เมจิ-ขวัญขิณีย์ วินโกมินทร์ กับ...พลังศรัทธาองค์จตุคาม-รามเทพ

เมจิ-ขวัญขิณีย์ วินโกมินทร์ กับ...พลังศรัทธาองค์จตุคาม-รามเทพ

 

 

 

 


เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง /ภาพ ภักดี สุขเพิ่ม


เมจิ-ขวัญขิณีย์ วินโกมินทร์

กับ...พลังศรัทธาองค์จตุคาม-รามเทพ

 


เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้ามาในวงการบันเทิงของ "น.ส.ขวัญขิณีย์ วินโกมินทร์" หรือ "เมจิ" หรือ "เมจิ คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง" นักแสดงชื่อดังกลุ่ม

"เพาเวอร์ทรี" ของค่ายช่อง ๓ จากนั้นเธอก็ได้มีโอกาสเป็นนางเอกให้กับหนังวีซีดีเรื่อง "เนื้อหุ้มเหล็ก" ก่อนที่ช่อง ๓ จะเห็นแววรุ่งชวนเธอมาเซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัด ๒ ปี จนทำให้หลายๆ คนได้รู้จักเธอมากขึ้นในบท "รังรอง" สาวบ้าในบทกุ๊กกิ๊กจากละครเรื่อง "ลิขสิทธิ์หัวใจ"
ก่อนที่จะนำองค์จตุคาม-รามเทพมาแขวนติดตัว เมจิ ได้ศึกษาประวัติและที่มา โดยเธอได้เล่าให้ฟังว่า องค์จตุคาม-รามเทพ คือ เทพรักษาพระบรมธาตุจังหวัดนครศรีธรรมราช สถิตอยู่บนที่บานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ ในปี ๒๕๓๐ เมื่อมีการตั้งดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ จึงมีการอัญเชิญจตุคามรามเทพไปสถิต ณ ที่นั้นเป็นต้นมา โดยมีความเชื่อว่ากันเดิม องค์จตุคาม-รามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรศรีวิชัย มีพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์ที่สถาปนาอาณาจักรศรีวิชัย เป็นปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ธรรมาโศกราช

ขณะเดียวกันยังมีความเชื่ออีกว่า องค์จตุคาม-รามเทพ มีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า " ราชันดำแห่งทะเลใต้ " หรือมีอีกราชสมัญญานามนึงว่า " พญาพังพกาฬ " และต่อมาทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิตเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง

สำหรับองค์จตุคาม-รามเทพ ที่ห้อยคออยูนั้น เมจิ บอกว่า ได้มาจากเพื่อนจากนั้นก็จะแขวนติดตัวประจำ เนื่องจากก่อนหน้านี้จะมีรุ่นพี่บูชาองค์จตุคามรามเทพกันอยู่แล้ว ประกอบกับกระแสคนแขวนจตุคามรามเทพแรงมาก ความอยากรู้จึงได้ไปซื้อหนังสือองค์จตุคามฯมาอ่าน มีความรู้สึกศรัทธาต่อองค์ท่านมาก เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นสิ่งให้เรายึดมั่นในจิตใจอยู่ตลอดเวลา

การบูชาองค์ท่านก็ทำให้เราได้ระลึกนึกถึงองค์ท่านเพื่อรู้จักทำความดี ทุกครั้งยังได้อธิษฐานขอให้ช่วยในยามที่มีความทุกข์ จริงๆ มีองค์ท่านช่วยให้สบายใจแล้วก็ยังมีพระสมเด็จอีก ๑ องค์ที่แขวนติดตัว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอีกสิ่งหนึ่งที่บูชาคือ องค์พระพิฆเนศ กับพ่อแก่ มีความเชื่อว่า จะช่วยให้ประสบความสำเร็จทางด้านการแสดง และถ้าจะเดินทางไปทำงานก็จะไหว้สวดมนต์ เพราะอย่างน้อยการสวดมนต์แบบนี้เหมือนกับเราได้ตั้งสติ ทำจิตใจให้สงบก่อนที่จะออกจากบ้าน

