มูลนิธิรามาธิบดีฯ ชวนคนไทยสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่

มูลนิธิรามาธิบดีฯ ชวนคนไทยสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่

 

 

มูลนิธิรามาธิบดีฯ ชวนคนไทยสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่

เชิญเช่าบูชา “พระพุทธรูปทองคำ” วัดไตรมิตรฯ 

สมทบทุนสร้างอาคารโรงพยาบาลใหม่

 

 

ครั้งแรกของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ในการจัดสร้าง “พระพุทธรูปทองคำ” พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร พร้อมเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมหากุศลและเสริมบารมีสิริมงคลครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ด้วยการร่วมบริจาคเช่าบูชา “พระพุทธรูปทองคำ” พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร วัดไตรมิตรฯ รายได้ทั้งหมดสมทบทุนสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรมโยธี อาคารแห่งใหม่เพื่อทดแทนอาคารเดิมที่ทรุดโทรมเนื่องจากให้บริการทางการแพทย์และดูแลสุขภาพของคนไทยมามากกว่า 50 ปี

 

ในการนี้ได้จัดพิธีบวงสรวงวัตถุมงคล และทองคำแท้ที่จะนำไปหล่อสร้าง “พระพุทธรูปทองคำ”ในวันที่ 4 ธันวาคมศกนี้ ที่พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติฯ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยมี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาส วัดไตรมิตรฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมด้วย สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) พร้อมคณะสงฆ์และเกจิอาจารย์วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และวัดจากทั่วกรุงเทพฯ, พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ (ชวิน รังสิพราหมณกุล) เป็นผู้นำพิธีฝ่ายพราหมณ์ พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ, พรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดีฯ และเหล่าคณาจารย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมในพิธี 

 

ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ กล่าวว่า “ถือเป็นครั้งแรกของรามาธิบดีที่มีการจัดสร้าง ‘พระพุทธรูปทองคำ’พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร มูลนิธิรามาธิบดีฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สร้างสะพานแห่งบุญกุศลครั้งใหญ่นี้ไปยังพุทธศาสนิกชนชาวไทย อันจะช่วยสานต่อการให้ ที่มีคุณค่าทางจิตใจ   ในการได้สร้างโรงพยาบาล และนับเป็นมหาสิริมงคลอันสูงสุดในการจัดสร้างพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) ให้พุทธศาสนิกชนได้เช่าบูชา ซึ่งการระดมทุนครั้งใหญ่นี้จะนำไปสบทบทุนโครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับการรักษาผู้ป่วย พร้อมยกระดับวงการแพทย์และสาธารณสุขไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล ถือเป็นการทำบุญ ที่ได้บุญถึง 2 ต่อ”

 

ความเป็นมาของพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรเดิมมีชื่อว่า “พระสุโขทัยไตรมิตร” หล่อด้วยทองคำแท้ ปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบ ศิลปะสุโขทัย ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า “หลวงพ่อทองคำ” หรือ “พระพุทธรูปทองคำ” สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย ปัจจุบันเป็นพระพุทธรูปประธานในพระวิหาร วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นับเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และเป็นที่เคารพบูชาจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนได้รับการขนานนามว่า "Golden Buddha" โดยเชื่อว่าจะเป็นการเสริมบุญให้มีเงินทองไหลมาเทมา มีเงินมีทองใช้ตลอดปี 

 

ทั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในฐานะองค์ประธานคณะกรรมการกลางมูลนิธิรามาธิบดีฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย “ส.ธ.” ภายใต้มงกุฎขัตติยราชนารี ประดิษฐานบนผ้าทิพย์ด้านหน้าฐานของพระพุทธรูปทองคำที่จัดสร้างขึ้น โดยด้านหลังมีตราสัญลักษณ์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมปี พ.ศ. 2567 

 

อีกหนึ่งความพิเศษของการจัดสร้าง “พระพุทธรูปทองคำ” วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ คือการหล่อองค์พระด้วย “ทองคำ” หลอมรวมกับ “ยันต์พิชัยสงครามแผ่นทอง ยันต์เกราะเพชรแผ่นทอง และยันต์ 108 แผ่นทองแดง” จากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) โดยเชื่อว่าอานุภาพของยันต์ดังกล่าวจะช่วยเสริมบารมี การงาน การเงิน หนุนดวงชะตา

