จาก…แรงบันดาลใจ ที่อยากเห็นคนไทยได้ตัดผมทรงเท่ห์ๆ เขาศึกษาเรียนรู้ การตัดผม ซึ่งต้องบอกว่า เป็นวิชาชีพที่เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง  ที่ในปัจจุบันได้พัฒนาการต่างจากสมัยก่อนมากมาย โดยอาชีพนี้สร้างรายได้จำนวนมหาศาลหากคุณมีฝีมืออยู่ระดับแนวหน้า 

     ไมตรี ม่วงทอง หนุ่มใต้ วัย30ปลายๆ…เจ้าของ กิจการ บอยบาร์เบอร์ช๊อป ซึ่ง ตั้งอยู่ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ บอกเล่า ถึงความฝัน และแรงบันดาลใจว่า   สมัยก่อน เห็นว่าคนไทย มีการตัดผมเพียงไม่กี่ทรงเท่านั้น คือ รองทรงต่ำ รองทรงกลาง รองทรงสูง จุดเปลี่ยนคือ ผมอยากเสนอทรงผมใหม่ๆ ที่ผมตัดได้ ความคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมาจนนำมาสู่การเปิดร้านตัดผม

      หากถามว่าชีวิตผมต้องสู้ขนาดไหน ผมสู้ตั้งแต่สมัยที่เป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนตอนนั้น หมืนห้าพันบาท คิดอยากมีอาชีพเสริม วันหนึ่งเพื่อนเอาเพลง Tat It Up ของ พี่ป๊อก มายด์เซท มาให้ดูซึ่งใน เอ็มวี มีพระเอกคือ พี่ซัน สมายล์คลับ แฮร์สไตล์ลิส แต่งตัวเท่ห์มาก ตัดผมในสไตล์ที่คนไทยไม่เคยตัดกัน ขับช้อปเปอร์ด้วย..คิดเดี๋ยวนั้นว่า ‘ตัวกูเลย’ คือมายไอดอลเลย ผมนำมิวสิคเพลงนั้นมาให้แฟนดู บอกตัวเองสนับสนุนหน่อยแฟนผมเลยจัดหาอุปกรณ์ตัดผมมาให้เรียนรู้ตั้งแต่นั้นมา ก็เริ่มฝึกฝนฝีมือ

    มาวันหนึ่ง ที่บ้านเปิดดูทีวี รายการชิงร้อย ชิงล้าน มีน้องแบงค์ มาแกะลายผมบนศรีษะ ผมได้ไอเดียว่า ช่างตัดผม แกะลายบนศรีษะเลยหรือ ผมคิดเดี๋ยวนั้นผมทำได้เพราะก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง บังเอิญแม่เดินผ่านมาช่วงนั้น ผมบอกแม่ว่า”สักวันผมจะอยู่ในทีวีแบบเขาให้ได้” แม่ผมพูดภาษาใต้ ตอบทันทีว่า “ขี้โม้” แต่จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมทำมันได้จากอาชีพนี้เป็นที่รู้จักในวงการ แม่เห็นผมออกทีวี จากตื่นเต้นในช่วงแรกๆเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องธรรมดาแล้วครับ

     ผมขอย้อนกลับไป ในช่วง 8 ปีที่แล้ว กว่าจะมาเป็นเจ้าของกิจการบอยบาร์เบอร์…ผมมีเงินทุนน้อยมาก เงินก้อนแรกที่นำมาเปิดร้านตัดผม มีแค่สี่หมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากบริษัทจ้างภรรยาผมออกจากงานเพราะย้ายฐานการผลิตไปประเทศเขมร ทำต้องให้ปิดกิจการในประเทศไทย เลยตั้งใจจะนำเงินนี้มาลงทุน เพราะตอนนั้นผมก็เป็นแค่พนักงานบริษัทเงินเดือนแค่ 15,000 บาท คงไม่สามารถเลี้ยงดูลูกของผมให้เติบโตอย่างมีคุณภาพได้ “เพราะความฝันผมมันใหญ่กว่านั้น”

