"สร้างคนสร้างธรรม"

"สร้างคนสร้างธรรม"

 

"สร้างคนสร้างธรรม"
วัดบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
 
“บ่อบ่อการศึกษาเลิศล้ำบาลี 
คงคงทนเยี่ยงชะเนงนี้เขาสัตว์ 
รักรักษาไว้ดุจด้งบ่อเกลือเค็ม 
บ่อจึงเป็นแหล่งปราชญ์ต่างถิ่นเยินยอ”
 
ประวัติความเป็นมา
     
วัดบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
ตั้งเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๔๕ เดิมชื่อว่าวัดโพธิ์ศรี
ตั้งอยู่ที่บ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
เป็นถิ่นกำเนิดของบูรพาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คือ หลวงปู่ขาว  อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู
 
บ้านบ่อชะเนง
นอกจากจะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต
ถาวรเถระ) แล้ว ยังเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของ “หลวงปู่ขาว  อนาลโย”
พระกรรมฐานชื่อดังลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต วัดถ้ำกลองเพล
จังหวัดหนองบัวลำภู ด้วย
 

 


            หลวงปู่ขาว ฉายา อนาลโย
ซึ่งมีความหมายว่า ขาวบริสุทธิ์ คือ กายกับใจของท่านบริสุทธิ์
สมกับนามเดิมของท่านชื่อ “ขาว”  โคระถา  เกิดเมื่อวันที่ ๒๘  ธันวาคม  พ.ศ.
๒๔๓๑   ณ  บ้านบ่อชะเนง   ตำบลหนองแก้ว อำเภออำนาจเจริญ
จังหวัดอุบลราชธานี  ปัจจุบันจังหวัดอำนาจเจริญ แห่งนี้
 
นอกจากนี้ ยังมีพระมหาเถระผู้เป็นศาสนทายาทสืบอายุพระพุทธศาสนาบริหารการคณะสงฆ์ จำนวน ๓ รูป คือ        
        
๑.เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรมหาเถระ,ก่อบุญ ป.ธ.๙)
กรรมการมหาเถรสมาคม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๑ (ธ) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม
เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร           
 
        
๒.พระเดชพระคุณพระธรรมฐิติญาณ (สิงห์  สุทฺธจิตฺตมหาเถระ,ภาระมาตย์ ป.ธ.๗)
อดีตเจ้าคณะภาค ๑๐ (ธ) และอดีตเจ้าอาวาสวัดศรีอุบลรัตนาราม อำเภอเมือง
จังหวัดอุบลราชธานี   
 
         ๓.พระเดชพระคุณพระราชปรีชาญาณมุนี
(หลอม  มหาวิริโย,มณีวงศ์ ป.ธ.๗) เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ
เจ้าอาวาสวัดบ่อชะเนง (พระอารามหลวง) ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน
จังหวัดอำนาจเจริญ
           
ปัจจุบัน พระราชปรีชาญาณมุนี
เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนา สำหรับสมณศักดิ์ เริ่มจาก
พระครูศรีเสตุวรคณาภิรักษ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙
เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญหรือพระราชาคณะ ที่ พระสิริพัฒนาภรณ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๐
เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปรีชาญาณมุนี เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม
พ.ศ.๒๕๔๗
 
           
วัดบ่อชะเนง ดีเด่นด้านการศึกษา
 
        
วัดบ่อชะเนง เป็นสำนักศาสนศึกษาแผนกนักธรรม-บาลี
และพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา เปิดสอนแผนกนักธรรม แผนกบาลี
และแผนกสามัญศึกษา มาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๑ ถึงปัจจุบัน รวมเป็นเวลา ๔๐
กว่าปี
เป็นสนามสอบนักธรรมสนามหลวงและสอบบาลีสนามหลวง
ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นสถานที่ตั้งสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ
เป็นสถานที่ประชุมเจ้าคณะพระสังฆาธิการคณะสงฆ์จังหวัดอำนาจเจริญทุกระดับ
ชั้น เป็นศูนย์รวมข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน
ตลอดทั้งพุทธศาสนิกชนจังหวัดอำนาจเจริญ ตลอดมา
 
ทั้งนี้ วัดบ่อชะเนง
ได้รับการยกฐานะวัดราษฎร์ขึ้นเป็นพระอารามหลวงเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙
 
ชื่อเสียงและเกียรติคุณพิเศษ
         พ.ศ. ๒๕๒๘    ได้รับรางวัลสำนักศาสนศึกษาแผนกธรรม-บาลี ตัวอย่าง ระดับประเทศ  จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ      
         พ.ศ. ๒๕๓๖    ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ           
         พ.ศ. ๒๕๔๑    ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ           
         พ.ศ. ๒๕๔๖    เป็นสนามสอบบาลีสนามหลวง สำนักเรียนคณะจังหวัดอำนาจเจริญ
         พ.ศ. ๒๕๔๖    เป็นที่ตั้งสำนักงานเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ
 
