ตรวจสอบโหงวเฮ้งก่อนเข้าทำงานซีพี อ.ธนานุรักษ์ จารุสกุล ซินแสคู่ใจเจ้าสัว "ธนินทร์ เจียรวนนท์"
เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง ภาพ : ชวกรณ์ สะอาดเอี่ยม
ตรวจสอบโหงวเฮ้งก่อนเข้าทำงานซีพี อ.ธนานุรักษ์ จารุสกุล ซินแสคู่ใจเจ้าสัว "ธนินทร์ เจียรวนนท์"
"ซีพีจ้างหมอดูคัดเลือกคนเข้าทำงาน" นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหนก็ตาม ต้องผ่านด้าน การวิเคราะห์โหงวเฮ้ง ชนิดที่เรียกว่า "มีความรู้ดีแต่โหงวเฮ้งไม่ดี ก็ไม่มีสิทธิย่างกราย เข้าไปทำงานในเครือบริษัทซีพี" โดยมีการ แบ่งทีมงานหมอดูออกเป็น ๒ ทีม คือ "ทีมที่วิเคราะห์ โหงวเฮ้ง ระดับผู้บริหารและทีมวิเคราะห์พนักงานทั่วไป"
"จมูกบ่งบอกถึงอุดมการณ์ บ่งบอก ถึงสุขภาพ บ่งบอกถึง ความรับผิดชอบในเรื่องราวของความรักครอบครัว ซึ่งผู้ชาย ที่จมูก มีเนื้ออยู่มากแสดงให้เห็นว่า เป็นคนรัก ครอบครัวมาก ส่วนดวงตาก็บ่งบอกได้ถึงปัญญา จิตใจ และหากใคร ที่มีดวงตา เป็นลักษณะ สามเหลี่ยม เขาว่า เป็นคนที่ไม่น่าคบ เพราะบ่งบอกตัวตนถึงความคดโกง"
นี่เป็นหลักดูโหงวเฮ้งเบื้องต้นในการพิจารณารับผู้บริหารเข้ามาทำงานในเครือบริษัท ซีพี ของ อาจารย์ธนานุรักษ์ จารุสกุล ที่ปรึกษาบริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) ซินแสคู่ใจเจ้าสัว ธนินทร์ เจียรวนนท์ แห่งเครือซีพี ซึ่งมีชื่อเป็นภาษาจีนว่า "หม่าชุนฟง แซ่เบ๊" โดยทุกครั้งที่มีการรับผู้บริหาร เข้ามาทำงาน เขาผู้นี้จะเป็นคนดูโหงวเฮ้งประกอบการพิจารณาด้วย
นอกจากเป็นที่ปรึกษาให้กับทางซีพีแล้ว อาจารย์ ธนานุรักษ์ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อีก ๙ แห่ง อาทิ เครือสหพัฒน์ เครือสยามฟู้ด เครือชัยสาคร เครือเคาน์เตอร์เซอร์วิส เครือสมาร์ทการ์ด ฯลฯ แม้ว่าจะเป็นเพียงที่ปรึกษา ด้านโหงวเฮ้ง แต่เขาก็เป็นผู้ชี้วัดชะตากรรมของบริษัทยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมด และเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่า ในแต่ละกลุ่มบริษัทนั้นอาจารย์ธนานุรักษ์รับเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ ๕๐,๐๐๐ บาทต่อ ๑ บริษัท
อาจารย์ธนานุรักษ์บอกว่า ทุกวันนี้หน้าที่หลักของตนคือ จะต้องดูโหงวเฮ้งในการรับสมัครพนักงาน ระดับนักบริหาร เพื่อให้เข้ามาทำงานในธุรกิจซีพีอย่างต่ำวันละ ๓ คน หลักเกณฑ์ของนักบริหารที่ดีนั้น คงไม่สามารถบอก ได้ชัดเจนในอย่างเดียวได้ หรือให้มองลักษณะตรงไหนเป็นหลัก ทุกอย่างจึงต้องมอง ลงไปในภาพรวมมากกว่า เช่น ความสูงของหน้าผากบ่งบอกถึงความคิดสร้างสรรค์ แนวจมูกที่ตรงเป็นแนวทางการตัดสินใจ ส่วนคิ้วมองได้ทั้งปัญญาและความรอบคอบ
หากวันไหนต้องรับสมัครเพื่อ ให้มาเป็นนักการตลาด จึงต้องเลือกคนที่มีหน้าเป็นรูปไข่ หูก็จะต้องกางออกไปเล็กน้อย คิ้วตาสดใสชัดเจน จมูกต้องตรงและหน้าผากต้องมีความสูงพอสมควร
ถ้าต้องเลือกนักบัญชี หลักก็มีอยู่ว่าต้องมีคางที่ใหญ่ ใบหน้าเนื้อต้องเต็ม แก้มไม่ตอบ โดยเฉพาะเส้นผม ต้องเล็กนุ่มละเอียด คิ้วต้องวางเรียงกันแบบเป็นระเบียบ ทั้งสองสิ่งนี้แสดง ถึงความละเอียดอ่อน ของจิตใจ ความเป็นระเบียบของการทำงาน รวมทั้งยังบ่งบอกถึงเป็น คนที่มีจิตใจดี ก่อนรับคนเข้าทำงาน แต่ละคนจะต้องมีโหงวเฮ้งเบื้องต้นผ่านให้ได้ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์เสียก่อน จึงจะรับไว้เพื่อพิจารณาในขั้นต่อไป
โหนกแก้มสองข้างต้องมีเนื้อ บ่งบอกถึงอุดมการณ์ความรับผิดชอบ จมูกต้องพอมีเนื้อ แต่ไม่ใช่จมูกลักษณะเล็กๆ แหลมๆ แบบนี้ ใช้ไม่ได้ และคนที่คางแหลมมากเกินไปก็แสดงให้เห็นว่า ความรับผิดชอบในตัวเองมีน้อยเกินไป