     ผมบอกกับแฟนว่า “เรากลับไปสร้างหลักฐานที่บ้านกันที่บ้านของของตัวเองนะ” ตอนนั้นเดินทางหาทำเลเปิดร้านในอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ก่อน แต่หาทำเลถูกใจไม่ได้ ก็เลยคิดว่าจะเดินทางกลับภาคใต้บ้านเกิด ก่อนกลับคุยกันว่าปีนี้เป็นปีชงของเราสองคนเลยชวนกันมาไหว้พระธาตุศรีจอมทอง ซึ่งตามความเชื่อถือว่าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีชวดหรือปีหนู กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนเพราะซื้อของไหว้พระธาตุแล้วขับรถมาเจอทำเลด้านหน้าก่อนร้านนี้ ค่าเช่าเพียง 2500 บาทจึงตัดสินใจวางเงินจองทันทีหลังจากนั้นเดินทางกลับไปลาออกจากงานที่ใต้เจ้านายผมยังงงเลย

     ผมมาตั้งรกรากเปิดร้านทำผมด้านหน้า 2 ปีพออยู่ตัวก็ทำเรื่องเดินบัญชีธนาคารรวบรวมเงินและมาซื้อ กิจการบอยบาร์เบอร์ที่ตั้งปัจจุบันนี้ได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ทำให้ บอยหรือไมตรี ม่วงทอง เป็นที่รู้จักในวงกว้างนอกจากฝีมือดีในการตัดผม เขามีรางวัลระดับภูมิภาคเอเชีย เป็นเครื่องการันตีอีกด้วยว่า เขาไม่ธรรมดา

     ผมได้รับรางวัล Wahl Ambassador Southeast Asia ในปีนั้นมีคนไทย 3คนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น Brand Ambassador at Wahl Professional SEA ซึ่งทำให้ชาวต่างชาติรู้จักเรามากขึ้น และก็ทำให้ผมเริ่มเปิดสอนการเรียนตัดผมให้ คนที่สนใจอยากเป็นช่างทั้งคนไทยและต่างประเทศ แต่พอเกิดสถานการณ์ของโรค โควิด-19 ก็จัดคิดต่างโดยเปิดสอนเป็นระบบออนไลน์ เพียงคอร์สละ 999 บาทถือว่าถูกมาก ลูกศิษย์ผมที่เป็นต่างชาติก็จะเป็นชาวเขมรและลาว เฉลี่ยอายุลูกศิษย์ผมน้อยสุดประมาณ 17 ปีมากสุดประมาณ 50 กว่าปี ซึ่งการเป็น ช่างตัดผมอายุไม่เกี่ยวอายุเป็นเพียงตัวเลข

     ลูกค้าของบอยส่วนใหญ่มีทุกระดับอาชีพ แต่ส่วนใหญ่ก็มีระดับผู้หลักผู้ใหญ่เป็นจำนวนไม่น้อย แต่ละวันจะมีลูกค้าโทร เข้ามาเพื่อจองคิวตัดผมก่อนเข้ามา เพราะคนแน่นร้านตลอด บางวันมีรายได้กว่า 7,000 บาท ด้วยฝีมือบวกอัธยาศรัยการพูดคุยเป็นมิตรมีใจบริการ ส่วนสนนราคาค่าตัดผมเพียง 120 บาทต่อหัวเท่านั้นทุกทรงแฟชั่นถือว่าเป็นราคาถูกถ้าหากเปรียบเทียบกับบางแห่งด้วยฝีมือช่างระดับรางวัล และร้านติดแอร์ ตบแต่งสวยงาม อุปกรณ์ตัดผมมาตรฐาน 

