อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จากข้อมูล Wikipedia ระบุว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัย ในรัชกาลที่ ๙ ทรงครองราชสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในปีพ.ศ.2549และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550 คณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก2549 ณ.ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ พื้นที่ 468ไร่ จัดขึ้นระหว่างต้นเดือนพฤศจิกายน ปลายปี 2549 จนถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ปี2550 ในชื่อ “มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯราชพฤกษ์ 2549 เป็นงานที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างมาก สถานที่แห่งนี้ได้ต่อยอดจากการจัดงานดังกล่าว..และปัจจุบันนี้ได้กลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้พันธ์พืชไม้เมืองหนาวและแหล่งท่องเที่ยวทางภาคเหนือที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาชมความงดงามของดอกไม้และสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสถาปัตยกรรมอันสวยงามตามแบบล้านนา

 

 

 

 

 

คุณพิชญากานต์ หนองแก้วมูล หรือ น้องปุ้ย รักษาการแทนหัวหน้ากลุ่มกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ ของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เล่าว่า อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Royal Park Rajapruek) จังหวัดเชียงใหม่ เคยเป็นสถานที่ที่ใช้จัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและมีชื่อเสียงระดับโลก ปัจจุบันนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบพิตร ในหลวงรัชกาลที่๙ ทรงพระราชทานนาม สถานที่แห่งนี้ไว้ว่า “อุทยานหลวงราชพฤกษ์”ให้เป็นสวนของพ่อ สวนแห่งการเรียนรู้ บนพื้นที่สูง องค์ความรู้โครงการหลวง ความหลากหลายทางชีวภาพ ความสวยงามเหล่าพันธ์ไม้ ตลอดจนเรื่องของศิลปะวัฒนธรรม

 

 

 

 

สำหรับจุดเด่นหรือไฮไลต์ของ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ที่ไม่ควรพลาดนั้น น้องปุ้ย แนะนำว่า เมื่อเดินทางมาถึง ขอให้เข้าชมเรือนกล้วยไม้ เป็นแหล่งรวมกล้วยไม้ที่เยอะและใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ถัดมา จะมีเรือนไม้ดอกซึ่งเป็นเรือนที่มีการควบคุมอุณหภูมิซึ่งสามารถชมไม้ดอกเมืองหนาวได้ตลอดเวลา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกล้วยไม้ ที่นี่จะมีทั้งพันธุ์แท้ และลูกผสม เช่น กล้วยไม้พันธุ์ ฟาแลนนอปซิส สีขาวที่มีความสวยงามมาก ตลอดจนกล้วยไม้ป่า ต่างๆ ออกตามฤดูกาล โดยช่วงนี้จะเป็นดอกเอื้องคำ

 

ในส่วนที่มีความร่มรื่นนั้น จะเป็นเรือนร่มไม้ เป็นพันธ์ไม้ร่มชื้น แต่ถ้าเป็นช่วงหมอกควันเยอะ เรือนร่มไม้ของเราก็จะมีพันธ์ไม้ที่ดูดซับสารพิษ ดูดซับหมอกควันต่างๆ เมื่อเข้าชมสามรถฟอกอากาศไปในตัวได้ นอกจากนี้ยังมีโดมกุหลาบ ที่รวบรวมกุหลาบไว้หลากหลายสายพันธุ์ด้วย

 

 

 

 

น้องปุ้ยบอกว่า ไฮไลต์ของ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ มีหลายจุด คือ เรือนกล้วยไม้ เรือนไม้ดอก เรือนร่มไม้ โดมกุหลาบ และที่พลาดไม่ได้ คือ หอคำหลวง เป็นสถาปัตยกรรมทางล้านนาที่มีความงดงามวิจิตรตระการตามีชื่อเสียงที่สุดในอุทยานหลวงราชพฤกษ์

 

 

สำหรับที่นี่ มีการเก็บค่าเข้าชมโดยผู้ใหญ่คนไทย 100 บาท เด็ก 70 บาท ถ้าเป็นข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ แสดงบัตรเหลือ 70 บาท สำหรับชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 150 บาท อุทยานหลวงราชพฤกษ์มีความกว้างขวางมากถึง 470 ไร่ หากเดินทางมาเป็นหมู่คณะ ขอให้แจ้งทางเราเพื่อการต้อนรับ และจัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและพาเข้าชมตามจุดต่างๆ ถ้ามาเป็นหมู่คณะราคา เหลือ 70 บาทต่อคน หากบางคนที่คิดว่าสถานที่กว้างขวางมากอาจเดินเท้าชมไม่สะดวก ทางเรามีบริการรถไฟฟ้าชมสวนให้ฟรีค่ะ แต่ถ้าบางท่านต้องการออกกำลังกายไปด้วย ที่นี่มีจักรยานให้เช่าไว้ปั่น คันละ60 บาท

