รสนาท้าพิสูจน์ บำนาญประชาชน 3,000 บาททำได้จริงหรือ!?

รสนาท้าพิสูจน์ บำนาญประชาชน 3,000 บาททำได้จริงหรือ!?

 

 

 

รสนาท้าพิสูจน์ บำนาญประชาชน 3,000 บาททำได้จริงหรือ!?
 
 
 
ผู้สูงอายุในกทม.มีอยู่ 1.1 ล้านคน เมื่อตัดผู้สูงอายุที่เป็นข้าราชการ และที่มีรายได้ จะมีผู้สูงอายุที่ไม่มีหลักประกันใดๆ อยู่ 5.3 แสนคน การเติมเงินในเบี้ยผู้สูงอายุจาก600บาทเป็น3,000บาท/เดือน จะใช้เงิน1.4 หมื่นล้านบาท/ปี
 
เงิน1.4 หมื่นล้านบาท/ปี มาจากรายได้ 3 ทาง
1)งบประมาณ กทม. 7.9 หมื่นล้าน แยกงบบุคคลากรออกจะเหลือ4.9 หมื่นล้านบาท ที่จะนำมาหักลดการรั่วไหลจากคอร์รัปชัน20%เป็นเงิน9.8พันล้านบาท
2)ทำรายได้จากขยะที่เป็นทรัพย์สินของกทม.แทนการใช้งบประมาณกำจัดประมาณรายได้อีก 700 ล้านบาท/ปี
3)นำรายได้จากบริษัทกรุงเทพธนาคมอีก 4.3 พันล้านบาทซึ่งเป็นรายได้ 2.15% ของทรัพย์สิน 2แสนล้านบาท
 
รายได้3แหล่ง รวมเป็นเงิน1.4 หมื่นล้านเพียงพอที่จะจัดสรรเติมเงินเบี้ยผู้สูงอายุเป็นบำนาญ3,000บาทต่อเดือนได้
สังคมไทยเป็นสังคมที่ยึดถือค่านิยมกตัญญูเป็นสำคัญ
ผู้สูงอายุต้องอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่เป็นภาระลูกหลาน
ไม่ลำบากหากถูกทอดทิ้งอยู่ตามลำพัง โดยแท้ที่จริงผู้สูงอายุเป็นปูชนียบุคคลที่มีคุณค่ายิ่ง ทั้งยังมีผลิตภาพที่สามารถช่วยเหลือทั้งครอบครัวและสังคมให้เข้มแข็งได้ด้วย
 
ต้องหยุดโกง กรุงเทพเปลี่ยนแน่
เมื่อหยุดโกง บำนาญ3,000 บาท ทำได้แน่ที่กทม.
 
รสนา โตสิตระกูล
ผู้สมัครผู้ว่าหมายเลข7
5 เมษายน 2565