     การที่ ไมตรี ม่วงทอง ประสบความสำเร็จได้อย่างดีในในช่วงเวลาที่ผ่านมา บอยบอกว่าครอบครัวคือส่วนสำคัญที่เป็นแรงพลังใจและผลักดันให้ตัวเขามีวันนี้ เราทำอะไรด้วยตัวคนเดียวไม่ได้หากไม่มีแฟนของผมเป็นคนสนับสนุน ชีวิตผมก้าวหน้าทุกวันนี้เพราะมีภรรยาที่ดีเธอชื่อคุณอ้อหรือปริยา ม่วงทอง เรียกได้ว่าคือผู้จัดการส่วนตัวของผมทั้งการงานและชีวิต เวลาไปไหนไปด้วยกันตลอดเป็นครอบครัว ซึ่งผมมีลูกชายและลูกสาวอย่างละคน ผมรักครอบครัวมากที่สุด ส่วนการถ่ายทอดวิชาการตัดผมนั้น ผมส่งต่อให้ลูกผมแน่นอน แต่เวลานี้ขอตั้งเป้าหมายให้ลูกของผมทั้งสองคนเรียนให้สูงที่สุดก่อน ในอนาคตจะเป็นช่างเหมือนผมหรือไม่นั้นอยู่ที่พวกเขาตัดสินใจเอง 

     บอยให้ หลักการแนวคิดดำเนินชีวิตชีวิตว่า ผมเชื่อว่าคนเราทุกคนล้วนมีความฝันแต่ความฝันนั้นจะสำเร็จได้ก็ต้องลงมือทำ ถ้าไม่ลงมือทำมันก็เป็นแค่ความฝันเท่านั้นนะครับ หลักการชีวิตที่ผมดำเนินมาคือเป็นคนคิดดีทำดี เพราะผมเชื่อว่าคนเราถ้าทำดีต้องได้ดีแน่นอน นอกจากการตัดผมมีรายได้เลี้ยงครอบครัวแล้วเขายังคืนกำไรให้กับสังคมโดยเป็นจิตอาสาที่บ้านพระเมตตาซึ่งเป็นศูนย์บำบัดยาเสพติดของภาคเหนือตั้งอยู่ที่อำเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหม่นี้แหล่ะครับ ซึ่งวัยรุ่นสักสักลายตามตัวอย่างเราไม่จำเป็นต้องเกเรไม่จำเป็นต้องไปเล่นยา เราสามารถมีอาชีพที่ดีได้โดยไม่ต้องไปพึ่งพายาเสพติด

     แนวคิดที่ล้ำสมัย และอาจเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยของบอย คือ การเปิดเฟรนไชส์ร้านตัดผม เค้าบอกว่า ผมอยากให้บอยบาร์เบอร์อยู่ตลอดไปผมจึงต้องหว่านเมล็ดพันธ์ซึ่งผมจัดทำเฟรนไชส์อยู่ประมาณสองสามรูปแบบ แบบแรก คุณไม่เคยเป็นช่างตัดผมมาก่อนก็สามารถเรียนได้ ค่าเฟรนไชส์ 59,000 บาทก็มาเรียนที่ร้านเพราะผมต้องการควบคุมมาตรฐานให้เป็นแนวทางเดียวกันเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วสามารถนำชื่อบอยบาร์เบอร์ไปเปิดร้านของตนเอง ที่ไหนก็ได้ได้ทั่วประเทศ โดยผมมีอุปกรณ์ให้หนึ่งชุดเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพที่ใช้ในปัจจุบันเป็นแบรนด์อเมริกาและอิตาลี ใครสนใจสมัครติดต่อผมได้เลย โทร 09-0489-5133

     ทุกวันนี้บอยบอกว่า ได้เป็นตัวของตัวเองแต่งฮิปฮอปตัดผมสักลาย ฟังเพลงที่ชอบได้อยู่ในยูนิฟอร์มที่รักอย่างมีความสุข และเชื่อเสมอว่า ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ต้องลงมือทำ เพราะไม่อย่างนั้นความฝันจะอยู่แค่ในหัว ทุกคนมีความฝันตลอด คุณมัวแต่ฝันไม่ยอมลงมือทำ ซึ่งผมเชื่อว่าคนเราไม่จำเป็นต้องรอจังหวะชีวิตมันเป็นข้ออ้างมากกว่าที่จะไม่ลงมือทำ เพราะถ้าคุณพร้อมคุณลงมือทำ คุณก็จะมีสิทธิ์ก่อนคนอื่น และหากใครต้องการเดินทางมาร้านบอยบาร์เบอร์ จะอยู่ก่อนถึงพระธาตุศรีจอมทอง สี่แยกไฟแดงเลี้ยวซ้าย หรือถ้ามาไม่ถูกจริงๆเข้า Facebook บอยบาร์เบอร์ช็อป จอมทองเชียงใหม่ มีเส้นทางของร้านลงไว้ในเพจครับ