เมื่อถามถึงความเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมจิ บอกว่า มีความเชื่ออย่างมาก สังเกตได้จากปัจจุบันขับรถเร็วมาก จนเพื่อนทุกคนต่างผวาไปตามๆ กัน จนบางครั้งขับด้วยความเร็ว เรียกว่ามีนาทีเฉียดตายก็คงไม่ผิดนัก ครั้งหนึ่งเห็นว่ารถที่เราขับอยู่จะต้องเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างแน่นอน แต่ปรากฎว่า ก็รอดอุบัติเหตุนั้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะถ้ามีอะไรมาช่วยเหตุการณ์ครั้งนั้นรถคงชนกันไปแล้ว

"มาถึงวันนี้กลับมาคิดที่รอดตายมาได้ มันรู้สึกแปลกและน่าอัศจรรย์อย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยมากจนเราเริ่มที่จะซึมซับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ใครว่าพระองค์ไหนดี หรือใครนำพระมาให้ก็จะเก็บบูชาไว้ภายในรถ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า องค์พระท่านคงจะช่วยให้เราปลอดภัยจากอุบัติเหตุร้ายๆได้ แม้วันใดไม่สบายใจ มีความทุกข์ หรือมีความสุขเราก็อยู่กับพระไว้เป็นที่พึ่งทางใจ" เธอเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระมีจริง

ย่างไรก็ตาม เมื่อว่างเว้นจากงานการแสดง เมจิมักจากไปทำบุญสร้างกุศลให้กับตัวเองมาตลอด เมื่อไม่นานมานี้ยังได้ไปสร้างฐานพระที่วัดกับแฟนคลับ ไม่ได้ไปช่วยบริจาคเพียงแค่เงินอย่างเดียว แต่ได้ไปช่วยกันก่อสร้างฐานพระด้วย อีกทั้ง ทุกคนที่ไปร่วมบุญกันในวันนั้นก็จะจดจำสิ่งที่ดีนี้ตลอดไปว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเราได้เคยมาสร้างพระกัน ณ ที่วัดแห่งนี้ บุญหรือความดีที่เราได้ทำนั้น เชื่อว่าจะต้องได้รับผลกรรมดีนั้นกลับคืนมาแน่นอนจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กรรมของแต่ละคน

นอกจากนี้แล้วเมจิ ยังชอบอ่านหนังสือธรรมะอีกด้วย ทั้งนี้เธอพูดถึงหนังสือธรรมะว่า ธรรมะบางอย่างเราเข้าไม่ถึง ดังนั้น การอ่านหนังสือธรรมะที่ทันสมัยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะพาเราเข้าถึงหลักธรรมที่ถูกต้องได้ อนาคตถ้ามีเวลาจะพยายามไปปฏิบัติธรรมให้เข้าใจธรรมะกว่าที่เป็นอยู่ ยิ่งเป็นหนังสือกฎแห่งกรรม อ่านแล้วทำให้เรารู้ว่ากรรมดีที่เราทำไปสุดท้ายเราจะได้อะไร ในทางกลับกันถ้าเราทำกรรมชั่วแล้วสุดท้ายเราจะได้อะไรตอบแทน อ่านแล้วทำให้เราไม่ประมาทกับชีวิต

"ชีวิตเราทุกคนที่เกิดมาอยากจะบอกว่า ดำเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงจะช่วยให้เราอยู่ในสังคมโลกนี้ได้อย่างไม่เป็นทุกข์ และสิ่งสำคัญเราต้องรู้จักรักษาศีล ๕ ให้ได้ เพราะหลักธรรมเบื้องต้นเหล่านี้ก็สอนให้เราระวังตัว ได้รู้จักทำดี แล้วชีวิตเราก็จะดำเนินตามรายธรรมชีวิตที่เหลืออยู่ของเราก็จะมีแต่ความสุข" เมจิกล่าวทิ้งท้าย


"วันใดไม่สบายใจ มีความทุกข์ หรือมีความสุขเราก็อยู่กับพระไว้เป็นที่พึ่งทางใจ"


เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง /ภาพ ภักดี สุขเพิ่ม