โอสถสภาร่วมเป็นพลัง มอบแสงสว่างแก่ผู้ป่วยโรคต้อกระจก
โอสถสภาร่วมเป็นพลัง มอบแสงสว่างแก่ผู้ป่วยโรคต้อกระจก
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ร่วมสนับสนุนโรงพยาบาลบ้านแพ้วในการมอบแสงสว่างแก่ดวงตาด้วยการผ่าตัดต้อกระจกให้แก่ผู้สูงอายุและผู้ยากไร้และขาดแคลนในพื้นที่ห่างไกล ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติและมีความสุขได้อีกครั้ง เพื่อเป็นพลังเสริมสร้างชีวิต สร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย
จากที่เคยมีความหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข ผู้สูงอายุอีกมากมายในพื้นที่ห่างไกล กลับต้องทนทุกข์กับสายตาที่พร่าเลือน สร้างความลำบากในการใช้ชีวิต และหลายคนต้องกลายเป็นคนตาบอดจากโรคต้อกระจกเพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งทุกวันนี้มีคนไทยที่ประสบกับภาวะตาบอดจากต้อกระจกมากถึงร้อยละ 51 และต้อหินร้อยละ 9.8 ทั้งที่ภาวะตาบอดสามารถป้องกันหรือรักษาได้ถึงร้อยละ 80 หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) จึงได้ร่วมสนับสนุนโครงการออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจกเคลื่อนที่ ศูนย์จักษุและต้อกระจก โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ด้วยตระหนักถึงความมุ่งมั่นของจักษุแพทย์และทีมงานของโรงพยาบาลบ้านแพ้วกว่า 50 ชีวิต ที่ได้ทุ่มเทและเสียสละเวลาในการออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจกเคลื่อนที่ตลอดระยะเวลากว่า 14 ปี เดินทางไปรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง ได้แก่ กัมพูชา ภูฏาน และเมียนมา เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยได้กลับมามองเห็นและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ และไม่เป็นภาระกับครอบครัว
แพทย์หญิงพัทธ์ศรัณย์ ธนะสุพรรณ ผู้อำนวยการศูนย์จักษุและต้อกระจก โรงพยาบาล
บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า “คุณหมอที่มาร่วมออกหน่วยผ่าตัดเคลื่อนที่ล้วนมีจิตอาสาที่ตั้งใจมาช่วยผู้ป่วย แม้จะรู้มาก่อนว่าจะต้องเสียสละเวลาส่วนตัว เพราะต้องทำงาน 7 วัน แต่ทุกคนก็มีความสุข ทุกครั้งที่ออกหน่วยจะได้เจอกับคนไข้บางคนที่มีอาการหนัก มองไม่เห็นทั้งสองข้าง บางคนอยู่ในโลกมืด
มานาน พอผ่าตัดแล้ว ในวันรุ่งขึ้นก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง ซึ่งทุกคนจะดีใจมากที่ได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง การผ่าตัดต้อกระจกไม่ได้เปลี่ยนแค่ชีวิตของคนไข้ แต่เปลี่ยนชีวิตของคนรอบข้างที่ต้องคอยดูแลเขาด้วย เพราะการผ่าตัดทำให้คนไข้กลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทำให้คนรอบข้างที่เคยช่วยดูแลก็สามารถกลับไปทำงานของตนได้โดยไร้กังวล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางโครงการสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้เพียงจำนวนหนึ่ง จึงต้องมีการคัดเลือกให้ผู้ป่วยที่มีความเร่งด่วนได้รับการรักษาก่อน สำหรับผู้ที่มีความเร่งด่วนน้อยกว่า จะต้องรอเข้ารับการผ่าตัดในรอบต่อไป การสนับสนุนจากภาคเอกชนจะเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญที่จะช่วยขยายโอกาสในการเข้ารับการรักษา และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยเพิ่มมากขึ้น”
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.โอสถสภา กล่าวว่า “โอสถสภาประกอบธุรกิจโดยยึดหลัก “เจริญโดยการช่วยเหลือผู้อื่น” จึงให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของคนไทยมาตลอด โดยพร้อมที่จะมอบพลังส่งเสริมให้ผู้ที่มีอุปสรรคทางกายสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง
