วัดในเมืองน่าน
วัดในเมืองน่าน
เช้านี้คณะผู้ร่วมเดินทางตามรอยวัดต่างๆทางภาคเหนือมาแล้ววันนี้ก็จะพามาขึ้นชมวิวอีกแห่งในเมืองน่านแต่วันนี้อากาศขมุกขมัวมากเพราะเมื่อคืนฝนตกตลอดเรื่อยมาจนถึงเช้าแต่โชคดีตอนขึ้นเขามาฟ้าเปิดแต่ก็ยังหลงเหลือน้ำฝนนิดๆหน่อยๆ วัดพระธาตเขาน้อยนี้เป็นที่สูงมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองน่านได้อย่างสวยงามมานาที่นี้วิวัฒนาการการถ่ายรูปได้พัฒนาไปเยอะเราเลยถ่ายมุมสูงจากกล้องโดรนเลยได้มุมสูงมาฝาก...
ทางขึ้นมาชมความงามของวัดมีสองทางคือทางรถยนต์และทางเดินบันไดพญานาคมี303ขั้นหน้าฝนตกเวลาเดินต้องระหมัดระวังอย่างมากเนื่องจากลื่นวัดนี้เป็นวัดเป็นวัดสำคัญถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่านมายาวนาน องค์พระธาติมีอายุไม่ต่ำกว่า 500ปี บริเวณองค์พระประธานพรเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นสัญลักษณของเมืองน่านเลยที่เดียว
จากนั้นเราลงเขาไปชมความสวยงามของวัดศรีพันต้นวัดนี้ตอนกลางคืนจะอร่ามเรืองรองมากเหมือนโบสถ์ทองคำหลังใหญ่กลางเมืองเลยทีเดียวใครได้ผ่านมาก็จะชื่นชมไม่ขาดวัดนี้ สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่าน ระหว่าง พ.ศ. 1960 - 1969 ) ชื่อวัดตรงกับนามผู้สร้าง คือพญาพันต้น บางสมัยเรียกว่า วัดสลีพันต้น (คำว่า สลี หมายถึง ต้นโพธิ์) ซึ่งในอดีตมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่ด้านทิศเหนือและทิศใต้ของวัด ปัจจุบันถูกโค่นเพื่อตัดเป็นถนนแล้ว วัดศรีพันต้นได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2505
ภายในวัดมีวิหารที่สวยงาม ตั้งเด่นเป็นสง่ามีสีทองระยิบระยับ เป็นอีกวัดหนึ่งในจังหวัดน่านที่มีจิตรกรรมปูนปั้นที่สวยงามโดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศียร เฝ้าบันได หน้าวิหารวัด สีทองเหลืองอร่ามสวยงามตระการตา มีความสวยงามมาก ดูอ่อนโยนมีชีวิตชีวา ซึ่งปั้นแต่งโดยช่าง ชาวน่านชื่อ นายอนุรักษ์ สมศักดิ์ หรือ "สล่ารง" และภายในวิหารได้มีการเขียนภาพลายเส้นประวัติของพระพุทธเจ้า และประวัติ การกำเนิด เมืองน่าน โดยช่างชาวน่าน เป็นภาพ เขียนลายเส้นลงสีธรรมชาติสวยงามและทรงคุณค่าอย่างยิ่ง
หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าต่อไปวัดหนองบัววัดที่มีประวัติอันงดงามอีกแห่งของเมืองน่านวัดนี้อยู่ที่ อ.ท่าวังผาอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านไทยลื้ออันสงบร่มเย็น จากคำบอกเล่าไว้เดิมวัดหนองบัวตั้งอยู่ที่ริมหนองบัว (หนองน้ำประจำหมู่บ้าน) ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งวัดปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 500 เมตร ปัจจุบันไม่มีซากโบราณสถานเหลืออยู่เลย ต่อมาได้มีการย้ายวัดมาที่ปัจจุบันนี้ วัดหนองบัวสันนิษฐานว่า สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2405 โดยการนำของครูบาหลวงสุนันต๊ะร่วมกับชาวบ้านหนองบัวสร้างขึ้น จึงทำให้วิหารหนองบัวแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมไทยล้านนาที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งหาดูได้ยากมากในสมัยนี้
และพระวิหารหนองบัวแห่งนี้ยังมีจิตรกรรมฝาผนังแบบโบณาณที่สวยงามอีกด้วย ตอนที่เราเข้ามาดูจิตกรรมฝาผนังนี้ส่วนมากสีก็จืดจางไปตามกาลเวลาถามเจ้าหน้าที่ก็ได้รับคำตอบว่าถ้าจะซ่อมแซมก็ต้องเป็นทางกรมศิลปกรเท่านั้น...