พระราชปรีชาญาณมุนี (หลอม มหาวิริโย)
ชาติภูมิ
 
นาม
เดิม หลอม มณีวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน
๘ ปีวอก ณ บ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี
(ขณะนั้น) โยมบิดาชื่อ นายนันท์ มณีวงศ์ โยมมารดาชื่อ นางหม่อม มณีวงศ์
พ.ศ. ๒๕๐๐ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านบ่อชะเนง
ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี (ขณะนั้น)
 
บรรพชา
เป็น
สามเณรเมื่ออายุ ๑๔ ปี ณ บ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน
จังหวัดอุบลราชธานี (ขณะนั้น) โดยมีเจ้าอธิการเคน โชติปญฺโญ เป็นอุปัชฌาย์
 
อุปสมบท
เมื่อ
อายุ ๒๒ ปี วันที่ ๓ เมษายน ๒๕๐๘ ณ วัดบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว
อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี (ขณะนั้น) โดยมี เจ้าอธิการเคน โชติปญฺโญ
เป็นอุปัชฌาย์ พระอธิการคำภา วิจิตฺตธมฺโม เป็นกรรมวาจารย์ พระมหาอุดม
อินฺทญาโณ เป็นอนุสาวนาจารย์ ขณะที่อุปสมบท สอบเปรียญธรรมได้ ๔ ประโยค
 
การศึกษา
พ.ศ. ๒๕๐๕ สอบนักธรรมเอกได้ ที่สำนักศาสนศึกษาวัดโนนค้อ ตำบลโพนเมืองน้อย อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี ( ขณะนั้น )
พ.ศ. ๒๕๒๔ สอบได้เปรียญธรรม ๗ ประโยค ที่สำนักศาสนศึกษาวัดบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี (ขณะนั้น)
 
หน้าที่ทางคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอุบลราชธานี (ขณะนั้น)
พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับแต่งตั้งให้รักษาการเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน
พ.ศ. ๒๕๑๖ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน ขณะนั้นอายุ ๒๙ ปี พรรษา ๘ ป.ธ. ๖
พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ประจำอำเภอหัวตะพาน
พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ
พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ
 
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ที่ พระครูศรีเสตุวรคณาภิรักษ์
พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระสิริพัฒนาภรณ์
พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปรีชาญาณมุนี
 
 
บ่อชะเนง สร้างคนสร้างธรรม
 
วัด
บ่อชะเนง เป็นศูนย์รวมการศึกษาทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ
ควบคู่กันมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บูรพชนบูรพาจารย์
ตามที่กล่าวมาแล้วเบื้องต้น 
ปัจจุบันยังยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาและขยายสาขาออกไปอีกมากมาย
เปิดเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติกัมมัฏฐาน (วัดเก่าบ่อ)
เปิดสาขาเรียนนักธรรมบาลี-ปริยัติสามัญ (วัดพระศรีเจริญ)
เป็นแบบฉบับที่ดีในการเรียนการสอนและเกื้อกูลประโยชน์ต่อสังคม เช่น
โครงการแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ซึ่งได้รับการยกย่องในระดับต้น ๆ ของประเทศ
ที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาคนและพัฒนาจิตใจควบคู่กันไป 
 
มี
ศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศทั้งที่ยังครองเพศบรรพชิต
เป็นพระนักปกครองบริหารงานคณะสงฆ์
และที่เป็นฆราวาสมีตำแหน่งหน้าที่การงานอันทรงเกียรติ
และทำธุรกิจการงานเจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด
 
 นอกจากจะเป็นศูนย์กลาง
การศึกษา ปกครอง เผยแผ่พระศาสนาและงานสาธารณูปการแล้ว 
พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชปรีชาญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ
และเจ้าอาวาสวัดบ่อชะเนง ยังเป็นศาสนทายาทที่โดดเด่น
มีเกียรติประวัติขจรกระจายไปทั่วทุกสารทิศ
จนได้รับปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขา พระพุทธศาสนา
จากมหาวิทยาลัยสงฆ์ (มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย)
 
นับได้ว่าวัดบ่อชะ
เนงและวัดสาขาต่าง ๆ ซึ่งมีศิษยานุศิษย์ประจำอยู่
ได้วางแบบอย่างที่ดีและสร้างภาวะผู้นำ
เกื้อประโยชน์ต่อพระพุทธศานาและศาสนิกชนทั่วไปอย่างหาที่เปรียบเทียบได้ยาก 
สมควรได้รับเกียรติประวัติยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง
และสนับสนุนกิจกรรมงานเผยแผ่พระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป ฯ
 
สำหรับ
สาธุชน ตลอดผู้มีจิตศรัทธา อยากส่งเสริมการศึกษาของพระสงฆ์และสามเณร
สำนักเรียนแห่งนี้  การบริจาคเพื่อการนี้อานิสงส์จะได้เข้าถึงปัญญาบารมี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.๐๘๙ ๙๔๙ ๑๘๙๑ , ๐๘๕ ๐๑๗ ๗๙๘๙ , ๐๔๕
๔๖๙ ๐๗๐ โทรสาร , ๐๔๕ ๔๖๙ ๒๗๗  
 
หรือ โอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย  สาขาไอที สแควร์ หลักสี่ ชื่อบัญชี เติมบุญ เพื่อวัดบ่อชะเนงเลขที่บัญชี 478 – 0 -30382-6