อิ่มเอิบ ประทับใจ..ดอกไม้เพื่อพ่อ
อิ่มเอิบ ประทับใจ..ดอกไม้เพื่อพ่อ
อุโมงค์ดอกไม้ที่จัดทำเหมือนผืนผ้าปลิวไสว ความยาว 89 เมตร ตามพระชนมพรรษาของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ถูกประดับไว้ด้วยดอกไม้สีขาวในส่วนปลายของผืนผ้า แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีของธงชาติไทย ซุ้มนี้ คือ "ซุ้มคนไทย" ซึ่งเป็นหนึ่งในซุ้ม "ดอกไม้เพื่อพ่อ" ที่ชาวชุมชนปากคลองตลาดและจิตอาสากว่า 4,000 คน ช่วยกันประดิษฐ์ประดอยขึ้นจากดอกไม้นานาชนิด เพื่อเนรมิตปากคลองตลาดให้กลายเป็นซุ้มดอกไม้อันยิ่งใหญ่ สวยสด และงดงาม แสดงถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่มีต่อพ่อหลวงของคนไทย
"ซุ้มคนไทย" คือ "ซุ้มสายฝน" เป็นซุ้มดอกไม้ที่มีแรงบันดาลใจจากภาพดอกบัวในมือของ ยายตุ้ม จันทนิตย์ ที่เฝ้ารอรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ ๙ จนดอกบัวสายในมือเหี่ยวเฉา เมื่อครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรที่จังหวัดนครพนม ในปี 2498 คุณยายไปเฝ้ารอรับเสด็จพร้อมดอกบัวสายสีชมพูตั้งแต่เช้าจนบ่าย แสงแดดแผดเผาจนดอกบัวสายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจความจงรักภักดีของหญิงชรากลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อพระองค์ท่านเสด็จมาถึง ทรงโน้มพระองค์ลงมาจนพระพักตร์เกือบชิดกับศีรษะของคุณยาย และทรงรับดอกบัวสายเอาไว้ เป็นภาพที่ประทับอยู่ในความทรงจำของทุกคนบนผืนแผ่นดินไทย
ซุ้มที่ 3 ซุ้ม "รอยเท้าพ่อ" จัดทำขึ้นเป็นรูปทรงทิวเขาทางภาคเหนือ ประดับด้วยดอกเบญจมาศ ดอกมัม หรือ คริสแซนติมั่ม และดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด ซึ่งปัจจุบันเป็นดอกไม้เศรษฐกิจของไทย เพื่อสื่อความหมายถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการพลิกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรม เปลี่ยนไร่ฝิ่นบนภูเขาสูงในภาคเหนือสู่สวนดอกไม้และพืชเมืองหนาว สร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวเขาได้อยู่ดีกินดี มีความอุดมสมบูรณ์เกิดขึ้นในทั่วทุกผืนป่าของแผ่นดินไทย
ซุ้มที่ 4 "ซุ้มบ้าน" เป็นแรงบันดาลใจจากดอกดารารัตน์ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่ทรงโปรด และทรงมอบให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งที่ยังมิได้ราชาภิเษกสมรส / ขณะทรงประทับอยู่ที่นครปารีส ประเทศฝรั่งเศส และในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงศึกษาและประทับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์
ซุ้มที่ 5 ซุ้ม "๙" (อ่านว่าซุ้มเลขเก้า) เป็นซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นด้วยดอกดาวเรืองสีเหลือง เป็นสีประจำรัชกาล รวมทั้งยังเป็นดอกไม้ประจำรัชกาลที่ ๙ ตามความเชื่อของคนไทย ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้มงคลที่เชื่อกันว่าจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาให้ โดยนำมาเรียงร้อยเป็นม่านระย้าที่จัดชั้นลดหลั่นงดงาม เมื่อมองจากมุมหน้าตรงของซุ้มประตู จะเห็นเป็นรูปทรงของเลข ๙ ซึ่งเป็นเลขไทย อีกทั้งคนไทยยังมีความเชื่อเกี่ยวกับเลข ๙ ว่าหมายถึงความก้าวหน้า เมื่อรวมกับสีเหลืองทองของดอกดาวเรืองนั้น จึงเปรียบเสมือนความรุ่งเรืองของประเทศไทย ตลอดรัชสมัยรัชกาลที่ ๙ ของพระองค์
และซุ้มสุดท้าย คือ ซุ้ม "มณฑารพ" ซุ้มดอกไม้ที่จัดทำขึ้นเป็นรูปทรงประตูสวรรค์ โดยมีดอกมณฑารพ บานสะพรั่งมากมายอยู่รายรอบ โดยดอกมณฑารพเป็นดอกไม้ทิพย์ที่ไม่มีในโลกมนุษย์ แต่จะพบได้เฉพาะในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เท่านั้น มีความเชื่อกันว่า ครั้งใดมีเหตุการณ์สำคัญมาก ถึงขั้นที่ทำให้สะเทือนถึงแดนสวรรค์ ดอกมณฑารพก็จะโปรยปรายผ่านแดนทิพย์สู่โลกมนุษย์ด้านข้างประตูสวรรค์ รายล้อมด้วยเทือกเขาดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ และช้างเผือก อันเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติประดับบารมีของพระมหากษัตริย์เท่านั้น เพื่อสื่อความหมายถึงพระบารมีอันล้นฟ้า
และเป็นการส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย อันพสกนิกรชาวไทยจะน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดรแน่นอนว่าประชาชนที่มาถวายพวงมาลัยดอกไม้สดหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ ริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ย่อมไม่พลาดที่มาชมดอกไม้ละลานตาที่ปากคลองตลาดแห่งนี้