เลขาธิการ คปภ. ลั่นฆ้องปีหนูทอง ชูหลัก 4T เป็นเรือธง นำทัพ คปภ. ก้าวสู่ SMART OIC

เลขาธิการ คปภ. ลั่นฆ้องปีหนูทอง ชูหลัก 4T เป็นเรือธง นำทัพ คปภ. ก้าวสู่ SMART OIC

 

 

 

 

 

เลขาธิการ คปภ. ลั่นฆ้องปีหนูทอง ชูหลัก 4T เป็นเรือธง นำทัพ คปภ. ก้าวสู่ SMART OIC ผ่านเวทีสัมมนาองค์กรประจำปี “สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ก้าวไกล สู่อนาคต”

 

 

 

 

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาพนักงาน คปภ. ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด “SMART OIC สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ก้าวไกล สู่อนาคต” เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ณ โรงแรมรีเจนท์ ชะอำ บีช รีสอร์ท จังหวัดเพชรบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา และแนวทางการดำเนินงานในปี 2563 พร้อมมอบนโยบายให้กับพนักงานและลูกจ้าง สำนักงาน คปภ. จำนวน 764 คน

 

สำหรับทิศทางและนโยบายการดำเนินงานในปี 2563 สำนักงาน คปภ. ต้องเผชิญกับปัจจัยความท้าทายมากขึ้น อาทิเช่น การสร้างความเข้าใจในกฎกติกาต่างๆ ที่ได้ประกาศใช้ในปี 2562 การกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิดและ ป้องปรามผู้ที่จะกระทำความผิดฉ้อฉลประกันภัย การเตรียมพร้อมรับมือการบังคับใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเงินของไทยและต่างประเทศ ความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการรุกคืบของ Digital Insurance ตลอดจนมาตรฐานสากลต่าง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจประกันภัย สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลต้องกำหนดมาตรการขับเคลื่อนและทิศทางการส่งเสริมพัฒนา เพื่อบริหารจัดการให้อุตสาหกรรมประกันภัยทั้งระบบพร้อมรับมือกับความท้าทาย และสามารถข้ามพ้นอุปสรรคต่างๆ ได้

 

 

 

ในปีที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินภารกิจที่สำคัญต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสำนักงาน คปภ. อาทิ การผลักดันการปรับปรุงกฎหมายแม่บทด้านการประกันภัยทั้ง 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 มุ่งเน้นการให้ความคุ้มครองประชาชนโดยตรง ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 มีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 กลุ่มที่ 2 เกี่ยวกับการเสริมเสถียรภาพและความมั่นคงของบริษัท และกลุ่มที่ 3 เกี่ยวกับการส่งเสริมการควบโอนกิจการและความรับผิดของกรรมการและผู้มีอำนาจในการจัดการ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การได้รับรางวัลเลิศรัฐ สาขาบริการภาครัฐ ประจำปี พ.ศ. 2562 ประเภทพัฒนาการบริการ เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 การเข้าร่วมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปี 2562 โดยได้รับผลการประเมินอยู่ในระดับ A หรือคิดเป็นผลการประเมินเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 87.95 ตลอดจน การเข้ารับการประเมินภาคการเงินสาขาประกันภัย FSAP ซึ่งสามารถผ่านการประเมินตามเกณฑ์ ICP ทั้ง 26 ข้อ ตามผลการประเมินเต็มรูปแบบของสาขาประกันภัยของประเทศไทย โดยได้คะแนนในระดับที่ดีมาก ในลำดับที่ 4 ของโลก และเป็นลำดับที่ 2 ของภูมิภาคอาเซียน

 

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานนอกจากจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทางเทคโนโลยีแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องทรัพยากรบุคคล ซึ่งผลักดันให้ภารกิจของสำนักงาน คปภ. ลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนโครงการและแผนงานที่สำคัญหลายโครงการ อาทิ โครงการการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้เป็นระบบและเป็นมาตรฐาน โดยจะพัฒนาเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) พัฒนาศักยภาพระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานและปรับปรุงสมรรถนะ การทบทวนโครงสร้างค่าตอบแทน (Pay Structure) และการทบทวนโครงสร้างการจ่ายค่าตอบแทนวิชาชีพให้ความเหมาะสม สามารถแข่งขันกับตลาดแรงงาน และสอดคล้องกับการผลักดันภารกิจตามแผนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน คปภ. และ โครงการ OIC Organization Transformation โดยจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรสู่การทำงานในยุคดิจิทัล (Culture Change : Creating Agile Digital Culture) ใช้หลัก People การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ (Mindset) และทักษะของพนักงาน (Reskill & Upskill) Policy & Process การเปลี่ยนแปลงวิธีคิด (Thinking Process) และวิธีการทำงาน (Work Process) ผ่านกระบวนการทำ Design Thinking Process และTools & Technology การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์ผลงานที่รวดเร็วผ่านการใช้ Digital Platform และสามารถนำมาใช้ในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

