กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล และ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย แถลงผลประกอบการปี 2567

กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล และ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย แถลงผลประกอบการปี 2567

  

 

กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล และ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย แถลงผลประกอบการปี 2567 แสดงถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง              

 

กลุ่มพรูเด็นเชียล แถลงผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา (สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2567) โดยมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นดังนี้ มีกำไรธุรกิจใหม่ (New Business Profit) เติบโตเพิ่มขึ้น 11% อยู่ที่ 3,078 ล้านเหรียญสหรัฐ  มีเงินกองทุนส่วนเกินจากการดำเนินงาน (OFSG) จำนวน 2,642 ล้านเหรียญสหรัฐ (เมื่อเทียบกับปี 2566 อยู่ที่ 2,706 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งสอดคล้องกับแผนงานที่ได้กำหนดไว้สำหรับปี 2565 - 2570 นอกจากนี้ จากการที่กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเดินหน้าลงทุนในการปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถ และเพิ่มมูลค่าของธุรกิจ ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้น 10% อยู่ที่ 3,129 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเพิ่มขึ้น 7% อยู่ที่ 2,582 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกทั้ง ยังมีกำไรต่อหุ้นตามกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 89.7 เซนต์ เพิ่มขึ้น 8% บริษัทฯได้พิจารณาจ่ายเงินปันผลรวมสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 23.13 เซนต์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13% ทั้งยังมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลช่วงครึ่งปีหลังอยู่ที่ 16.29 เซนต์ต่อหุ้น และเมื่อรวมกับแผนการซื้อหุ้นคืน ทำให้มีผลตอบแทนการลงทุนโดยรวม (Total Shareholder Return-TSR) ในปี 2567 อยู่ที่ 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

 

นายอนิล วัธวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล เปิดเผยว่า “ในปีที่ผ่านมา เราดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจสอดคล้องกับแผนที่วางไว้และมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการบริหารจัดการ และ การขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโต สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งโดยมีผลกำไรจากธุรกิจใหม่เติบโตเพิ่มขึ้น 11% และมีส่วนเกินจากการดำเนินธุรกิจประกันภัยและการจัดการสินทรัพย์ จำนวน 2,642 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และด้วยวิธีการคำนวณแบบ “Traditional Embedded Value” (TEV) ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล มีผลกำไรจากธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 11% ในระยะยาวเรายังคงเห็นเทรนด์การเติบโตที่เป็นบวกจากโอกาสที่มากมายในเอเชียและแอฟริกา โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย ที่อัตราการเข้าถึงประกันของประชากรยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ผู้คนมีความสนใจในการออมและมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มขึ้น รวมถึงกลุ่มผู้มีรายได้สูงที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับการจัดการความมั่งคั่งและการวางแผนเพื่อการเกษียณอายุ

 

“เรามีโอกาสที่จะสร้างการเติบโตอีกหลายด้าน สิ่งที่เราเน้นย้ำคือ การสร้างธุรกิจใหม่ที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการธุรกิจที่ยังมีผลบังคับ และพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า ปีที่ผ่านมาเราเห็นความก้าวหน้าจากการบริหารกระแสเงินสดของธุรกิจใหม่, การเพิ่มขึ้นของจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานในช่วงครึ่งหลังของปี และการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อตอบรับความท้าทายที่เกิดขึ้น เช่น การจัดการระบบการเรียกร้องสินไหมสุขภาพที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น การปรับปรุงอัตราการคงอยู่ของกรมธรรม์ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างความได้เปรียบของบริษัทฯ" นายอนิล กล่าวเสริม

 

ในขณะเดียวกัน บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในตลาดของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น เผยผลการดำเนินงานในปี 2567 ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 37,774 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 9% (จากเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,692 ล้านบาท ในปี 2566) และ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) อยู่ที่ 10,876 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 27% (จาก 8,560 ล้านบาท ในปี 2566)

 

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “แม้ บริษัทฯ จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศในปีที่ผ่านมา แต่ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ยังสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและสร้างการเติบโตด้วยตัวเลขสองหลัก ถือเป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของเราที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัย ทั้งแผนประกันชีวิต สุขภาพ การออม และ การลงทุน ที่มีความยืดหยุ่นตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลกและความผันแปรทางเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า”

 

“ด้านผลิตภัณฑ์ พรูเด็นเชียลฯ ได้นำเสนอแผนประกันควบการลงทุนในกองทุนรวมที่หลากหลายมากถึง 73 กองทุน ที่ให้ลูกค้าบริหารการลงทุนได้ตามต้องการพร้อมโอกาสในการรับผลตอบแทน ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย เรามีช่องทางฯที่หลากหลายครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น การขายผ่านพันธมิตรแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งล้วนแต่เป็นธนาคารชั้นนำของประเทศไทย ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี), ธนาคาร ยูโอบี และ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทยช่องทางตัวแทนช่องทางการขายผ่านทางโทรศัพท์ รวมถึงช่องทางดิจิทัล ด้านบริการเราให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า 24 ช.ม. ทุกที่ทุกเวลา ผ่านบริการ PRUServices ทาง LINE @PrudentialThailand” นายบัณฑิต กล่าวเสริม

 

สำหรับปีนี้ พรูเด็นเชียลฯ ยังคงไม่หยุดยั้งในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาด้านชีวิต สุขภาพ การออม และการลงทุนที่สร้างความมั่นใจและไว้วางใจแก่คนไทย ด้วยเชื่อว่าชีวิตที่มีกันและกัน ทุกวันยิ่งดีกว่าเดิม และเรายังมุ่งมั่นที่จะทำให้ประกันเข้าถึงคนไทยทุกคน รวมถึงกลุ่มเปราะบางได้มากขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม www.prudential.co.th