“เอ็นพีพี” ระเบิดศึกฟาสต์ฟู้ดหมื่นล้าน พร้อมชิงบัลลังก์ขึ้นท็อป 3

“เอ็นพีพี” ระเบิดศึกฟาสต์ฟู้ดหมื่นล้าน พร้อมชิงบัลลังก์ขึ้นท็อป 3

 

 

 

“เอ็นพีพี” ระเบิดศึกฟาสต์ฟู้ดหมื่นล้าน พร้อมชิงบัลลังก์ขึ้นท็อป 3

เผยโฉม A&W ธีมใหม่ “Retro Loft” พร้อมแคมเปญ “A&W 100% Delicious since 1919” 

ชูจุดแข็งด้วยเอกลักษณ์ของเมนู และคุณภาพของวัตถุดิบแบบ 100%

พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจและแลนด์ลอร์ดต่างๆ ขยาย 100 สาขา

ลั่นปี 60 ฟันรายได้พุ่งพรวด

 

 

            “เอ็นพีพี” ระเบิดสงครามฟาสต์ฟู้ดหมื่นล้าน ลั่นพร้อมชิงบัลลังก์ มั่นใจขึ้นท็อปทรี (Top 3) เผยโฉมA&W Restaurants แคมเปญใหม่ A&W 100% Delicious since 1919”  เน้นจุดแข็งชูเอกลักษณ์ของเมนูที่หาทานได้ที่ A&W ที่เดียว พร้อมคุณภาพของวัตถุดิบแบบ 100% กับรูปแบบร้านโฉมใหม่สไตล์ Retro Loft ที่ดึงความสมัยใหม่แบบโปร่ง สบาย มาผสมกับกลิ่นอายแบบคลาสสิคสไตล์ A&W พร้อมจับมือพันธมิตรและเจ้าของพื้นที่ต่างๆ ร่วมดำเนินการในการขยายสาขา เร่งแผนปูพรม 50 สาขา ในปี 2560 มั่นใจ ครบ 100 สาขาใน 5 ปี สู้คู่แข่ง ชิงส่วนแบ่งค่ายยักษ์ใหญ่  “สุรพงษ์” ส่งซิกเตรียมเปิดกลยุทธ์ใหม่ ผนึกกำลังพันธมิตร หลังฮุบ “มิยาบิ และมิสเตอร์โจนส์ ออร์ฟาเนจ” ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ คุยปี 60 ฟันรายได้พุ่งพรวด

 

สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ  บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “เอ็นพีพี (NPP)” เปิดเผยว่า “ปี 2560 บริษัทจะเปิดเกมรุกธุรกิจอาหารบริการด่วน หรือ Quick Service Restaurants (QSR) โดยใช้แบรนด์ A&W (เอแอนด์ดับบลิว) แบรนด์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตามยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจเชิงรุก หลัง NPP คว้าสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ธุรกิจฟาสต์ฟู้ด A&W จาก A&W Restaurants Inc. USA แบบเอ็กซ์คลูซีฟในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทในเครือ รวมถึงสิทธิ์แฟรนไชส์ในประเทศ สปป.ลาวและเมียนมาโดยทุ่มเม็ดเงินลงทุน เตรียมความพร้อมทั้งด้านการขยายสาขา และด้านทีมงานและบุคลากรในองค์กร เพื่อผลักดันสัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 50-60% จากรายได้รวมของเครือบริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด หรือ NPP ซึ่งเป็นบริษัทแม่

 

 

 

“ทั้งนี้ บริษัทวางแผนทุ่มงบลงทุนเบื้องต้น 150 ล้านบาท เร่งขยายสาขาร้าน A&W เพิ่มอีกอย่างน้อย15 สาขา ในปี 2560 และเดินหน้าปูพรมทั่วประเทศครบ 100 แห่งภายใน 5 ปี พร้อมโค่นคู่แข่งขึ้นท็อปทรีในตลาดเซ็กเมนต์เบอร์เกอร์และไก่ทอดที่มีมูลค่ามากกว่า 27,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ภาพรวมธุรกิจอาหารฟาสต์ฟู้ดยังมีมูลค่าสูงถึง 34,000 ล้านบาท และมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อัตราเติบโตมากกว่า 10% ต่อปี 

 

