“โค้ก” แบรนด์เก่าแก่ แต่คลาสสิก สู่แรงบันดาลใจในงานศิลปะ โดย ภาคภูมิ ศิลาพันธ์

“โค้ก” แบรนด์เก่าแก่ แต่คลาสสิก สู่แรงบันดาลใจในงานศิลปะ โดย ภาคภูมิ ศิลาพันธ์

 

 

 
“โค้ก” แบรนด์เก่าแก่ แต่คลาสสิก สู่แรงบันดาลใจในงานศิลปะ โดย ภาคภูมิ ศิลาพันธ์



การเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่อยู่มานานถึง 130 ปี ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง นอกจากผลิตภัณฑ์ที่ครองใจผู้บริโภคแล้ว สิ่งที่ “โค้ก” ทำได้ดีจนเป็นแบรนด์ที่เข้าไปนั่งอยู่ในใจผู้บริโภค คือ นำเสนอมากกว่าสินค้า ด้วยการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภค.....“งานศิลปะ” ก็คือหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ศิลปินชั้นแนวหน้าของไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง ภาคภูมิ ศิลาพันธ์ ได้สร้างสรรค์ออกมา ผ่านผลิตภัณฑ์โค้ก 



บนเส้นทางศิลปะกว่า 10 ปีที่เริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ก่อนย้ายไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และสร้างชื่อเสียงอย่างโด่งดังที่นั่น ภาคภูมิมีความเชื่อ และชื่นชอบในนิยามของผลงานศิลปะแนว Neo-Dada (นีโอ ดาดา) โดยความโดดเด่นของศิลปะประเภทนี้คือการสะท้อนสังคมทุนนิยมของโลกในปัจจุบัน ซึ่งถ่ายทอดผ่านการสร้างสรรค์ผลงานลงบนสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงของที่ไม่ใช้แล้ว งานศิลปะแบบนีโอ ดาดา นี้ เปิดโอกาสให้ผู้ได้สัมผัสผลงานตีความได้หลากหลายความหมาย และเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ภาคภูมิพัฒนาผลงานของตนให้มีความเป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบัน ผลงานของเขาได้ถูกจำกัดความว่าเป็นศิลปะแนว Neo-Pop Art (นีโอ ป็อปอาร์ต)



ภาคภูมิ ศิลาพันธ์ ศิลปินชื่อดัง เปิดเผยถึงที่มาของการสร้างงานศิลปะจากของเก่าว่า “ตอนเด็กๆ ผมอาศัยอยู่ที่จังหวัดสุโขทัยกับคุณตาคุณยาย พอโตขึ้นมาก็ได้ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ด้วยความคิดถึงบ้านที่สุโขทัยเป็นอย่างมาก จึงเริ่มเก็บสะสมสิ่งของต่างๆ จากบ้านที่นู่นมาไว้ที่กรุงเทพฯ เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับบ้านเดิม โดยหนึ่งในของที่ผมนำกลับมาด้วยก็คือ ป้ายสังกะสี ลังไม้ และบรรจุภัณฑ์โค้ก เพราะเป็นอะไรที่ใกล้ตัวมาก” 



การสร้างสรรค์งานศิลปะบนป้ายหรือลังไม้โค้กไม่เพียงเป็นตัวแทนของสิ่งที่คนทั่วโลกคุ้นเคย แต่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นวินเทจในสมัยเก่า และดูทันสมัยในขณะเดียวกัน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ความร่วมสมัยของโค้กก็ยังคงอยู่เสมอ ล่าสุด เดอะโคคา-โคลา คัมปะนี ได้ร่วมกับภาคภูมิ นำงานศิลปะของเขาไปจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะของโค้กทั่วโลกอย่าง Coca-Cola Bottle Art Tour อีกด้วย 


มร. เท็ด ไรอัน ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารเฮอริเทจ กูรูด้านประวัติความเป็นมา เดอะโคคา-โคลา คัมปะนี กล่าวว่า”โค้กมีพันธกิจในการสร้างความสดชื่น สร้างความสุข แรงบันดาลใจ และการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคม เราเชื่อว่างานศิลปะไม่เพียงเกิดจากแรงบันดาลใจของผู้สร้างสรรค์ แต่ยังสร้างความสุขให้กับผู้ได้ชื่นชมอีกด้วย สำหรับผลงานของภาคภูมิ ศิลาพันธ์นั้น มีความผสมผสานระหว่างตัวตนของภาคภูมิและโค้กอย่างลงตัว เราดีใจที่ได้ร่วมจุดประกายสิ่งดีๆ ให้กับโลก”


ภาคภูมิ ศิลาพันธ์ กล่าวทิ้งท้ายถึงความรู้สึกต่อโค้กทั้งในฐานะนักสะสม ผู้บริโภค และศิลปินไว้ว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ผลงานของผมได้เดินทางกลับบ้าน ทุกครั้งที่ผมทำงาน ผมมักจะคิดเสมอว่าแบรนด์นั้นจะรับรู้หรือเปล่าว่ามีผลงานชิ้นนี้อยู่ในโลก เมื่อแบรนด์ได้รู้ และชื่นชอบ ผมรู้สึกเหมือนได้ส่งของชิ้นนั้นกลับไปยังจุดเริ่มต้นของพวกเขา เรียกได้ว่า โค้กและผมถูกจริตกัน และรู้สึกว่าโค้กคือสิ่งที่อยู่รอบตัวเราทุกคน ตั้งแต่เด็กๆ ผมมักจะชอบดื่มโค้กคู่กับน้ำแข็ง และค่อยๆ จิบทีละนิด เพื่อที่จะได้ลิ้มรสความสดชื่น ดื่มด่ำกับความรู้สึกในขณะดื่มให้ได้นานที่สุด และแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ การสัมผัสรสชาติและความรู้สึกของโค้กแบบนี้ก็ยังคงพาผมกลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้ง สำหรับผม โค้ก คือนิยามของคำว่าร่วมสมัยอย่างแท้จริง”