ตามรอยพ่อ..บ้านแม่กลางหลวง…สมศักดิ์ คีรีภูมิทอง ผู้นำแนวคิดปากากะญอ..มีวันนี้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ.
@CHANGE into Magazine Sutthikhun Kongthong CHANGE in-your-life เรื่อง : ปราริชาติ ปลื้มจิตต์ตระกูล
ตามรอยพ่อ..บ้านแม่กลางหลวง…สมศักดิ์ คีรีภูมิทอง ผู้นำแนวคิดปากากะญอ..มีวันนี้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ.บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ท่ามกลางหุบเขา มีการทำนาขั้นบันได และเป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขาชาติพันธ์ปากากะญอ สิ่งสำคัญเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรรัชกาลที่ ๙ ซึ่งทรงมีพระราชดำริเปลี่ยนอาชีพเดิมจากการปลูกฝิ่นของชาวเขา มาเป็นการปลูกกาแฟทดแทน ตลอดจนพืชผักเมืองหนาวในโครงการหลวง เป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีที่พักมองเห็นวิวนาขั้นบันได จิบกาแฟท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์..ซึ่งมีชื่อเสียงโดยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมา วันนี้เราจะพามาสัมผัสบ้านแม่กลางหลวง ณ.ปัจจุบัน ในช่วงหน้าร้อนเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2565 ว่าเป็นอย่างไรนายสมศักดิ์ คีรีภูมิทอง ในวัย 54 ปี ผู้นำแนวคิดชาวกะเหรี่ยงปากากะญอ บ้านแม่กลางหลวง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เล่าว่า ก่อนหน้าช่วงเศรษฐกิจดี ชาวบ้านก็มีรายได้ พอเลี้ยงชีวิต แต่พอมาเจอปัญหาวิกฤตโควิด 2-3 ปีที่ผ่านมาก็เริ่มลำบาก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะเดินทางขึ้นมาก็ยากเพราะภาครัฐกำหนดมาตรการป้องกัน แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วรัฐบาลเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยือนเมืองไทย ความหวังคือน่าจะดีขึ้น เฉพาะพื้นที่จุดนี้มีประมาณ 80 ครัวเรือน ทั้งหมดเป็นประชากรชาวปากากะญอ ประมาณ 700-800 คนสมศักดิ์เล่าต่อว่า หากย้อนไปปี พ.ศ 2537-2538 การทำงานของเขากว่าจะผ่านได้นั้นลำบากมาก จนกระทั่ง ปีพ.ศ.2542 เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และถัดมา 5 ปี ก็เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ การต่อสู้เพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ถ้าเราใจไม่เย็นขาดสติก็คงผ่านยาก และหากจะให้บ้านแม่กลางหลวงไปต่อนั้น เราคิดว่าต้องทำธุรกิจแบบแบ่งปัน ถ้าคิดแต่เชิงบวกแล้วชาวปากากะญอไม่ยอมเสียอะไรเลย จะอยู่ไม่ได้
