ด้วยรัก..ด้วยหัวใจ…ณ.ไร่องุ่นฮักริมปิง..สตรีแถวหน้า วัชราภรณ์ หรั่งนางรอง

ด้วยรัก..ด้วยหัวใจ…ณ.ไร่องุ่นฮักริมปิง..สตรีแถวหน้า วัชราภรณ์ หรั่งนางรอง

 

           

 

@CHANGE into Magazine Sutthikhun Kongthong
CHANGE in-your-life เรื่อง : ปราริชาติ ปลื้มจิตต์ตระกูล
 
 
ด้วยรัก..ด้วยหัวใจ…ณ.ไร่องุ่นฮักริมปิง..สตรีแถวหน้า วัชราภรณ์ หรั่งนางรอง.. สาวอิสาน..บุกเบิกและเบิกบาน ณ.ถิ่นล้านนา เชียงใหม่ Thailand.
 
 
 
คุณวัชราภรณ์ หรั่งนางรอง ในวัย 51 ปีซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครพนม เล่าถึงความเป็นมาของไร่องุ่นฮักริมปิง ซึ่งตั้งอยู่บ้านห้วยม่วงใหม่ ถนนสายฮอด-เชียงใหม่ ตำบลสบเตี๊ยะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ว่า ตนเองเป็นคนมาจากต่างจังหวัด และมองหาว่าอะไรที่ไม่ค่อยมีคนทำกัน ก็เริ่มศึกษาหาความรู้ ไปดูข้อมูลที่สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน) มีพืชอยู่หลายตัวน่าสนใจ แต่ก็มาลงตัวที่องุ่น ซึ่งเราสามารถกำหนดอะไรหลายๆอย่างได้ ไม่ว่าผลการผลิตว่าจะให้ออกฤดูกาลไหน กำหนดราคาเอง และส่วนตัวเป็นคนชอบทานองุ่นด้วย ประกอบกับที่ดินตรงนี้เจ้าของบอกขายซึ่งติดกับแม่น้ำปิง เหมาะกับการทำไร่องุ่น จึงตัดสินใจซื้อที่ดิน จำนวน 11 ไร่ในปลายปี พ.ศ.2558
 

 
 
โดยเริ่มหาพันธ์องุ่นต่างๆ มาลง และเมื่อเริ่มมีผลผลิตในปีถัดมา ก็พยายามหาตลาดในการจำหน่ายไปติดต่อหลายแห่ง แต่มีข้อจำกัดที่ไม่ตรงกับหลักการที่เราวางแผนไว้ จึงพยายามศึกษาในสิ่งที่เราอาจไม่ถนัด เช่นลงมือทำเวปเพจ ปักหมุดไร่องุ่นลงในกูเกิล เพื่อสื่อสารให้สังคมรับรู้ถึงการทำไร่องุ่นฮักริมปิง และคือจุดเริ่มต้นของการเป็นเจ้าของธุรกิจไร่องุ่นอย่างเต็มตัว ซึ่งทำในระบบครอบครัวแต่ก็จ้างคนงานมาช่วยด้วย
 
ไร่องุ่นฮักริมปิง เริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายและเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ผู้คนจากสถานที่ต่างๆ เดินทางมาเช็คอิน ฟินส์กับการถ่ายรูปใต้ต้นองุ่นที่ออกผลผลิตและก็มีบางรายซื้อกลับไป…คุณวัชราภรณ์บอกว่า ทั้งหมดเกิดจากความคิดของเราที่ต้องการทำองุ่นให้ปลอดภัย เพราะหลายคนต่างทราบดีว่าการปลูกองุ่นใช้สารเคมีค่อนข้างเยอะ แต่สำหรับของเรามีการวางระบบจัดการที่ดี มีการปลูกในโรงเรือน เพื่อป้องกันโรค ใส่มุ้งเพื่อลดการใช้สารเคมีลงได้ 80-90% และมีความปลอดภัย ด้วยเราเป็นคนลงมือทำและปลูกเอง อันดับแรกตัวเราต้องปลอดภัยก่อน สิ่งที่ตามมาคนกินก็ปลอดภัย มีความสบายใจ คนที่มาเที่ยวไร่องุ่นฮักริมปิง จึงเป็นระบบเล่ากันปากต่อปาก โดยองุ่นของเรามีคุณภาพและหวานเพราะจะตั้งกำหนดเกณฑ์ความหวานไว้ที่ 20 บริกซ์ตามมาตรฐานของตลาด ซึ่งราคานั้นแล้วแต่สายพันธุ์ มีตั้งแต่กิโลกรัมละ 100-500 บาท แต่สายพันธุ์ใหม่ที่เราปลูกและมาใหม่ที่แนะนำคือ ไชน์มัสแคทเป็นสายพันธุ์จากประเทศญี่ปุ่น (สายพันธุ์ไฮโซในประเทศญี่ปุ่น ราคากิโลกรัมละ 1,000บาท) โดยเปิดราคาขายที่ไร่อยู่ 500 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
 

 
 
คุณวัชราภรณ์ เล่าต่อว่า จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเแม่โจ้ คณะผลิตกรรมการเกษตรไม้ดอก ในช่วงแรกเคยทำงานบริษัทเอกชนเกี่ยวกับงานดูแลกล้วยไม้มาก่อน แต่เรามีความรักความมุ่งมั่นและมีพลังความคิดที่อยากเป็นเจ้าของกิจการทำการเกษตรด้วยมีต้นแบบจากรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่ทำกันมา ส่วนการเดินทางมาซื้อที่ดินและทำไร่องุ่นอยู่จังหวัดเชียงใหม่เพราะส่วนตัวชอบบรรยากาศ และมีใจรักเป็นทุน การปลูกองุ่นขายนั้นมีความยากพอสมควร เพราะมีความละเอียดอ่อน เช่น ช่วงที่มีดอกและติดลูก เป็นช่วงที่อ่อนไหวมากเพราะต้องคอยดูแลเป็นอย่างดี การปลูกองุ่น เป็นการฝึกวินัยเราได้เป็นอย่างดี เพราะถึงเวลาคุณต้องทำ ถ้าไม่ทำเท่ากับพลาดไปแล้ว
 
