เชิญร่วมบุญใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน”
เชิญร่วมบุญใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์
โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” อายุกว่า 105 ปี
มหากุศลครั้งหนึ่งในชีวิต
7 สิงหาคม 2560 วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ - ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยและทั่วโลกร่วมบุญใหญ่ในโครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” พระพุทธสารีริกธาตุเจดีย์ ริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม สัญลักษณ์แห่งแรงศรัทธาของสองแผ่นดิน ไทย~ลาว อายุกว่า 105 ปี ด้วยการร่วมกันนำทองคำอันบริสุทธิ์สูงค่า น้อมถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่เจริญรุ่งเรือง และเป็นผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน เสาร์ที่ 26 สิงหาคมนี้ ดีเดย์นัดสาธุชนร่วมถวายทองคำที่วัดบวรนิเวศ
คุณสุรภีร์ โรจนวงศ์ ประธานอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” กล่าวว่า “พระธาตุท่าอุเทน คือ พระพุทธสารีริกธาตุเจดีย์ที่สำคัญ สัญลักษณ์แห่งการเคารพบูชาของสองแผ่นดิน ไทย~ลาว เพราะตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขงของสองฝั่งประเทศ ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม และเป็นพระธาตุประจำวันเกิด (วันศุกร์) ที่มีความสูงที่สุด และอยู่ติดริมแม่น้ำโขงที่สุด กว่า 105 ปีแล้ว ที่พระธาตุท่าอุเทน ผ่านร้อน ฝน หนาว จึงทำให้พระธาตุ เสื่อมโทรมตามกาลเวลา โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” จึงเกิดขึ้น โดยมาจากความร่วมมือของ 3 ภาคส่วน อันได้แก่ ภาครัฐ ภาคคณะสงฆ์ และภาคประชาชน ผู้มีจิตศรัทธา ตั้งมั่นในการทำนุบำรุงสืบสานพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองสืบไป”
ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานดำเนินงานโครงการ กล่าวว่า “พระธาตุท่าอุเทน” ก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2454 โดยการนำพาของ “พระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน” พระอริยสงฆ์ผู้ทรงบารมี เป็นผู้ที่คนไทยและลาว มีความเคารพศรัทธาสูงยิ่ง พระอาจารย์สีทัตถ์ได้ชักชวนพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ได้แก่ ชาวจังหวัดหนองคาย จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม ประชาชนไทย และประชาชนชาวลาว ร่วมกันก่อสร้างขึ้นไว้ใกล้แม่น้ำโขง เพื่อเป็นที่กราบสักการะของชาวไทยและชาวลาว ภายในพระธาตุเป็นที่บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ที่หลวงปู่สีทัตถ์ ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อครั้งที่ท่านถือธุดงค์กรรมฐานจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้ง พระพุทธรูปและของ มีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายไว้”
ด้วยเหตุที่องค์พระธาตุได้มีความชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา จึงได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุท่าอุเทน ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการบูรณะซ่อมแซม และทาสี โดยนอกจากตัวองค์พระธาตุแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของพระธาตุท่าอุเทนนี้ คือ ยอดฉัตรพระธาตุท่าอุเทน ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่สูงสุดของพระธาตุ ก็ได้เกิดความสึกกร่อนเช่นกัน “อันว่ายอดสูงสุดของพระธาตุ แสดงถึงความหมายของพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของคำสอนและการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา”
ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิธรรมดี, กองทุนสืบสานธรรม และวัดพระธาตุท่าอุเทนจึงได้ร่วมกันจัดตั้งโครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำนุบำรุงและรักษายอดฉัตรพระธาตุท่าอุเทน ให้คงสภาพสมบูรณ์แข็งแรง สง่างามสมพระบารมี และนับเป็นครั้งสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนชาวไทย ชาวลาว และพุทธศาสนิกชนทั่วโลก จะได้ร่วมกันนำทองคำอันเป็นธาตุบริสุทธิ์สูงค่าไปหุ้มยอดฉัตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของพระธาตุ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
“ในฐานะที่พระธาตุท่าอุเทน เป็นพระพุทธสารีริกธาตุเจดีย์ที่สำคัญของแผ่นดิน โครงการ “หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน” จึงนับว่าเป็นวาระสำคัญ และเป็นหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนในการเร่งบูรณะยอดเจดีย์อายุกว่า 105ปี โดยโครงการฯได้รับอนุมัติจากกรมศิลปากร ให้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ และได้รับเมตตาจาก สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส” ทั้งนี้กิจกรรมหลักของโครงการฯ คือ กิจกรรมรับบริจาคทองคำ โดยขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ ร่วมใจกันนำทองคำมารวมกันไว้ ณ จุดสูงสุดของยอดพระธาตุ เพื่อเป็นมหามงคลที่สุดแห่งชีวิต ทั้งนี้ หลังจากที่เริ่มดำเนินงานเพียงไม่กี่สัปดาห์ ศรัทธามหาชนได้หลั่งไหลเข้ามามากมาย ที่สำคัญเราได้รับเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ สนับสนุนโครงการฯ ได้แก่ หลวงปู่สอ ขันติโก อายุ 112 ปี วัดโพธิ์ศรี จ.นครพนม, พระราชภาวนาโกศล (อนันต์ พุทธญาโณ) เจ้าอาวาสวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี, พระครูบริหารบรมธาตุ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม, พระภาวนารัตนญาณ วิ. (ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย, พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงราย, พระครูสุตาลงกต เจ้าอาวาสวัดหนองโค้ง จ.เชียงใหม่, พระณัธสร คุณธัมโม สำนักสงฆ์สำมานะ จ.เชียงใหม่, พระเกจิอาจารย์อีกมากมาย และได้ร่วมอธิษฐานจิตบนแผ่นทองคำเพื่อหล่อยอดฉัตรทองคำนี้” ดร.ดนัย กล่าวเสริม
คุณสมาน คุณากรไพบูลย์สิริ ประธานอำนวยการกิตติมศักดิ์ กล่าวเสริมว่า “นับว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ร่วมบุญใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมใจกันนำทองคำมารวมกันไว้ ณ จุดสูงสุดของยอด พระธาตุ เพื่อเป็นมหามงคลที่สุดแห่งชีวิต โดยใน วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2560 ตั้งแต่ 14.00 น. สมเด็จพระวันรัต เมตตาเป็นประธานรับการถวายทองคำ จากสาธุชนทั่วประเทศ ณ อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร และวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2560 ตั้งแต่ 14.00 น. สมเด็จพระวันรัต จะเป็นประธานรับการถวายทองคำอีกครั้ง ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม”
นอกจากกิจกรรมถวายทองคำแล้ว เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ที่ห้ามพลาดคือ พิธีเททองหล่อทองคำยอดฉัตรพระธาตุท่าอุเทน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้น วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม 2560 เวลา 08.09 น. ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม โดยในวันเททองหล่อนี้ จะไม่สามารถนำทองคำมาหย่อนเบ้าหลอมที่หน้างานได้ จึงต้องส่งทองคำมาก่อนในงานถวายทองคำ เนื่องจากทองคำที่ใช้เททองหล่อนี้ ต้องเป็นทองคำที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วเท่านั้น และจะมีพิธียกยอดฉัตรทองคำฝังเพชร วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2560 เวลา 08.09 น. ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม โดยปัจจัยและทองคำที่ได้รับจากผู้ร่วมบุญครั้งนี้ จะนำไปซื้อทองคำและใช้เป็นค่าแรงผลิตชิ้นงานเท่านั้น พร้อมทั้งได้ประสานงานกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในการเข้ามาตรวจสอบบัญชีทั้งหมด เพื่อความโปร่งใส ของโครงการฯ