บ้านแม่กลางหลวงมีจุดเด่นอะไรนั้น สมศักดิ์บอกว่า สำหรับที่นี่จะเรียกว่ามีจุดเด่นก็ไม่เชิง จุดด้อยก็ไม่ใช่ เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามา หากเป็นคนกรุงเทพฯ ซึ่งเจอแต่สิ่งแวดล้อม อาคารมีแต่ตึก คอนโด ป่าไม้ก็แทบไม่เหลือให้เห็น แต่หากมาเที่ยวบ้านแม่กลางหลวงยังเป็นเหมือนเดิม เพราะชาวกะเหรี่ยงที่นี่ 80%ซึงเป็นชาวจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงอาชีพทำนา ซึ่งเป็นนาขั้นบันไดที่อาจดูแปลกและสวยในความคิดที่บนภูเขามีการทำนาในสมัยก่อนชาวปากากะญอ ทำไร่ เป็นไร่เลื่อนลอย ทางราชการบอกผิดกฎหมาย พ่อหลวงของพวกเรา องค์รัชกาลที่ ๙ คราวที่พระองค์เสด็จมา ทรงมองว่า สถานที่นี้สามารถแก้ไขได้ จากพื้นที่กว้างลดลงมา เอาแต่พื้นที่นา ให้ปลูกสวนกาแฟ ทดแทนไร่ฝิ่นที่เคยปลูกกันก็อยู่ได้ ปัจจุบันนี้ถ้าหลายคนเดินทางมาเที่ยวบ้านแม่กลางหลวง ที่นี่บริเวณโดยรอบยังเป็นป่าทึบ การทำนาขั้นบันไดยังมีเหมือนเดิม โดยชาวปากากะญอ จะทำนาปีละครั้งเดียว และช่วงหน้าแล้งก็ปลูกผักเล็กๆน้อยๆ ส่งโครงการหลวง
บ้านแม่กลางหลวง ไม่มีการปลูกฝิ่นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 โดยทางรัฐได้ส่งงบประมาณมาเพื่อช่วยเหลือและดูแล แต่เราต้องยอมรับว่าคนเราคิดไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างความคิด ทั้งแง่ลบและบวก ทางการบอกว่า ให้สถานที่แห่งนี้เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เชิงวัฒนธรรม เชิงการเกษตร ซึ่งการเกษตรอยู่ได้เพราะการท่องเที่ยว ต่างฝ่ายต้องอาศัยซึ่งกันและกันสมศักดิ์แสดงความเห็นว่า บ้านแม่กลางหลวงนั้น ชาวบ้านต้องช่วยกัน ไม่ใช่คุณจะล่ออยากได้ของนักท่องเที่ยวมันไม่ถูกต้อง และคุณจะเอาการเกษตรอย่างเดียวก็ไม่ใช่ ต่างคนต้องช่วยดูแลซึ่งกัน มาวันนี้ผมดีใจมากที่ชาวบ้านเริ่มมีแนวคิดเปลี่ยนจากการปลูกฝิ่นแล้ว โดยผมอยากให้บ้านแม่กลางหลวงเป็นการท่องเที่ยวสีเขียวทั้งหมด ป่าไม้ สัตว์ป่าและมนุษย์ ชาวกะเหรี่ยงปากากะญอพวกเราก็ต้องมีใจสีเขียวด้วยไม่ให้มีอาชญากรรมเกิดขึ้น เช่น หากเห็นใครมาเขาแต่งตัวดีๆ แล้วจะล่อเขาก็ไม่ถูกต้อง ถ้าเราต้องการให้การท่องเที่ยวอยู่กับพวกเรานานๆ ต้องช่วยกันให้เป็นพื้นที่สีเขียว เพราะแม้เขามาไม่ได้ ก็จะแนะนำส่งญาติพี่น้อง เครือข่ายมาเที่ยว ผมยกตัวอย่าง หากผมมีทรัพย์สินแล้วอยากไปประเทศไหนบ้านไหน ถ้าผมเจออะไรที่ไม่ปลอดภัย ไม่ประทับใจ ผมก็จะไม่แนะนำญาติพี่น้องไปเสี่ยงผมเห็นร.๙ มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก อายุ 8-9 ขวบ พระองค์ท่านบอกพวกเราว่า การปลูกกาแฟ ทดแทนไร่ฝิ่นได้นะ และจะเป็นธุรกิจในอนาคต กาแฟ สมศักดิ์โถ่บิเบ (นกพญาไฟ) ของผมเป็นแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ท่านเสด็จมาส่งเสริมการปลูกกาแฟปี พ.ศ 2517 จากหนึ่งต้นสายพันธุ์แรก อาราบิกา ตอนนี้ขยายไปร้อยกว่าสายพันธุ์ เป็นอาราบิกาหลายสายพันธุ์ถ้าจะพูดให้คนเข้าใจอย่างลึกซึ้งเลยนะ สมศักดิ์บอกว่า ร.