 “สำหรับกลยุทธ์สำคัญในปีนี้ เอ็นพีพีฟู้ดจะเผยโฉมร้าน A&W คอนเซ็ปต์ใหม่ “A&W 100% Delicious since 1919” เน้นจุดแข็งเรื่องเอกลักษณ์ของเมนูที่โดดเด่นของ A&W และคุณภาพของวัตถุดิบแบบ 100% (100% Product Quality) โดยนำเมนูสุดคลาสสิคอย่างไก่ทอด วาฟเฟิล และรูทเบียร์ มาเป็นตัวชูโรง พร้อมทั้งสร้างสรรค์เมนูใหม่ที่สื่อถึง “คุณภาพที่เหนือกว่า” และโปรโมชั่นเอาใจผู้บริโภค พร้อมมัดใจกลุ่มเป้าหมายด้วยบรรยากาศสไตล์ Retro Loft  ที่ดึงการตกแต่งร้านแบบสมัยใหม่ โปร่ง สบาย มาผสมผสานกับกลิ่นอายแบบเฮอริเทจ (Heritage) เพื่อสื่อบรรยากาศและเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานของ A&W โดยนำเฮอริเทจ รูทเบียร์ คอร์เนอร์ (Heritage Root Beer Corner) และเพลงแจ๊ส (Jazz) มาช่วยสร้างบรรยากาศแบบฟิลกู้ด (Feel Good) ในร้าน

 

“A&W คอนเซ็ปต์ใหม่ จะเป็นกลยุทธ์หลักในการต่อสู้ทางการตลาดที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากคู่แข่งทุกค่ายล้วนเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ มีการลงทุนและใช้กลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขารูปแบบต่างๆ บุกทุกพื้นที่ที่มีศักยภาพ พื้นที่ชุมชน และในสถานีบริการน้ำมัน มีทั้งรูปแบบ
สแตนด์ อะโลน (Stand-alone) และไดร์ฟทรูที่กำลังมาแรงมาก โดย A&W ในปีนี้จะมีการทุ่มการลงทุนทั้งด้านการลงทุนขยายสาขา และด้านการตลาดกว่า 150 ล้านบาท โดยจะทำการโปรโมทในสื่อทุกแขนง โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ที่ถือว่าเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรามากที่สุด ส่วนการขยายสาขาในปี 2560

 

A&W พร้อมที่จะขยายสาขาไปทุกที่ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและเจ้าของพื้นที่ต่างๆ ทั้งสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้ มอลล์ต่างๆ ในการขยายสาขา โดยพร้อมร่วมดำเนินการกับเจ้าของพื้นที่ต่างๆ ที่สนใจใน A&W โดยปัจจุบันเราได้รับการติดต่อจากหลายที่เป็นอย่างมาก” สุรพงษ์กล่าว

ส่วนอีก 2 แบรนด์ล่าสุดที่เข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของเอ็นพีพี ฟู้ด
อินคอร์ปอเรชั่น ทั้งในแง่ความหลากหลายและตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคนั้น ล่าสุด แบรนด์
“มิยาบิ” (Miyabi) ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่มีจำนวน 5 สาขา จะมีการปรับรูปแบบร้านใหม่
ทั้งรูปโฉมร้าน เมนูอาหาร กลุ่มสินค้าและบริการที่มากกว่าร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างทั่วไป โดยจะมีการปรับเมนูเป็นทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และอะ ลา คาร์ท (A la carte) และการนำวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลกมาเสิร์ฟคู่กับซอสที่เป็นเอกลักษณ์ของมิยาบิ นอกจากนี้ “มิยาบิ” ยังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ เปิดตัว “มิยาบิ เบนโตะ” อาหารญี่ปุ่นกล่องแบบชิลด์ฟู้ด (Chilled Food) คุณภาพดีในรูปลักษณ์ข้าวกล่องสไตล์ญี่ปุ่นแท้ พร้อมผนึกพันธมิตร ซุปเปอร์มาร์เก็ต "SPAR" (สพาร์) ของ “บางจาก” และ “Gourmet Market” (กูร์เมต์ มาร์เก็ต) ของ “เดอะมอลล์”

 

