“สภาปัญญาสมาพันธ์” เผยผลสำรวจความเห็น

“สภาปัญญาสมาพันธ์” เผยผลสำรวจความเห็น

 

 

 

 “สภาปัญญาสมาพันธ์เผยผลสำรวจความเห็น
ชี้ ปชช. ให้คะแนนภาครัฐทำงานดีสอบผ่านร้อยละ 71

 

 

กรุงเทพฯ 13พฤษภาคม 2560 – สภาปัญญาสมาพันธ์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศที่มีต่อประสิทธิผลภาครัฐ ประจำไตรมาส 1 ปี 2560 ภาพรวมประชาชนให้คะแนนรัฐบาลที่ร้อยละ 71.24พร้อมชี้ 5 อันดับหน่วยงานภาครัฐครองใจรากหญ้า อันดับแรก ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน รองลงมาเป็นเทศบาล ตามด้วยโรงพยาบาลในชุมชน อบต. และที่ว่าการอำเภอ

 

ดร.อมรศักดิ์ กิจธนานันท์ หัวหน้าคณะทำงานสภาปัญญาสมาพันธ์ และผู้อำนวยการสถาบันการสร้างชาติ กล่าวว่า สภาปัญญาสมาพันธ์ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกลุ่มตัวอย่างจากทั่วประเทศกว่า 1,200 คน ที่มีต่อดัชนีประสิทธิผลภาครัฐ (Public Sector Effectiveness Index – PBE Index) ประจำไตรมาส 1 ปี 2560 พบว่าภาพรวมประชาชนให้คะแนนรัฐบาลปฏิบัติงานได้ร้อยละ 71.24 โดยแบ่งการสำรวจในรายละเอียดหลักๆ เป็น 2 หมวด ได้แก่ ด้านประสิทธิผลภาครัฐ และด้านการดำเนินงานของภาครัฐ

ดร.อมรศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับหมวดประสิทธิผลภาครัฐ พบว่า ประชาชนให้คะแนนร้อยละ 68.27 ในเรื่องการเข้าถึงและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นคะแนนร้อยละ 66.42 เรื่องการปฏิบัติงานตอบสนองต่อประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาได้ฉับไว ทันเหตุการณ์ และร้อยละ 64.77 เป็นเรื่องกรที่ภาครัฐมีความสามารถในการควบคุม กำกับดูแลหน่วยงานต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตให้ดำเนินการทำภารกิจเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด

สำหรับด้านการดำเนินงานของภาครัฐ ประชาชนให้คะแนนกว่าร้อยละ 66.59 เรื่องที่ภาครัฐมีความสามารถสร้างพันธมิตรและบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น รองลงมาร้อยละ 65.85 เป็นเรื่องที่ภาครัฐมีความรับผิดชอบในผลการดำเนินงานของตน ตลอดจนชดใช้และเยียวยาเมื่อทำผิดพลาด ลำดับถัดมาให้คะแนนร้อยละ 65.39 เรื่องประสิทธิภาพในการดำเนินงานของภาครัฐ ต่อมาให้คะแนนร้อยละ 64.59 เรื่องความเป็นมืออาชีพด้านการทำงาน และร้อยละ 63.16 เรื่องภาครัฐมีความโปร่งใส อันดับสุดท้าย คะแนนร้อยละ 60.08 เป็นเรื่องภาครัฐมีการปลอดคอร์รัปชั่น