๙ พระองค์ท่านเป็นต้นโพธิ์ต้นไทรให้กับพวกเรา ถึงอายุมากจะจากพวกเราไป แต่ลูกหลานของต้นไทรก็แผ่กิ่งใบ พวกเราได้อยู่ใต้ร่มเงา เพราะพระบารมี ชีวิตผมถ้าไม่ใช่องค์ร.9๙ ก็ไม่มีผมวันนี้ อาจจะมีสมศักดิ์ชาวปาปากะญอธรรมดา แต่ทุกวันนี้ชีวิตผมมีได้แบบนี้ ชีวิตการทำงานทุกวันนี้ เพราะพระองค์ และผมจะสืบทอดแนวพระราชดำริไปจนจบชีวิต ทุกครั้งเมื่อได้รับเชิญไปพูดที่ใดๆ ผมจะพูดถึงสิ่งที่พระองค์ทรงพระราชทานให้กับพวกเรา และคิดว่าร้อยคนที่ฟังผมพูด แล้วรับฟังนำไปปฏิบัติได้ 2 คนก็ภูมิใจแล้วสำหรับร้านกาแฟผมคั่วบดเเอง กาแฟสมศักดิ์โถ่บิเบ หากจะถามว่าอร่อยมั้ย คงบอกได้ว่าไม่มีกาแฟที่ไหนอร่อยที่สุดในโลกหรอก ความอร่อยขึ้นอยู่คอใครคอมัน กาแฟหนึ่งเม็ดกรรมวิธีการจัดการ ทำได้หลายรสชาติ หลายกลิ่น นักท่องเที่ยวทุกท่าน หากเดินทางมาบ้านแม่กลางหลวง ที่ร้านสมศักดิ์มาดื่มฟรีได้ทั่วโลก ไม่ต้องซื้อ ให้ทานฟรีไม่เอาตังค์ เผมทำกาแฟขายส่งอยู่ ขายทางออนไลน์ ซึ่งมีลูกค้ามาซื้อไปคนละเล็กละน้อยผมส่งให้ฟรี ถามว่าแทบไม่ได้กำไร แต่คนเราต้องรู้จักแบ่งปัน เรียกว่าธุรกิจแบ่งปัน ถ้าจะเอากำไรอย่างเดียวจะมีเพื่อนเยอะแต่อยู่ไม่กี่วัน มีคนถามว่าเลี้ยงฟรี จะเลี้ยงเขาทำไม ผมมีไร่นาเล็กๆน้อยๆ มีข้าวกิน มีลูกหลาน เราพออยู่ได้ แต่คนซึ่งเดินทางมาถึงบ้านของเรา แค่กาแฟแก้วเดียว และผมผลิตเอง เป็นเจ้าของสวนกาแฟ ถึงจะมา เป็นจำนวนสองถึงสามร้อยคนผมก็ให้ทานฟรี มีคนถามไม่อยากรวยหรือไง ไม่คิดตังค์เขา คนเราอยากรวยเป็นเรื่องถูกต้อง แต่การแบ่งปันตรงนี้ ผมคิดถึง ร.๙ พระองค์ท่านช่วยทุกคน ซึ่งไม่ใช่พสกนิกรในประเทศไทยอย่างเดียว หลายๆประเทศ คนต่างชาติที่เดินทางมาเขารู้จักพระองค์ เขาพูดเกี่ยวกับพระองค์ท่านกับผมได้ลึกซึ้งมาก ทรงช่วยเหลือหลายๆประเทศ สิ่งที่ผมทำแค่เสี้ยวนิดเดียวของพระองค์ผมทำอย่างนี้ได้เพราะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นที่สุดสมศักดิ์ ฝากไว้ว่า “ในอนาคตอยากให้บ้านแม่กลางหลวงเป็นสีเขียว ไม่อยากให้มีขโมย หรืออาชญากรรมต่างๆ เกิดขึ้น แม้แต่น้อย ถ้าชาวบ้านปากากะญอของเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ต้องร่วมมือช่วยกัน ย้ำแนวคิด และขยายมุมมองปลูกฝังให้กับคนรุ่นใหม่ อยากใช้ชีวิตให้อยู่ยาวๆ นักท่องเที่ยว มาบ่อยๆ ต้องช่วยกันพัฒนาเชิงบวก และรู้จักให้เพราะถ้าทุกคนมองเห็นแต่ได้อย่างเดียว และไม่รู้จักพอ ในอนาคตจะล้มเหลว…บ้านแม่กลางหลวง ต้องเจริญด้วยจิตใจมนุษย์และทรัพยากรป่าไม้.”บ้านแม่กลางหลวงในวันที่เราเดินทางมา ยังมีการปลูกสร้างที่พักใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แม่น้ำกลางไหลผ่านร่มรื่น ปลาหลายพันธ์เวียนว่ายจำนวนมาก และเป็นเขตอนุรักษ์ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเต็มคันรถตู้ ส่วนการนั่งดูวิวนาขั้นบันไดที่เป็นไฮไลต์ ด้วยเป็นช่วงหน้าร้อน จึงยังไมเห็น ณ.เวลานี้ แต่ถ้าเดินทางมาพักผ่อนเพื่อจิบกาแฟฟรี มีบริการตลอด ของ สมศักดิ์ คีรีภูมิทอง ผู้นำแนวคิดชาวเขาปากากะญอ ผู้ไม่ย่อท้ออุปสรรค..รัก บูชา..เทิดไท้ ในพระมหากรุณาธิคุณ เทอดทูนน้อมนำเอาความดี ล้นเกล้าฯ เป็นที่สุด..หนึ่งมนุษย์คนไทยภูเขา ควรค่าเล่าขานสืบไป จารึกไว้ บ้านแม่กลางหลวง แห่งเมืองไทย.