“พพ.” นำทีมผู้ประกอบการส่องเทคโนโลยีอาคารสีเขียวเอสซีจี เฮลท์ เซ็นเตอร์
“พพ.” นำทีมผู้ประกอบการส่องเทคโนโลยีอาคารสีเขียวเอสซีจี เฮลท์ เซ็นเตอร์
พพ.นำคณะผู้ประกอบการโรงงานอาคาร และธุรกิจด้านพลังงาน กว่า 30 ราย ส่องโมเดลเทคโนโลยีการออกแบบอาคารสร้างสรรค์รักษ์สุขภาพประหยัดพลังงานที่อาคารเอสซีจีเฮลท์ เซ็นเตอร์ ของเอสซีจี การันตรีผ่านรางวัลไทยแลนด์เอเนอร์จี้อวอร์ด 2019
นางสาวบุษรินทร์สุวรรณศรี หัวหน้ากลุ่มประชาสัมพันธ์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ พพ.ได้นำคณะเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการโรงงานอาคาร และธุรกิจด้านพลังงานกว่า 30 ราย เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูผลสำเร็จของผู้ได้รับรางวัลไทยแลนด์เอเนอร์จี้อวอร์ด ประจำปี 2562 (Thailand Energy Award 2019) ด้านอนุรักษ์พลังงาน รางวัลดีเด่นอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน อาคารเขียว (Green Building) ที่อาคารเอสซีจี เฮลท์ เซ็นเตอร์ (SCGHealth Center) ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)ที่ได้ติดตั้งระบบผลิตพลังงานหมุนเวียนจากแสงอาทิตย์ กำลังผลิตทั้งหมด 120กิโลวัตต์ คิดเป็นการใช้พลังงานทดแทน ประมาณ 25 % สอดรับมาตรฐานอาคารสีเขียวของสหรัฐฯหรือ ลีด แพลทินัม เลเวล (LEED Platinum Level)“อาคารเอสซีจี เฮลท์ เซ็นเตอร์ (SCGHealth Center) สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดการออกแบบให้ความสำคัญกับการบริหารการจัดการเพื่อพัฒนาอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือ Green building และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของพนักงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมีความสุขกับการทำงาน พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม”นางสาวบุษรินทร์ กล่าว
สำหรับการออกแบบอาคารสร้างสรรค์เพื่อการอนุรักษ์พลังงานอาคารเขียว (GreenBuilding) ที่อาคารเอสซีจี เฮลท์ เซ็นเตอร์ มุ่งเน้นให้ความสำคัญใน3 เรื่องหลัก ๆ คือ 1.เรื่องพลังงานโดยใช้ระบบโซลาร์พาแนล ซึ่งเป็นตัวพลังงานทดแทน ซึ่งช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ในอาคารของเอสซีจี 2.เรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม3. เรื่องของการออกแบบที่ใช้อุปกรณ์ที่มีความเหมาะสมในการใช้งานในประเทศไทยขณะเดียวกันการออกแบบยังยึดเกณฑ์อาคารระดับสากล หรือ ลีด แพลทินัม เลเวล (LEEDPlatinum Level) พร้อมกับการให้ความสำคัญในการนำระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน(Circular Economy) มาบริหารจัดการในเครือเอสซีจี เอสซีจี ยังมีแผนในการพัฒนาอาคาร เอสซีจีเฮลท์ เซ็นเตอร์ ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้ได้ไม่น้อยกว่า50 ปี ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาบริหารจัดการรักษาอาคารดังกล่าวในอนาคตต่อไป ซึ่งจัดกิจกรรมเดินสายศึกษาอาคารอนุรักษ์พลังงานที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไทยตอบรับเข้าร่วมศึกษาเทคโนโลยีต้นแบบด้านการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์พลังงานได้เป็นอย่างดีสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการไทยมีการตื่นตัวพัฒนาพลังงานทดแทนที่เป็นพลังงานสะอาดมากขึ้น