 

หลังจากพิธีบวงสรวงอันศักดิ์สิทธิ์นี้ มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐา   ธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์และทรงเจิมเพิ่มความสิริมงคลก่อนนำทองคำแท้และแผ่นยันต์ทั้งหมดไปหล่อองค์พระ และจัดทำพิธีพุทธาภิเษกต่อไป

 

“พระพุทธรูปทองคำ” วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดให้ประชาชนทั่วไปเช่าบูชา 5 รูปแบบ ได้แก่ 1. รูปหล่อพระบูชา ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว องค์เรซิ่น หุ้มทองคํา 99.99% น้ำหนักทองประมาณ 100 กรัม (รวมฐาน) ราคา 1,000,000 บาท/องค์ 2. รูปหล่อลอยองค์ ขนาดหน้าตัก 1 นิ้ว เนื้อทองคํา 96.5% ขัดเงาบางส่วน น้ำหนักทอง 15.2 กรัม  ราคา 200,000 บาท/องค์ 3. รูปหล่อลอยองค์ ขนาดหน้าตัก 1/2 นิ้ว เนื้อทองคํา 96.5% ขัดเงาบางส่วน น้ำหนักทองประมาณ 7.6 กรัม ราคา 100,000 บาท/องค์ 4. รูปหล่อลอยองค์ ขนาดหน้าตัก 1 นิ้ว เนื้อบรอนซ์นอก ชุบทอง ราคา 2,000 บาท/องค์ 5. รูปหล่อลอยองค์ ขนาดหน้าตัก 1/2 นิ้ว เนื้อบรอนซ์นอก ชุบทอง ราคา 1,000 บาท/องค์ โดยฐานองค์พระมีหมายเลขกำกับการผลิตทุกองค์ อีกทั้งผู้บริจาคตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป จะได้รับการจารึกชื่อที่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี และใบเสร็จรับเงินจากการร่วมบริจาคเช่าบูชาพระสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

 

ทั้งนี้จะเริ่มเปิดให้เช่าบูชาในเดือนมกราคม 2567 ที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ หรือทางออนไลน์ www.ramafoundation.or.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE @RAMAFOUNDATION หรือโทร    0 2201 1111 (ในวัน-เวลาราชการ)

 

หรือร่วมสมทบทุน “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี” เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยทุกระดับได้ที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ (โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ) ชื่อบัญชี มูลนิธิรามาธิบดีฯ • กรุงเทพ 090-3-50015-5 • กสิกรไทย 879-2-00448-3 • ไทยพาณิชย์ 026-3-05216-3 หรือบริจาคผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ทาง www.ramafoundation.or.th ติดตามข่าวสารมูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้ที่ FB • IG • LINE @RAMAFOUNDATION

 

“คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด”

 

เกี่ยวกับ โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี

ริเริ่มโดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เน้นการวางเป้าหมายเพิ่มศักยภาพและคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อให้มีมาตรฐานทางการแพทย์ให้พร้อมรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของโรคในปัจจุบันและในอนาคต เป็นอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งใหม่ สูง 25 ชั้น ขนาด 15 ไร่ 2 งาน 24 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 278,000 ตารางเมตร สามารถให้บริการผู้ป่วยนอกได้ 2.5 ล้านคนต่อปี ผู้ป่วยใน 55,000 รายต่อปี และมีแนวทางในการให้บริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุดใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การบริการรักษาพยาบาลผู้ป่วย 2.การเรียนการสอนบุคลากรการแพทย์ 3.การวิจัยโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการเตรียมก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2571 ซึ่งทางภาครัฐให้การสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่ง แต่ยังขาดงบในส่วนค่าก่อสร้างอาคารอีกประมาณ 6,000 ล้านบาท และยังขาดอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีความซับซ้อนอีกกว่า 3,000 ล้านบาท จึงทำให้เกิดการระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