำหนักเบา มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อทุกสภาพกิจกรรม และเลนส์หน้าปัดทำจากคริสตัล แซฟไฟร์ มีความทนทานต่อความร้อนและแรงกดดันสูงมากถึงสองเท่า พร้อมขอบตัวเรือนจากเซรามิกที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อป้องกันการสึกหรอจากสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทาย มีจอแสดงผลที่อ่านได้ตลอดเวลา รองรับสัญญาณดาวเทียมสามระบบทั้ง GPS, GLONASS และ GALILEO พร้อมแผนที่ TOPO MAP แสดงลักษณะภูมิประเทศ ฟังก์ชันแสดงความลาดชันของทาง แผนที่สกี และข้อมูลสนามกอล์ฟทั่วโลกกว่า 41,000 สนาม นอกจากนั้น ยังมีฟังก์ชันระดับพรีเมี่ยมรองรับแอพพลิเคชัน Sportifyที่สามารถการเก็บและฟังเพลงได้สูงสุดถึง 2,000 เพลง และใช้จ่ายเงินผ่านบริการ GARMIN Pay พร้อมเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและค่าความเครียด สามารถติดตามคุณภาพของการนอน รวมทั้งติดตามทุกกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน รองรับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนได้ทุกภาษา ด้วยระยะเวลาการใช้งานที่ต่อเนื่องยาวนานสูงสุดถึง 12 วันในโหมดปกติ

 

 5. High-Tech Materials

แบรนด์นาฬิกาชั้นนำต่างนำเสนอการการใช้วัสดุใหม่ที่แตกต่าง และแปลกใหม่โดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้ได้สิ่งที่ไม่มีใครทำในตลาดนาฬิกา

 

BREITLING (ไบรทลิ่ง)

Navitimer1 B01 Chronograph 43 Pan Am Edition

ราคา 278,000บาท

 

นาฬิกา นาวิไทเมอร์ 1 บี01 โครโนกราฟ 43 แพน แอม เอดิชั่น (Navitimer1 B01 Chronograph 43 Pan Am Edition) ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการนี้โดดเด่นด้วยหนึ่งในโลโก้อันเป็นที่จดจำได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของการบิน ซึ่งพิมพ์อยู่บนฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ใส เป็นเวลาหลายทศวรรษที่แพน อเมริกัน เวิลด์ แอร์เวย์ส (Pan American World Airways) ถือเป็นกำลังสำคัญอันโดดเด่นในโลกการบินพาณิชย์ และยังคงครองบทบาทสำคัญอีกยาวนานหลังจากที่สายการบินนี้ได้หยุดดำเนินการลง โดยยังคงเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเรื่องราวความน่าตื่นเต้นของการเดินทางทางอากาศ สำหรับ แพน แอม เอดิชั่น นี้มีตัวเรือนสเตนเลสสตีล คู่ด้วยหน้าปัดสีน้ำเงิน หน้าปัดย่อยสีเงิน โดยแพน แอม เอดิชั่น ล่าสุดนี้นับเป็นสมาชิกรุ่นที่สองของ ไบรทลิ่ง แคปซูล คอลเลกชั่น

 

PARMIGIANI FIEURIER (พาร์มิเจียนี่ เฟลอริเยร์)

KalpagrapheChronometreParmigianiFlueurier

ราคา 1,1357,200 บาท

 

KalpagrapheChronometreParmigianiFlueurierได้สร้างความประทับใจด้วยการเปิดตัวคอลเลคชั่น Kalpaรุ่น KalpagrapheChronometre Titanium โครโนกราฟที่มีรูปทรงแบบ Tonneauหรือทรงถังเบียร์ที่ผลิตขึ้นเองทั้งหมด กลไกไขลานอัตโนมัติที่จัดวางบนจานหลักแผ่นเดียว โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน COSC ที่รวมการพัฒนาเทคโนโลยีลํ้าสมัยมาเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ นาฬิกานี้สำรองพลังงาน 65 ชั่วโมง เดินด้วยความถี่ 5 Hz รอบแรงสั่นสะเทือน 36,00ครั้งต่อชั่วโมง มาพร้อมสายยางและตัวพับล็อคสายทำจากไทเทเนียม