ในโอกาสที่บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจการมากว่า 127 ปี และเข้าทำการซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก จึงได้ตอบแทนสังคม ด้วยการสานต่อปณิธานแห่งการให้ มอบเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนโครงการออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจกเคลื่อนที่ เพื่อช่วยขยายโอกาสและมอบแสงสว่างแก่ดวงตาในการผ่าตัดต้อกระจกให้แก่ผู้ยากไร้และผู้ขาดแคลนจำนวน 127 ราย ในจังหวัดต่างๆ อาทิ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครราชสีมา เพื่อเป็นพลังเสริมสร้างชีวิต สร้างสุขภาพที่ดี ซึ่งจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย
เพื่อช่วยให้ผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากการมองเห็นที่เสื่อมสภาพ ได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวได้อีกครั้ง รวมทั้งเป็นพลังและเสริมสร้างกำลังใจให้กับบุคลากรของศูนย์จักษุและต้อกระจก โรงพยาบาลบ้านแพ้วที่ได้อุทิศตนช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย”
นายธงชัย จิรกิจมงคล อายุ 68 ปี จากอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา เล่าว่า “ตอนที่ยังไม่ได้ผ่า เราก็มองเห็นลางๆ มองไกลๆ ไม่ค่อยเห็น เหมือนเดือนหงาย สว่างจริงแต่มองได้ไม่ไกล เดินเหินลำบาก มีจดหมายมาก็อ่านไม่ได้ มีตาแต่มองไม่เห็น ลูกหลานก็ลำบาก กลัวอยู่ตลอดว่าถ้าล้มไปเป็นอัมพาต จะทำอย่างไร คนที่ไม่เป็นไม่มีวันเข้าใจ พอได้ผ่าตาก็เหมือนมีชีวิตใหม่ ลูกหลานก็หมดห่วง เราก็ดีใจ”
นางทองสุก เจริญวัน อายุ 62 ปี จากอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เล่าว่า “ก่อนหน้าที่จะมาหาคุณหมอ ตามันมัว มองไม่ค่อยเห็นอะไร เวลาเดินก็รู้สึกว่าพื้นไม่เรียบเดินชนประตูบ่อยๆ แขนเขียวไปหมด พอรู้ว่ามีโครงการช่วยเหลือคนที่นี่ ก็ดีใจ เราจะได้กลับมามองเห็นอีกครั้ง และประหยัดเงินด้วย ลำพังถ้าจะให้ป้าออกเงินเองทั้งหมด ก็ลำบากมาก”
การรักษาผู้ป่วยต้อกระจกจึงไม่เพียงแต่ช่วยคืนชีวิตและความสุขให้ผู้ป่วย แต่ยังช่วยให้ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับโอสถสภา
โอสถสภา ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2434 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2561 ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา โอสถสภามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อเสริมสร้างชีวิตให้แก่ผู้บริโภคและสังคม ภายใต้แนวคิด “พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต”
ในฐานะส่วนหนึ่งของสังคมไทย โอสถสภาตอบแทนสังคมเพื่อสร้างสรรค์ชีวิตคนไทยให้ยั่งยืนยิ่งกว่า ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมไทยในหลากหลายด้าน ได้แก่ ด้านการกีฬา การศึกษา การแพทย์และสาธารณสุข และการให้ความช่วยเหลือสังคมในโอกาสต่างๆ รวมถึงในกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยและสังคมไทยให้ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน
Osotspa joins with Banphaeo Hospital to provide free surgeries to give sight back to patients with cataracts
Osotspa Public Company Limited has joined together with Banphaeo Hospital to give senior citizens and the underprivileged in remote areas who needed cataract surgery their sight back so they can resume living normal lives, an initiative that reflects the company’s goal of enhancing the lives of all Thais.
