เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” ครั้งประวัติศาสตร์
เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” ครั้งประวัติศาสตร์ จากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐาน ณ วัดบวรนิเวศวิหาร 15 ธันวาคมนี้
มูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร มูลนิธิธรรมดี และองค์กรภาคี ซึ่งมี เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต นายอดิศักดิ์ ภานุพงศ์ เป็นประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล ประธานฝ่ายดำเนินงาน ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา คุณวิชชุดา ไตรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย กรรมการดำเนินโครงการ และคุณหน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์ กรรมการดำเนินโครงการ ร่วมงานโครงการจัดพิธีอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” จากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐาน ณ พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันที่ 15 ธ.ค.2562 โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ โครงการอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพิธีสำคัญครั้งประวัติศาสตร์นี้ และสามารถเข้ากราบสักการะพระบรมเกศาธาตุได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2562 ถึง 15 ม.ค. 2563 รวมเวลา 32 วัน
โครงการอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” จากประเทศศรีลังกา จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์เถรวาทไทย-ลังกา ที่สืบเนื่องมานานกว่า 700 ปี นับตั้งแต่แรกรับนับถือพระพุทธศาสนาเถรวาทแบบลังกาวงศ์ในสมัยสุโขทัย อีกทั้งปี พ.ศ. 2562 ยังเป็นวาระครบรอบ 266 ปี แห่งการประดิษฐานพระพุทธศาสนานิกายสยามวงศ์ในศรีลังกา ซึ่งเป็นนิกายที่ได้รับการอุปสมบทจากคณะพระสมณทูตนำโดยพระอุบาลีมหาเถระ จากวัดธรรมารามแห่งกรุงศรีอยุธยาในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในศรีลังกาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเสื่อมถอยไปด้วยอิทธิพลของชาวต่างชาติและผู้ปกครองที่นับถือศาสนาอื่น นิกายสยามวงศ์จึงเป็นส่วนสำคัญในการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างไทย–ศรีลังกา จวบจนปัจจุบัน
สำหรับพระบรมเกศาธาตุที่จะอัญเชิญมานั้นมีความสําคัญอย่างยิ่ง ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ Nelligala International Buddhist Center โดยได้เก็บรักษาและเป็นที่เคารพบูชาอย่างสูงสุดเป็นระยะเวลากว่า 700 ปีในเมืองแคนดี้ อัญเชิญมาโดยดําริของสมเด็จพระสังฆนายกแห่งวัดมัลละวัตตะ มหาวิหาร หรือวัดบุปผาราม ประเทศศรีลังกา ซึ่งเป็นวัดที่พระอุบาลีมหาเถระและคณะสมณทูตจากกรุงศรีอยุธยา มาทําการบรรพชาอุปสมบทให้ชาวศรีลังกา และสมเด็จพระสังฆนายกแห่งวัดอัสคิริยาราชมหาวิหาร ซึ่งเป็น 2 วัดที่ทำหน้าที่สำคัญในการดูแลวัดพระเขี้ยวแก้ว พระบรมเกศาธาตุนี้เป็นองค์ที่ไม่เคยอัญเชิญมาในประเทศไทย จึงเป็นครั้งแรกในรอบ 700 ปีที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยจะได้มีโอกาสเข้ากราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 ธ.ค. 2562 พระสังฆนายกและคณะจากประเทศศรีลังกา พร้อมพระบรมเกศาธาตุ จะเดินทางถึงท่าอากาศสุวรรณภูมิเวลา 06.15 นง โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นายอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ ประธานฝ่ายคฤหัสถ์ ศาสตราจารย์พิเศษจรัญ ภักดีธนากุล ประธานฝ่ายดำเนินการ โครงการอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” และผู้บริหารมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ให้การต้อนรับ จากนั้นจะอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุมายังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ในเวลา 09.00 น. เพื่อประกอบพิธี แล้วริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุจะเคลื่อนขบวนจากลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ โดยใช้เส้นทางถนนพระสุเมรุ ผ่านแยกสะพานวันชาติ มุ่งหน้าไปพระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อประกอบพิธีประดิษฐานต่อไป
พุทธศาสนิกชนสามารถเฝ้าชมขบวนอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุได้ในบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป และสามารถเข้ากราบสักการะพระบรมเกศาธาตุได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2562 ถึง 15 ม.ค. 2563 เวลา 10.00-20.00 น. น. มีกิจกรรมสวดมนต์หรือฟังเทศน์ (เฉพาะวันเสาร์ และวันพระ) เวลา 19.00 – 20.00 น. โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สีขาว พร้อมจองรอบเวลาเป็นเจ้าภาพอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุ และถวายเครื่องสักการะบูชาตามธรรมเนียมศรีลังกา วันละ ๓ รอบ ดังนี้
รอบที่ 1 เวลา 06.30 น.
ถวายภัตตาหาร ดอกไม้บูชาแด่พระบรมเกศาธาตุ
และถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 10 รูป พร้อมถวายกัปปิยภัณฑ์
รอบที่ 2 เวลา 10.30 น.
ถวายภัตตาหาร ดอกไม้บูชาแด่พระบรมเกศาธาตุ
และถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 10 รูป พร้อมถวายกัปปิยภัณฑ์
รอบที่ 3 เวลา 17.00 น.
ถวายน้ำปานะ ดอกไม้บูชาแด่พระบรมเกศาธาตุ
และถวายน้ำปานะพระสงฆ์ 10 รูป พร้อมถวายกัปปิยภัณฑ์
ร่วมเป็นเจ้าภาพอัญเชิญพระบรมเกศาธาตุ และถวายเครื่องสักการะบูชาตามธรรมเนียมศรีลังกา ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ https://forms.gle/UPCbjcTLHkri2hCN6 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook : มูลนิธิธรรมดี หรือติดต่อฝ่ายเลขานุการโครงการฯ โทร 02 610 2366 , 063 526 5359