อาจารย์เสวก สงเคราะห์ ประธานกรรมการฝ่ายวิศวกรรมและศิลปกรรม กล่าวว่า “สำหรับรายละเอียดการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชรพระธาตุท่าอุเทน มีการออกแบบตามโครงเดิมเพื่ออนุรักษ์พุทธศิลป์แบบดั้งเดิม โดยมีทรวดทรงฉันทลักษณ์งดงามตามสถาปัตยกรรมไทย รวมความสูงของฉัตรคือ 4 เมตร 50 เซนติเมตร จะมีการนำทองคำไปหุ้มฉัตรทั้ง 5 ชั้น จนถึงยอดฉัตรบนสุดทรงดอกบัวที่เป็นจุดสูงสุดของพระธาตุ ใช้ทองคำทั้งหมดประมาณ 18 กิโลกรัม และฝังเพชรแท้ที่ยอดฉัตรบนสุดทรงดอกบัวประมาณ 2,049 เม็ด”
กระบวนการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร เริ่มต้นจากการรับบริจาคทองคำ 96.50% ขึ้นไป จากนั้นจะนำทองคำที่ได้มาทั้งหมด ไปตรวจสอบคุณภาพ และคัดแยกตามประเภททอง ทั้งทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ เพื่อนำมาหลอมรวมทองเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นจะส่งทองที่หลอมรวมกันเรียบร้อยแล้วนำไปรีดเป็นแผ่น เพื่อผลิตเป็นชิ้นงานฉัตรทั้ง 5 ชั้น รวมถึงยอดทรงดอกบัว จากนั้นจึงอัญเชิญขึ้นไปหุ้มยอดฉัตรเดิม
คุณสุภาพ คลี่ขจาย ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า “การร่วมบุญโครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน สามารถทำได้สองทางคือ
1) บริจาคทองคำ 96.5% ขึ้นไป ในวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2560 ตั้งแต่ 14.00 น. โดยสมเด็จพระวันรัต เมตตาเป็นประธานรับการถวายทองคำ ณ อาคาร 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร และวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2560 ตั้งแต่ 14.00 น. โดยสมเด็จพระวันรัต เป็นประธานรับการถวายทองคำอีกครั้ง ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
2) ร่วมเป็นเงินปัจจัยได้ที่ บัญชีการร่วมบุญ ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 111-430611-9 , ชื่อบัญชี เงินกองทุน สืบสานธรรม ตั้งแต่วันนี้ – 9 ตุลาคม 2560 ***ซึ่งผู้ร่วมบุญทุก 5,000 บาท คณะกรรมการโครงการ จะเขียนชื่อ นามสกุล หรือ ชื่อตระกูล (จำนวน 1 ชื่อ) ลงในแผ่นทองคำแท้ที่จะนำไปหล่อเพื่อหุ้มยอดฉัตร
เรืออากาศโท วิจักษณ์ สองจันทร์ ผู้ริเริ่มและเลขานุการโครงการ กล่าวทิ้งท้ายว่า “การหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชรพระธาตุท่าอุเทนในครั้งนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์ของยุค และเป็นมงคลสูงสุดแห่งชีวิต สิ่งที่ได้กระทำนี้ จะอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาไปตราบนานเท่านาน อานิสงส์ผลบุญที่เกิดขึ้นย่อมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่แด่พระพุทธศาสนา แผ่นดินไทย และผู้ที่ได้ร่วมบุญกุศล อนึ่งในพระไตรปิฎกได้กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าปทุมุตระได้ตรัสถึงผลแห่งการถวายฉัตรเป็นพุทธบูชาด้วยใจอันบริสุทธิ์ว่า
“...ผู้ใดถวายฉัตรอันประดับแล้วเป็นที่รื่นรมย์ใจนี้...”
“...ด้วยความเลื่อมใสแห่งจิตนั้น ผู้นั้นจะไม่ไปสู่ทุคติเลย...”
“...จักได้เสวยเทวรัชสมบัติในเทวดา 3 ครั้ง...”
“...จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 32 ครั้งในแสนกัลป์...”
“...ผู้นั้นจักเป็นโอรสผู้รับมรดกในธรรมของพระศาสดาพระองค์นั้น..”
“...กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะนิพพาน...”
ร่วมบุญหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร 098-945-4265 หรือ 086-982-2915086-982-2915
Official Line @dfoundation
มูลนิธิธรรมดี
สุรีรัตน์ ปานพรม
โทร. 02-610-236702-610-2367/085-058-9777085-058-9777
ศรัญญา พึ่งนุช
โทร.02-610-234702-610-2347/081-687-5633081-687-5633
ณฤทัย เจียกใจ
โทร. 02-610-237702-610-2377/085-946-9664085-946-9664