 

 

 

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชาและนักขัตฤกษ์ในเวลา 08.00-18.00 น. น้องปุ้ยบอกว่า “ผู้ที่เข้าชม จะได้ศึกษานิทรรศการที่เราจัดขึ้น และองค์ความรู้พันธ์ไม้ต่างๆ ไม่ใช่แค่ความสวยงามแต่เรามีป้ายสอดแทรกความรู้ไว้แต่ละพันธ์พืชด้วย ได้สูดบรรยากาศที่สดชื่น เมื่อกลับไปแล้วเหมือนได้ รีเฟรชตัวเอง ใครเหนื่อยจากการทำงานมาเที่ยวชมที่สวนของเรานะคะ ใครมาจังหวัดเชียงใหม่ต้องไม่พลาดค่ะ”

 

 

 

 

น้องปุ้ย เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งทำงานที่นี่มากว่า 10 ปี ส่งกำลังใจให้ในช่วงวิกฤตโควิดว่า สถานการณ์แบบนี้ เท่าที่เห็นจากคนรอบข้างรอบตัว อาจจะมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง ขอให้ฮึดสู้ชีวิต พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ตั้งสติทำในสิ่งที่ชอบหาอะไรทำคลายเครียด โดยคนในครอบครัวต้องเป็นที่ปรึกษากัน สำหรับที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์นั้น มีคอร์สอบรมการปลูกแพร่พันธุ์ไม้ในแต่ละเดือน เช่นการขยายพันธ์กล้วยไม้ สำหรับเด็กก็จะมีคอร์สการดูนก ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ถ้าสนใจก็สามารถ ติดต่อสอบถามได้ค่ะ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านแวะมาเที่ยวชม ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ กัน เรามีต้นไม้ล้านกว่าต้น ร่มรื่นร่มเย็นไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน มีพันธ์ไม้ตลอดปีทุกฤดูกาล สำหรับหน้าหนาวเรามีการส่งเสริมเกษตรกรบนพื้นที่หนาวนำพันธ์ไม้มาจัดแสดงด้วย

 

 

 

 

 

สำหรับน้องเมย์ กันต์สุดา กูลเรือน เจ้าหน้าที่บริการกลุ่มงานกิจการและประชาสัมพันธ์อีกท่าน ที่ขับรถไฟฟ้า บริการพา เราชมสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีความงดงามเฉพาะจุดคนละแบบไป เช่นอุโมงค์พวงคราม ในวันที่เรามากำลังออกดอกสวยงาม น้องเมย์เล่าว่า “พวงครามจะออกดอกสีม่วงตลอดทั้งปี แต่ก็จะมีช่วงที่ร่วงโรยไปและออกมาใหม่ผลัดเปลี่ยนไปตลอดปี ลักษณะเด่นของพวงครามจะออกดอกเป็นช่อสีม่วง พอจะโรยราก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวสีขาวและร่วงโรยไป จะสลับกับดอกไม้ทั่วไปที่จะออกดอกสีขาวหรือเขียวถึงจะออกเป็นสีสรรของเขา พวงครามจะออกเป็นสีจัดเลยค่ะ เป็นพันธ์ไม้เลื้อยและทนต่อทุกสภาพอากาศ ปลูกง่าย ขอให้มีที่ให้เลื้อยเกาะ’

 

 

 

และสถาปัตยกรรมอันงดงามวิจิตรตระการตาที่หากเดินทางมา ชมภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์แล้ว “หอคำหลวง” เป็นสถานที่ต้องไม่พลาด เพราะมีความอลังการสร้างได้งดงามตามแบบฉบับล้านนาไทยมาก โดยจำลองมาจากภาพหอคำหลวงเจ้าเมืองเชียงใหม่ในอดีต เคยเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำละครโทรทัศน์ เรื่องเพลิงพระนาง ที่นำแสดงโดย อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ และได้รับความนิยมทางช่อง7 ใช้สมมติเป็นหอคำ หรือท้องพระโรงตามเรื่อง.

 

 

 

 

ดอกไม้บาน..สดชื่น..รื่นรมย์..ชมสีสรร..เสกเช่นเป็นธรรมชาติ ..ดื่นดาษตา..ทั้งกล้วยไม้ พวงคราม เอื้องคำ..สบายตา..สวยจับใจ ชวนหลงใหล..ตะลึงในสถาปัตยกรรมอันงดงาม แบบอย่างล้านนา มา..หอคำหลวง….ตรึงในทรวง ห้วงแห่งใจ..เราคนไทย..ณ.อุทยานหลวงราชพฤกษ์..เพราะชื่อนี้สวนของพ่อร.๙..ทรงตั้งไว้..โลกระบือ แซ่ซ้องกระฉ่อนไกล ธ.สถิตย์ในดวงใจไทยตราบนิจนิรันดร์.