Many senior citizens living in remote areas of Thailand suffer from cataracts, resulting in blurred or hazy vision that makes their lives much more difficult and may lead to blindness if untreated. The percentage of Thais affected by blindness due to untreated cataracts and glaucoma stands at 51% and 9.8% respectively, even though these forms of visual impairment are curable with the appropriate treatment.
In response, Osotspa Public Company Limited is supporting a medical project in which Banphaeo Hospital staff provide cataract surgery through a mobile unit. For more than 14 years, the hospital has supported 50 ophthalmologists and medical staff who perform cataract surgeries in the mobile unit, offering convenient access to cataract patients who live in remote areas nationwide and in neighboring countries such as Cambodia, Bhutan, and Myanmar. The project aims to give patients their eyesight back, restoring their ability to live normal and independent lives.
Dr. Patsaran Thanasuphan, Director of the Eye and Cataract Excellence Center, Banphaeo Hospital, Samutsakhon, said, “Staff volunteer to work in the mobile eye surgical unit during their days off. We regularly deal with patients with severe symptoms that can cause blindness in both eyes. Some patients have been living in darkness for a long time, but just one day after surgery, their sight is restored. You have no idea how overjoyed they are to have their vision back. Cataract surgery not only changes the lives of patients, but of those around them. It allows patients to have normal and independent lives again and gives everyone around them peace of mind and more spare time. As the project can only handle a limited number of patients, those with severe symptoms are selected for surgery first, while others with less-severe symptoms must wait for subsequent rounds. This partnership with the private sector offers crucial medical treatment that improves the quality of life for more patients.”
Mrs. Wannipa Bhakdibutr, President of Osotspa Public Company Limited, said, “Osotspa operates under the principle of ‘prosperity from charity.’ We have always understood the importance of improving the quality of life of all Thais and continuously support those with physical disabilities so they can lead normal lives. To mark the company’s 127-year anniversary and our listing on the Stock Exchange of Thailand (SET), we are continuing our commitment to giving by supporting the cataract surgery mobile eye surgical unit project, which aims to provide life-changing cataract surgery for 127 disadvantaged residents in provinces including Chachoengsao, Chonburi, and Nakhon Ratchasima, to enhance their lives. This is a very meaningful initiative that supports those most in need who are affected by visual impairment so they can get their lives back. It also encourages and validates the important work being done by the staff at the Eye and Cataract Center at Banphaeo Hospital who volunteer their time to visit different parts of the country for this important mission. I commend them for their unwavering commitment and contribution to their patients.”
Sixty-eight year-old Thongchai Jirakitmonkol from Bangklao District in Chachoengsao said, “Before having the cataracts removed, my vision was hazy and I could not see very far. Just like a night of the crescent moon, it is bright, but at a short distance. As a result, I found it hard to walk confidently and couldn’t read letters due to my poor eyesight. This also affected everyone in my family. I was worried that I could fall or trip and end up injured or even paralyzed. You cannot imagine how badly cataracts can affect your vision. Having them removed has given me my life back while providing a huge sense of relief to everyone around me and bringing happiness to my family.”
Sixty-two year-old Thongsuk Charoenwan from Phanom Sarakham District in Chachoengsao said, “Before I decided to have my eyes checked by the doctor, I had blurry and hazy vision and couldn’t see objects clearly. I felt like I was walking on uneven ground and often got bruised from bumping into doors. I’m so glad I learned about this project, which was initiated to help people with visual impairment get their eyesight back at no cost. To be honest, I would not have been able to afford the treatment on my own.”
Providing medical care for cataract patients gives them back their lives and their happiness which, in turn, improves the quality of life for their families.
About Osotspa
Osotspa, a leading Thailand-based consumer products producer and distributor, was established in 1891 and listed on the Stock Exchange of Thailand (SET) in October 2018. Over multiple decades, Osotspa has continued to deliver a wide range of products through the use of advanced technologies with a clear purpose to enhance the livelihoods of consumers and society under the concept of “The Power to Enhance Life.”
Osotspa is committed to contributing to Thai society by improving the quality of life of Thais by supporting numerous socially responsible activities in various sectors including sports, education, medicine and public health as well as other response and mitigation activities following natural disasters as an effective approach to improving the quality of life of all Thais and Thai society.