ส่วนผู้ชายไหล่บาง ไหล่เล็ก ภาระ ที่แบกรับบวกกับความอดทนก็จะสู้คนที่ไหล่หนาไม่ได้ และยิ่งใครหูสวย เป็นรูปทรงดียิ่งแสดงถึงความรับผิดชอบที่สูงมาก เพราะกรอบหูนอกบอกปัญญา กรอบหูในบอกถึงการปฏิบัติงาน
ทั้งนี้อาจารย์ธนานุรักษ์ได้ยกตัวอย่าง ลักษณะพิเศษของคน ที่มีลักษณะเหมือนลิง ถือเป็นคนมีโหงวเฮ้งที่ดี เช่น เจ้าสัวอุเทน เตชะไพบูลย์ ที่มีลักษณะราศีสดใส โครงสร้างชีวิตเป็นลักษณะคนโบราณ กระดูกโต กล้ามใหญ่ ซึ่งคนโหงวเฮ้งดีจะเป็นที่พึ่งของบริวารญาติพี่น้องได้ดี
อาจารย์ธนานุรักษ์บอกด้วยว่า คนเราไม่ได้อาศัยโหงวเฮ้งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องประกอบเข้ากับบุญและกรรมหนุนนำด้วย บางคนอาจเกิดมายากจน เพราะกรรมเก่าทำไว้ไม่ดี แต่ถ้ารู้จักหมั่นสร้างบุญกุศลได้มากเท่าไรในที่สุดก็จะกลายเป็นคนมีฐานะร่ำรวยเงินทองได้เช่นกัน
"โหราศาสตร์ในยุคปัจจุบันนำมาดูลักษณะ ของคนเข้าทำงาน หากไม่มีความจำเป็นอาจารย์คงตกงานไปแล้ว หรือถ้าไม่ดีจริง ซีพีคงไม่จ้าง ใครจะมองว่างมงาย มันก็ยังพิสูจน์ ไม่ได้ เมื่อยังพิสูจน์ไม่ได้มันก็เลยบอกไม่ได้ว่างมงายหรือเปล่า แต่เป็นวิชาที่มีการสืบทอดกันมาเป็นพันปี เพราะตั้งแต่เข้ามาดู ลักษณะโหงวเฮ้งนักบริหารเข้าทำงานตั้งแต่เซเว่นอีเลฟเว่น มีอยู่สามร้อยสาขา แต่ปัจจุบันมีเกือบห้าพันสาขา และถ้าศาสตร์เหล่านี้ไม่ดีจริงทำไมธุรกิจซีพีถึงได้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง" อาจารย์ธนานุรักษ์ ย้ำถึงความจำเป็นของโหราศาสตร์
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีศึกซักฟอกการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน อาจารย์ธนานุรักษ์ได้วิเคราะห์เกี่ยวกับดวง ของนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ให้ฟังว่า
ระหว่างนี้ดวงเมืองมีผลกระทบมาก เพราะเสาหลักเมืองตั้งที่ ๒๕ เมษายน ๒๓๒๕ นับเป็นเวลา ๒๒๒ ปีพอดี ทำให้ปีนี้ดวงเมืองปะทะกันอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมายภายในประเทศ ดังนั้น ตั้งแต่กลางเมษายน เรื่อยมาจนถึงต้นเดือนมิถุนายน ถือเป็นช่วงที่น่ากลัวสำหรับดวงเมืองประเทศไทย
"จากการคาดคะเนถึงความเป็นไปของผู้นำทักษิณเองก็คิดว่าจะผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้ เพราะถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ และดวงเมืองจะปะทะกันอีกครั้งระหว่างต้นเดือนสิงหาคมไปจนถึงกลางเดือนกันยายนปีนี้ ถ้าทั้งสองช่วงนี้ผ่านไปได้ โอกาสที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นนายกฯ สมัยที่สองก็มีสิทธิเป็นไปได้สูง เพราะองค์ประกอบของนายกฯ ทักษิณที่ดีที่สุดอยู่ที่ดวงตา ถือเป็นดวงตามังกรที่บ่งบอกถึงตาแห่งอำนาจและพลังแห่งปัญญา จึงมีลักษณะโหงวเฮ้งที่ดีกว่าผู้นำฝ่ายค้านนิดหน่อย และถ้ารู้วันเดือนปีเกิดของท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน อาจารย์คิดว่าจะตอบได้ดีกว่านี้" นี่เป็นบทวิเคราะห์ถึงชะตาการเมืองไทยที่อาจารย์ธนานุรักษ์ได้วิเคราะห์ไว้
สำหรับประวัติอาจารย์ธนานุรักษ์ ปัจจุบัน อายุ ๔๗ ปี โดยเริ่มต้นด้วยอาชีพเจ้าของโรงพิมพ์ที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ ปัจจุบันก็ยังมีกิจการ เกี่ยวกับการติดตั้งลิฟต์ภายในอาคารทั่วไป กระทั่งเมื่อประมาณกว่าสิบปีที่ผ่านมา ได้ไปเรียนวิชาด้านโหราศาสตร์กับอาจารย์อุดมพร แพรทอง จนมีความเชี่ยวชาญด้านนี้ จึงได้เข้ามาสู่วิชาชีพโหราศาสตร์ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พร้อมทั้งได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง ชื่อว่า "โหงวเฮ้งอมตะวิธีรู้จักผู้คน" ของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค ซึ่งได้จัดพิมพ์มาแล้วถึง ๕ ครั้ง