โดยในปีนี้เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ทางไร่องุ่นฮักริมปิงจึงมีการปรับเปลี่ยน เพราะถ้าทำไปความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายสูงมาก เลยทดลองปรับให้ผลผลิตออกเฉพาะปลายปีแทนในช่วงฤดูหนาว คือ เริ่มปลายฝนและเก็บผลองุ่นทานประมาต้นฤดูหนาวไล่ไปจนถึงสงกรานต์ปีหน้า
 
สำหรับตลาดส่งองุ่นของเรา มีวางจำหน่ายที่ร้านเกษตรของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่วางเป็นประจำในช่วงผลผลิตออก ขายทางออนไลน์บ้าง และมีนักท่องเที่ยววลอค์อินเข้ามาที่ไร่เอง ซึ่งคนทำไร่องุ่นนั้นถ้าไม่เกิดปัญหาใดๆ รายได้ถือว่าเลี้ยงตัวเองและครอบครัวอยู่ในระดับดี คิดเป็นเงินต่อปีก็หลายแสนบาท
 
สำหรับปีนี้ ทางไร่องุ่นฮักริมปิงได้ปลูกอินทผลัมไว้ 5 ไร่ เป็นการปลูกพืชผสมผสาน กับองุ่น แต่ไร่องุ่นซึ่งใช้พื้นที่ 3 ไร่ เป็นตัวหลัก โดยอินทผลัมเป็นพืชรอง และผลผลิตอินทผลัมจะสามารถเก็บขายได้ประมาณเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ถือเป็นปีแรกที่จะจำหน่ายไม้ผลอีกประเภท
 
 

 
 
หลักการทำงานนั้น คุณวัชราภรณ์ บอกว่า ต้องมีเป้าหมาย มีความมุ้งมั่น ทำแบบกัดไม่ปล่อย อะไรที่เราไม่รู้ก็ต้องหาความรู้เพิ่มเติม และทำมันไปจนกว่าจะได้คำตอบ ที่สำคัญเราต้องรักมัน คือ รักในสิ่งที่เราทำ ซึ่งการทำไร่องุ่นตอนนี้ไม่เหมือนว่าเราทำงาน กลายเเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเไปแล้ว ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ยิ่งพอเห็นผลผลิตยิ่งมีความสุข และหากเกิดปัญหา เราต้องมีสติ มานั่งทบทวนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาเกิดจากอะไรก็หาทางแก้จุดนั้น บางครั้งก็ขับรถเข้าป่าไปใช่เวลาอันสงบท่ามกลางธรรมชาติทบทวนอยู่กับตัวเอง เพื่อหาคำตอบแล้วกลับมาสู้ใหม่ และหากมีใครสนใจมาเรียนรู้การทำไร่องุ่นก็พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้ข้อมูลเป็นวิทยาทานซึ่งกันและกัน
 
สำหรับผู้ที่มาเที่ยวไร่ฮักริมปิง ทางไร่ของเรามีน้ำองุ่นไว้จำหน่าย เป็นการแปรรูปผลผลิตโดยนำองุ่นที่มีขนาดเล็ก หรือมีลายด่างไม่สวยที่จะส่งขาย ก็นำมาผ่านกรรมวิธีพาสเจอไรซ์และบรรจุขวดแช่ตู้เย็นขายสำหรับคนที่สนใจอยากปลูกไร่องุ่นเป็นอาชีพนั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีความรู้ที่ค่อนข้างสูง ต้องใช้ระยะเวลา ต้องมีความมุ่งมั่นพอสมควร หมั่นหาความรู้เพราะสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปด้วย จึงต้องเติมความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอในยุคปัจจุบัน และสิ่งสำคัญต้องทำด้วยความรักจริงๆ แล้วก็จะประสบผลสำเร็จ เพราะตนเองรักต้นไม้ทุกต้นทุกชนิดที่ปลูกบนพื้นแผ่นดินนี้
 
 


 
ไร่องุ่นฮักริมปิง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ทางธรรมชาติ ที่มีความร่มรื่น ด้วยทัศนียภาพ สบายตาสบายใจ ทิวทัศน์ด้านในติดแม่น้ำปิงโดยเฉพาะในช่วงผลองุ่นออกโชว์โฉม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเจ้าของไร่เป็นหญิงไทยหัวใจเหล็ก กับความสุขของชีวิตในสูตรสำเร็จของธุรกิจที่ผ่านมา 6 ปี…รักในสิ่งที่ทำ มุ่งมั่น ศึกษา และลงมือทำด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค…ซึ่งเธอเคยได้รับทุนไปศึกษาดูงานการปลูกองุ่นที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว
 
คุณวัชราภรณ์ บอกกับเราอีกว่า มีสิ่งหนึ่งที่ตั้งใจอยากทำต่อไปให้โลกจำ คือ ผสมผสานพันธ์องุ่นที่ดีของแต่ละสายพันธุ์จากต่างประเทศ เพื่อให้ กลายมาเป็นองุ่นสายพันธุ์ไทย แม้อาจจะสำเร็จในวัยเข้าสู่เลข 90 ปีของเธอก็ตาม แต่ก็จะพยายาม…อีกหนึ่งคนต้นแบบของผู้หญิงไทยธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดา จริงๆ..วัชราภรณ์ หรั่งนางรอง.