ศิลปินรุ่นใหญ่ "วินัย พันธุรักษ์" โชว์ พระเครื่อง คู่ใจ สะสมมากว่า 60 ปี
ศิลปินรุ่นใหญ่ "วินัย พันธุรักษ์" โชว์ พระเครื่อง คู่ใจ สะสมมากว่า 60 ปี
"วินัย พันธุรักษ์" แหวกอกโชว์พระเครื่องคู่ใจ ที่ใช้เวลาสะสมมานานกว่า 60 ปี เผยเมื่อ 50 ปีก่อน เคยถูกลอบยิง แต่รอดปาฏิหาริย์
ดร.วินัย บอกว่า การสะสม "พระเครื่อง" ตรงนี้แล้วแต่คนชอบ อยู่ที่ใจ สำหรับตัวเองนั้นพระเครื่องทำให้มีสมาธิ มีสติ ยิ่งมีความศรัทธา เพราะจะส่งผลให้ละเว้นการกระทำที่ไม่ดีไปหลายอย่าง ที่เห็นกันชัดก็เรื่องที่จะทำให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
“พระที่แขวนอยู่นี้ ผมไม่เคยเอาไปประกวดที่ไหน ผมมีความศรัทธา มีความเชื่อมั่น และทุกองค์ที่ผมห้อยอยู่นี้ผ่านการตรวจมวลสารอย่างดีแล้ว เดี๋ยวนี้เขามีเครื่องตรวจที่ทันสมัย เราก็จะเห็นเนื้อมวลสารต่างๆ ที่อยู่ในองค์พระ มีคนมาขอซื้อผมหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมหวง ยังไงผมก็ไม่ขาย ท่านอยู่กับเรา เราก็ดูแลท่านอย่างดี ทุกวันนี้ไม่รู้พระคุ้มครองเราหรือเราต้องคุ้มครองพระ....(หัวเราะ)”
สำหรับเรื่องพุทธคุณของ "พระเครื่อง" กับประสบการณ์เฉียดตายก็มีหลายครั้ง แต่ที่จำฝังใจ มีอยู่ 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อราว 50 ปีก่อนไปเล่นดนตรีที่บางปะอิน แล้วโดนลอบยิงแต่โชคดีรอดชีวิตมาได้
"สมัยก่อนเวทีการแสดงจะใช้ถังน้ำมัน 200 ลิตรทำเวที โดยพื้นเวทีจะเอาไม้พาด พื้นเวทีก็จะมีช่องระหว่างไม้ ดนตรีก็เล่นไป พวกวัยรุ่นเจ้าถิ่นก็มุดมาใต้เวที แอบมาดูใต้กระโปรงผู้หญิงบนเวที เจ้าภาพที่จัดงานเขาก็ไปต้มน้ำร้อนมาราดไปในรูช่องกระดาน วัยรุ่นเจ้าถิ่นก็นึกว่าพวกเราทำ เขาโกรธมาก เราก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย พอถึงเวลากลับพวกนั้นก็มาดักระหว่างทาง แล้วยิงปืนใส่ โชคดีที่ไม่โดน
ส่วนอีกครั้งหนึ่งขากลับจากเล่นดนตรี ที่จังหวัดจันทบุรี ตอนประมาณตี 1-ตี 2 คนขับรถตู้เกิดหลับในก็ไปชนกับรถขนแป้งมันที่จอดอยู่ริมถนน เหตุการณ์นี้คนขับเสียชีวิต, "เล็ก" ธานินทร์ อินทรเทพ กะโหลกร้าว ส่วนตัวผมเองไม่เป็นอะไรเลย แค่จุกนิดหน่อย ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้เชื่อว่าเป็นพระพุทธคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พกติดตัว"
สำหรับเรื่องบาปบุญนั้น ดร.วินัย ให้ความเห็นว่าต้องแยกกันเป็นส่วนๆ บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ถ้าหากเรามีโอกาสทำบุญก็ทำ ส่วนบาปกรรมใดใครก่อก็เป็นเรื่องที่ต้องชดใช้กันไป
“ผมเชื่อว่าหากเราทำดี เราให้เกียรติคนอื่น เห็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ใจเราเผื่อแผ่ มีเมตตา ไม่ทำให้ใครเดือนร้อน ไม่มีใครมาทำอะไรเราได้แน่นอน เพราะใจเราเผื่อแผ่ให้เขาอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ใครจะทำอะไรเรา นอกจะซวยแบบไม่มีเหตุผลจริงๆ ที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตสมถะ ไม่ทำความเดือนร้อนให้คนอื่น ให้ความช่วยเหลือทุกคนที่ขอร้องเข้ามา ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในวงการ ทุกคนที่อยู่รอบตัวรู้ดี ปัจจุบันผมมีครบทุกอย่าง บ้าน รถ ครอบครัว อะไรที่อยากได้มีหมดแล้ว ผมคิดดี พูดดี ทำดี แค่นี้มันก็เพียงพอสำหรับชีวิตแล้ว"
https://www.youtube.com/watch?v=umOE3cOW-sU&t=17s