ทั้งนี้ ได้ฝากข้อคิดการทำงานร่วมกัน (Collaborative) เพื่อส่งเสริมให้ทุกหน่วยงานเข้าใจการดำเนินการตั้งแต่ต้นจนจบ (End-to-End Process) โดยใช้หลัก 4T คือ Talk ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อหาความรู้ และดูว่าสิ่งที่จะเข้ามา Disrupt มีอะไรบ้าง และเป็นอย่างไร Trust เชื่อในสัญชาตญาณ ถ้าเห็นว่าอะไรที่จะเข้ามามีผลกระทบต่อการทำงาน ก็ต้องศึกษาหาแนวทางในการปรับเปลี่ยนการทำงานเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น Try ลงมือทำ เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาต้องเรียนรู้ทดลองปฏิบัติจริง เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ และ Teamwork เนื่องจากสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกคน ซึ่งจะต้องทำงานกันเป็นทีมไม่ใช่ต่างคนต่างทำเพื่อช่วยกันพัฒนา ริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ในการทำงานและต่อยอดจนสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม พร้อมสู่การเป็น SMART OIC เพื่อให้ได้ผลงานที่เป็นที่ประจักษ์และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนต่อไป

 

ในโอกาสนี้ยังได้เชิญคุณกมลชนก ปานใจ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก มาบรรยายพิเศษหัวข้อ “Be the better you” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ โดยได้ให้ข้อคิดว่าไม่ควรกลัวการเปลี่ยนแปลง และให้คิดบวกเสมอ เห็นคุณค่าของตัวเอง เลือกที่จะพาตัวเราไปอยู่ในที่ที่เรามีคุณค่า ซึ่งได้รับความสนใจจากบุคลากรของสำนักงาน คปภ. อย่างมาก นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายได้จัดให้มีกิจกรรม CSR โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ร่วมกิจกรรมทำประโยชน์เพื่อสังคม อาทิ กิจกรรมปลูกป่าชายเลน และกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาว ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กิจกรรมปรับภูมิทัศน์และทาสีคอกพักให้สุนัขพิการ ณ มูลนิธิศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน กิจกรรมมอบของใช้ที่จำเป็นให้แก่เด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ณ โรงเรียนเพชรบุรีปัญญานุกูล ส่วนกิจกรรมในช่วงเย็น เป็นการแสดงมุทิตาจิตให้กับผู้ที่เกษียณอายุประจำปี 2562 ซึ่งปีนี้มี ผู้เกษียณอายุจำนวน 15 คน โดยเลขาธิการ คปภ. ได้มอบโล่เกียรติคุณ ของที่ระลึก และกล่าวขอบคุณแก่พนักงานเกษียณที่ได้ทุ่มเททำงานให้กับสำนักงาน คปภ. อย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด จากนั้นได้จัดกิจกรรมสันทนาการร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีระหว่างพี่น้องชาว คปภ.

 

 

“ปี 2563 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายที่สำนักงาน คปภ. ต้องรักษามาตรฐานการดำเนินงาน และยังต้องทำให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นปีสุดท้ายของการดำเนินงานตามแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559 – 2563) จึงต้องเตรียมการสำหรับแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 ควบคู่กัน โดยมุ่งเน้นทิศทางการกำกับและส่งเสริมอุตสาหกรรมประกันภัยไทยให้มีศักยภาพและมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องพัฒนากฎเกณฑ์การกำกับดูแลให้มีความยืดหยุ่น เอื้อต่อการแข่งขันและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รองรับการเป็นองค์กรดิจิทัล ในปี 2563 อย่างเต็มรูปแบบ” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย