รวมพลังศรัทธาพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธียกยอดฉัตรทองคำฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม
รวมพลังศรัทธาพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธียกยอดฉัตรทองคำฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน จ.นครพนม
วัดพระธาตุท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มูลนิธิธรรมดี และกองทุนสืบสานธรรม จัดพิธียกยอดฉัตรทองคำฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน ซึ่งมีอายุกว่า 105 ปี และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พิธียกยอดฉัตรได้รับเมตตาจากพระพรหมเสนาบดี เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวลาวมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
พระธาตุท่าอุเทน คือ พระพุทธสารีริกธาตุเจดีย์สำคัญ สัญลักษณ์แห่งการเคารพบูชาของสองแผ่นดิน ไทย-ลาว เพราะตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขง ณ วัดพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม และเป็นพระธาตุประจำวันเกิด (วันศุกร์) ก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2454 โดยการนำพาของ “พระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน” พระอริยสงฆ์ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของคนไทยและคนลาว ภายในพระธาตุเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระอาจารย์สีทัตถ์ ได้อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า รวมทั้งพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายไว้
ดร.สุรภีร์ โรจนวงศ์ ประธานอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน กล่าวว่า “ด้วยเหตุที่องค์พระธาตุท่าอุเทน ได้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา มูลนิธิธรรมดี กองทุนสืบสานธรรม และวัดพระธาตุท่าอุเทนจึงได้ร่วมกันจัดตั้งโครงการ หุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำนุบำรุงองค์พระธาตุและรักษายอดฉัตรพระธาตุท่าอุเทนให้คงสภาพสมบูรณ์แข็งแรง สง่างามสมพระบารมี และนับเป็นครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ประชาชนชาวไทย ชาวลาว และพุทธศาสนิกชนทั่วโลก จะได้ร่วมกันนำทองคำอันเป็นธาตุบริสุทธิ์สูงค่าไปหุ้มยอดฉัตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของพระธาตุ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทั้งนี้ ยอดสูงสุดของพระธาตุ ยังสื่อความหมายถึงพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ อันเป็นการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของคำสอนและการปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย”
โครงการดังกล่าวเปิดรับบริจาคเงินและทองคำ 96.50% ขึ้นไป โดยได้นำทองคำที่ได้มาทั้งหมดไปตรวจสอบคุณภาพและคัดแยกตามประเภททอง ทั้งทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ เพื่อนำมาหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำทองที่หลอมรวมกันเรียบร้อยแล้วนำไปรีดเป็นแผ่น ผลิตเป็นชิ้นงานฉัตรทั้ง 5 ชั้น รวมถึงยอดทรงดอกบัว เพื่ออัญเชิญขึ้นไปหุ้มยอดฉัตรเดิม พิธีเททองหล่อทองคำยอดฉัตรพระธาตุท่าอุเทน จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2560 โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส อีกทั้งได้รับเกียรติจากท่านนางยอดแก้วมณี สุภานุวงศ์ รองประธานศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ (บุตรีของเจ้าสุภานุวงศ์ ประธานประเทศคนแรกแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) และหม่อมหลวงสราลี กิติยากร ร่วมในพิธี
ในส่วนของยอดฉัตรขององค์พระธาตุมีการหุ้มทองคำและฝังเพชร โดยออกแบบตามโครงเดิมเพื่ออนุรักษ์พุทธศิลป์แบบดั้งเดิมพร้อมทั้งให้มีทรวดทรงงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมไทย รวมความสูงของฉัตร 4 เมตร 50 เซนติเมตร ในการนี้ใช้ทองคำทั้งหมด 19,599 กรัม (1,286 บาท) เพชร 3,359 เม็ด น้ำหนัก 249.45 กะรัต และพลอย 399 เม็ด น้ำหนัก 369.46 กะรัต
ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานดำเนินงานโครงการ กล่าวว่า “โครงการหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชร พระธาตุท่าอุเทน ได้รับการอนุมัติจากกรมศิลปากรให้ดำเนินการอย่างเป็นทางการ และได้รับเมตตาจากสมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ที่สำคัญเราได้รับเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ สนับสนุนโครงการฯ ได้แก่ หลวงปู่สอ ขันติโก วัดโพธิ์ศรี จังหวัดนครพนม พระราชภาวนาโกศล (อนันต์ พุทธญาโณ) เจ้าอาวาสวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี พระครูบริหารบรมธาตุ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน พระภาวนารัตนญาณ วิ. (ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ จังหวัดเชียงราย พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง จังหวัดเชียงราย พระครูสุตาลงกต เจ้าอาวาสวัดหนองโค้ง จังหวัดเชียงใหม่ พระณัธสร คุณธัมโม สำนักสงฆ์สำมานะ จังหวัดเชียงใหม่ และพระเกจิอาจารย์อีกมากมาย ได้ร่วมอธิษฐานจิตบนแผ่นทองคำเพื่อหล่อยอดฉัตรทองคำนี้”
สมาน คุณากรไพบูลย์สิริ ประธานอำนวยการกิตติมศักดิ์ กล่าวเสริมว่า “การหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชรพระธาตุท่าอุเทนในครั้งนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์ของยุค และเป็นมงคลสูงสุดแห่งชีวิต สิ่งที่ได้กระทำนี้จะอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาไปตราบนานเท่านาน อานิสงส์ผลบุญที่เกิดขึ้นย่อมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่แด่พระพุทธศาสนา แผ่นดินไทย และผู้ที่ได้ร่วมบุญกุศลสืบไป”
เรืออากาศโท วิจักษณ์ สองจันทร์ ผู้ริเริ่มและเลขานุการโครงการกล่าวทิ้งท้ายว่า “การหุ้มทองคำยอดฉัตรฝังเพชรพระธาตุท่าอุเทนในครั้งนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์ของยุค และเป็นมงคลสูงสุดแห่งชีวิต สิ่งที่ได้กระทำนี้ จะอยู่คู่กับพระพุทธศาสนาไปตราบนานเท่านาน อานิสงส์ผลบุญที่เกิดขึ้นย่อมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่แด่พระพุทธศาสนา แผ่นดินไทย และผู้ที่ได้ร่วมบุญกุศล อนึ่งในพระไตรปิฎกได้กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าปทุมุตระได้ตรัสถึงผลแห่งการถวายฉัตรเป็นพุทธบูชาด้วยใจอันบริสุทธิ์ว่า
“...ผู้ใดถวายฉัตรอันประดับแล้วเป็นที่รื่นรมย์ใจนี้...”
“...ด้วยความเลื่อมใสแห่งจิตนั้น ผู้นั้นจะไม่ไปสู่ทุคติเลย...”
“...จักได้เสวยเทวรัชสมบัติในเทวดา 3 ครั้ง...”
“...จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช 32 ครั้งในแสนกัลป์...”
“...ผู้นั้นจักเป็นโอรสผู้รับมรดกในธรรมของพระศาสดาพระองค์นั้น..”
“...กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะนิพพาน...”
# # # # #
มูลนิธิธรรมดี
ศรัญญา พึ่งนุช โทร.02-610-2347/081-687-5633