“พรอสเพค” นำทัพกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ เดินหน้าพัฒนาอาคารโรงงานและคลังสินค้า
“พรอสเพค” นำทัพกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ
เดินหน้าพัฒนาอาคารโรงงานและคลังสินค้ากว่า 150,000 ตร.ม.
พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจ สร้างอัตราการเติบโตต่อเนื่อง
(21 พฤษภาคม 2563 : กรุงเทพฯ) พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ในเครือ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ชี้ COVID-19 ไม่ส่งผลกระทบที่เด่นชัดต่อธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ เผยโครงการ “Bangkok Free Trade Zone” เดินหน้าสร้างรายได้ไตรมาส 1/2563 แล้ว 101 ล้านบาท เหตุต่างชาติเล็งใช้ประเทศไทยเป็นฐานผลิต ดันธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเติบโตต่อเนื่อง สบช่องตลาดขาขึ้นขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าอีกกว่า 200 ไร่ 150,000 ตารางเมตร
นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (PD) ในเครือ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาและบริหารโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (Bangkok Free Trade Zone : BFTZ) เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าภายใต้โครงการ Bangkok Free Trade Zone ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ COVID-19 น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น ในทางกลับกันพบว่ามีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่เริ่มเห็นสัญญาณเด่นชัดตั้งแต่มีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน (Trade war) ส่งผลให้จีนมองหาแหล่งผลิตและฐานกระจายสินค้าใหม่ ดังนั้นถึงถือเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจให้เช่า
“นับตั้งแต่พัฒนาโครงการ BFTZ ในปี 2559 ปัจจุบัน พรอสเพค มีพื้นที่อาคารโรงงานและคลังสินค้าประมาณ 220,000 ตารางเมตร ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงถึง 160% ซึ่งหากพัฒนาเต็มพื้นที่ในโครงการ พรอสเพค จะมีพื้นที่ทั้งหมด 300,000 ตารางเมตร ภายในไตรมาสแรกของปี 2564 โดยในไตรมาสแรกของปี 2563 สามารถสร้างรายได้แล้ว 101 ล้านบาท”
สำหรับปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ BFTZ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากโครงการดังกล่าวมีความโดดเด่นอย่างมาก โดยเป็นโครงการที่มีทั้งส่วนที่เป็น Free Zone และ General Zone มีพื้นที่ในการบริการทั้งในส่วนที่เป็นคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า มีระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์แบบ บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 1,000 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีม่วงที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ สามารถเดินทางเข้าออกได้ 2 เส้นทาง คือ ถนนบางนา-ตราด กม.23 และ ถนนบางนา-ตราด กม.19 และมีการคมนาคมที่สะดวก โดยห่างจากท่าเรือคลองเตยเพียง 23 กิโลเมตร ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 17 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือแหลมฉบังเพียง 90 กิโลเมตร ทั้งนี้สามารถเดินทางไปยังเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพียง 50 กิโลเมตร มีบริการเสริมสำหรับอำนวยความสะดวกที่เตรียมไว้ให้ผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติ อาทิ Consulting Service เป็นบริการให้คำปรึกษาเรื่องการขออนุญาตประกอบธุรกิจในประเทศไทย ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจ เอกสารประกอบ และให้คำปรึกษาด้านการขอใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบกิจการในเขตปลอดอากร (กศก. 185) เป็นต้น นอกจากนี้ทางโครงการยังมีระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบการบำบัดน้ำเสีย ระบบป้องกันน้ำท่วม ระบบรักษาความปลอดภัย และการดูแลความสะอาดภายในโครงการ และยังมีโซนร้านค้า ร้านอาหาร และบริการด้านศุลกากรสำหรับการบริการผู้เช่าอีกด้วย
“จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทาง พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จึงได้เดินหน้าขยายธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าใหม่อีกจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณ กม.19 และย่านเทพารักษ์ รวม 150,000 ตารางเมตร ซึ่งโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าทั้ง 2 แห่ง จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปลายปี 2563 ซึ่งหากมีการพัฒนาเต็มทุกเฟสจะทำให้บริษัทมีพื้นที่อาคารโรงงานและคลังสินค้ากว่า 450,000 ตารางเมตร พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังมีแผนจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย” นางสาวรัชนี กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ Bangkok Free Trade Zone ตั้งอยู่ที่ บางนาตราด กม.23 เป็นพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าที่มีการขออนุญาตให้เป็น Free Zone สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาเช่าพื้นที่ โดยสามารถเลือกได้ทั้งส่วนที่เป็น Free Zone หรือ ส่วนที่เป็น General Zone ซึ่งภายใน Bangkok Free Trade Zone นี้ เรามีอาคารให้เช่าแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1) อาคารคลังสินค้า และ 2) อาคารโรงงาน เนื่องจากบริเวณที่ตั้งโครงการเป็นพื้นที่สีม่วง ทำให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างโรงงานในพื้นที่นี้ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขออนุญาต สำหรับ Bangkok Free Trade Zone พื้นที่ทั้งหมดในโครงการมีทั้งสิ้น 1,000 ไร่ ซึ่ง 700 ไร่ เป็นพื้นที่เพื่อการเช่าหรือ Leasable Area โดยอีก 300 ไร่ คือ พื้นที่เพื่อการสาธารณูปโภค อาทิ ถนนสาธารณะ โรงบำบัดน้ำเสีย และส่วนการรักษาความปลอดภัยภายในโครงการ เป็นต้น