ผลสำรวจในครั้งนี้ยังเผยให้เห็นหน่วยงานราชการที่ประชาชนเห็นว่าดีที่สุด 5 อันดับแรก โดยประชาชนร้อยละ 17.9 ระบุว่า คือผู้ใหญ่บ้าน รองลงมา ร้อยละ 14.2 ระบุว่าคือเทศบาล ร้อยละ 11.2 ระบุว่าคือโรงพยาบาลในชุมชน ตามมาด้วย ร้อยละ 8.8 ระบุว่าคือองค์การบริหารส่วนตำบล และร้อยละ 7.8 ระบุว่าคือที่ว่าการอำเภอ ตามลำดับ ซึ่งประชาชนให้เหตุผลว่าทั้ง 5 หน่วยงานนี้ มีความใกล้ชิดประชาชนสามารถเข้าถึงชุมชนได้เป็นอย่างดี ตลอดจนมีความตระหนักต่อหน้าที่ในการดูแลรับใช้ประชาชน
จึงสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังเผยให้เห็นว่าประชาชนให้คะแนนการดำเนินงานของหน่วยงานราชการ ผ่านการวัดผลด้านประสิทธิภาพ ด้านความเป็นมืออาชีพ ด้านความรับผิดชอบ และด้านการปลอดคอร์รัปชั่น พบว่า  ประชาชนให้คะแนนหน่วยงานทหารสอบสูงถึง ร้อยละ 73.24 รองลงมาคือ อำเภอ ร้อยละ 71.44 และท้ายสุด ร้อยละ 67.73 เป็นหน่วยงานตำรวจ

สภาปัญญาสมาพันธ์ ยังได้ทำการสำรวจเพิ่มเติมในอีก 2 ภาคส่วน ได้แก่ ภาคประชาชน กับ ภาคเอกชน โดยภาคประชาชน ได้ทำการสำรวจดัชนีประสิทธิผลการทำงานของภาคประชาชน (People Sector Effectiveness Index – PPE Index) พบว่าในภาพรวมประชาชนให้คะแนนหมวดประสิทธิผลการทำงาน และการดำเนินงานของภาคประชาชนที่ร้อยละ 73.88 โดยประชาชนร้อยละ 69.7 บอกว่าองค์กรภาคประชาชนที่ดีที่สุดคือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)

สำหรับภาคเอกชนได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อดัชนีประสิทธิผลภาคเอกชน (Private Sector Effectiveness Index – PVE Index) เช่นกัน ซึ่งภาพรวมพบว่าประชาชนให้คะแนนภาคเอกชนสอบผ่านที่ร้อยละ 71.16 โดยให้คะแนนด้านการตอบสนองต่อผู้บริโภคมากที่สุด รองลงมาคือ ความเป็นมืออาชีพ และด้านประสิทธิภาพ ตามลำดับ

ด้าน ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสภาปัญญาสมาพันธ์ และประธานอำนวยการบริหารจัดทำดัชนีประสิทธิผลประเทศไทย การสำรวจดัชนีประสิทธิผลประเทศไทย (Thailand’s Effectiveness Index) เป็นการสำรวจการรับรู้ของประชาชน (perception survey) โดย “สภาปัญญาสมาพันธ์” (WISDOM COUNCIL) ซึ่งได้ดำเนินการเก็บข้อมูลจากคนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในเขตเมือง นอกเมือง ทุกระดับการศึกษา ทุกอาชีพ เพื่อให้ได้ความคิดเห็นอย่างกว้างขวางและครบถ้วน โดยผลสำรวจดังกล่าวจะสะท้อนความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ ตลอดจนความคาดหวังของประชาชน ที่มีต่อ 3 ภาคส่วนที่ล้วนมีความสำคัญต่อประเทศ ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ผ่านการดำเนินการทำแบบสำรวจตามละไตรมาสอย่างเป็นประจำต่อเนื่องตลอดทั้งปี จึงช่วยให้มองเห็นมุมมองความคิดของประชาชนที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาต่อทั้งสามภาคส่วนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงสามารถนำข้อมูลที่ได้รับนำไปปรับปรุงแก้ไข หรือพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและต่อประเทศชาติได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สภาปัญญาสมาพันธ์ (WISDOM COUNCIL) โทรศัพท์ 084-522-4424 อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือเข้าไปที่ http://www.wisdomcouncilthailand.com