     และอีกหนึ่งความภูมิใจเป็น. สุดยอดของชีวิตก็ว่าได้ คือบอยได้มีโอกาสตัดผม…ให้วู้ดดี้พิธีกรชื่อดังระดับแนวหน้าในประเทศไทย จากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย โดยทางผู้จัดการของวู้ดดี้ได้ติดต่อให้บอยขึ้นไปตัดผมบนดอย ซึ่งครอบครัวของวู้ดดี้มาพักผ่อนเป็นการส่วนตัวช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมาทางภาคเหนือ โดยผู้จัดการติดต่อมาขอเป็นบอยคนเดียวเท่านั้นที่ไปตัดผมให้วู้ดดี้ “ผมประทับใจมากไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ตัดผมพี่วู้ดดี้ แต่ก่อนหน้านี้ผมเคยเข้าไปคอมเม้นต์ในรายการว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตของผมขอได้ตัดผมให้พี่วู้ดดี้  ซึ่งมันเป็นความฝันแล้วพอได้ไปเจอตัวจริง เป็นคนเฟรนด์ลี่มากเหมือนไปตัดผมให้เพื่อนเลย ผมประทับใจมากครับ”

     บอยบอกว่า ผ่านมา 8ปี จนปัจจุบันนี้ ชีวิตเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมีทุกอย่างพร้อมบ้านรถหลักทรัพย์หน้าที่การงานที่มั่นคงในอาชีพตัดผมที่มีเกียรติและทำเงินให้ตนเองได้เป็นอย่างดี และสิ่งสำคัญคือทำให้ครอบครัวอบอุ่น เค้าฝากแง่คิดการครองชีวิตคู่ว่า ถ้าคุณไม่ทรยศกับภรรยาของคุณ คุณต้องได้ดี ชัวร์

      บอยทิ้งท้าย กับแนวคิดที่ลงมือทำในการเปิดเฟรนด์ไชส์ร้านตัดผมว่า เมล็ดพันธ์ุจะดีได้ต้องมีน้ำมีปุ๋ยที่ดี เฟรนไชส์ก็เหมือนกัน ก็ต้องมีคนดูแลจัดสรรที่ดีให้ คุณก็จะประสบความสำเร็จเช่นกัน ประโยคสุดท้ายที่เขาฝากให้คนอ่านนิตยสาร CHANGE into คือ “เรื่องความฝันมีกันทุกคน ความฝันจะสำเร็จได้ต้องลงมือทำ ถ้าไม่ลงมือทำ มันก็แค่เป็นความฝันลมลมแร้งแร้ง”

     ผู้ชายคนนี้ ไมตรี ม่วงทอง หรือบอย เจ้าของกิจการบอยบาร์เบอร์ อ.จอมทองจ.เชียงใหม่ แม้อำเภอจอมทอง เป็นอำเภอที่เล็กแต่ก็เป็นที่ตั้งของดอยอินทนนท์ จุดสูงสุด ซึ่งบอย เป็นคนช่างฝันที่กล้าลงมือทำ เป็นคนมีของดี และกำลังปล่อยของดีๆ ไปยังเมล็ดพันธ์ ที่เขาได้ลงมือหว่าน…ต่อไปเขาจะกลายเป็นตำนาน ของอาชีพคนตัดผม…เป็นแนวหน้าในประเทศไทย…ที่โลกไม่ลืม.