ขณะที่ มิสเตอร์โจนส์ ออร์ฟาเนจ (Mr. Jones' Orphanage) ร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มสไตล์ใหม่เก๋ไก๋ในบรรยากาศสวนสนุก ซึ่งบริษัทซื้อหุ้นของบริษัท มิสเตอร์โจนส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MJO)  ทั้งหมด 100% มูลค่ารวม27 ล้านบาท มีจำนวนสาขาในประเทศไทย 4 แห่ง ได้แก่ สยามเซ็นเตอร์, เซ็นทรัลเวิลด์, เทอร์มินอล 21 และเมกาบางนา และวางแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมในปี 2560 โดยจะยังคงชูจุดแข็งด้านไลฟ์สไตล์ และเมนูขนม และเครื่องดื่มที่ต่างจากร้านเบเกอรี่ของคู่แข่ง พร้อมปรับหน้าตาเมนูให้มีความสวยงามตรงใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

 

สุรพงษ์ เผยเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของปี 2559 ที่ผ่านมา เรามีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก โดย A&W Thailand ถือว่ามีการเติบโตในส่วนของยอดขาย และการเปิดสาขาใหม่มากที่สุดใน A&W ทั่วโลก ซึ่งทาง A&W Restaurants Inc. USA ก็ชื่นชมเราเป็นอย่างมาก โดยในภาพรวมของแฟรนไชซีของแบรนด์ A&W ทั่วโลก A&W Thailand ถือว่ามียอดขาย และจำนวนสาขาใหญ่เป็นอันดับที่ 2

 

นอกจากนี้ช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากวางระบบต่างๆ และเพิ่มร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ บริษัทจะเดินหน้ารุกตลาดชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะการเร่งผุดสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพ การจับมือกับพันธมิตรทุกรูปแบบ ทั้งกลุ่มเจ้าของพื้นที่ที่มีแนวคิดตรงกันและกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างกลยุทธ์ร่วมกัน อย่างล่าสุดเจรจาจะจับมือกับกลุ่มบางจากเพื่อขยายสาขาในสถานีบริการน้ำมัน ต้องถือว่า ปีนี้จะเป็นปีที่สร้างความตื่นเต้นในตลาดและเร่งขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว

 

“ด้านแผนขยายสาขาร้าน A&W ไปยังประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV (Cambodia-Laos-
Myanmar-Vietnam) ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม จะมีทั้งรูปแบบร้านในห้างสรรพสินค้า และรูปแบบสแตนด์ อะโลน (Stand-alone) อย่างน้อย 3-4 สาขา ในหัวเมืองหลัก เช่น ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เวียงจันทน์ หลวงพระบาง พนมเปญ และเสียมเรียบ โดยคาดว่าจะเริ่มสาขาแรกในประเทศเมียนมา เนื่องจากเมียนมามีศักยภาพการเติบโตสูง ประชากรจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่และ
มีกำลังซื้อสูง ซึ่งบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกามีนโยบายต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง เพื่อปลุกแบรนด์ A&W ในตลาดอาเซียน

 

โดยปี 2559 กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของ NPP สามารถทำรายได้รวม 540 ล้านบาท และคาดว่าปี 2560 จะมีรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” สุรพงษ์กล่าวทิ้งท้าย

 

ด้าน บุรินทร์ วงศ์รัตนานุกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึงแผนขยายสาขาว่า “A&W สาขาใหม่ หลักๆ จะมี 2 รูปแบบ ได้แก่ 1. A&W แบบสแตนด์ อะโลน (Stand-alone) ขนาด 80-150 ตร.ม.เน้นทำเลในคอมมูนิตี้ มอลล์ และสถานีบริการน้ำมันต่างๆ และ 2. A&W แบบคีออสก์ (Kiosk) ขนาด 30-40 ตร.ม. เน้นพื้นที่ในสถานีบริการน้ำมัน  โดยสาขาใหม่จะเน้นรูปแบบตามคอนเซ็ปต์ A&W 100% Delicious since 1919”  รวมทั้งปรับโฉมสาขาเดิมตามคอนเซ็ปต์ใหม่ด้วย”

 

“การสร้างร้านธีมใหม่ถือเป็นอาวุธสำคัญ เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ นอกเหนือจากกลุ่มลูกค้าที่รู้จักและชื่นชอบรสชาติอาหารของ A&W อยู่แล้ว โดยเฉพาะรูทเบียร์ เครื่องดื่มเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะที่ A&W ที่เดียว  กลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นเป้าหมายของแบรนด์คือ กลุ่มนักศึกษา และคนทำงาน ชาย-หญิง อายุ 20-40 ปี  กลุ่ม First Jobber และกลุ่มครอบครัว โดยจะนำเสนอทั้งเมนูคลาสสิคของ A&W อย่างไก่ทอด รูทเบียร์ และวาฟเฟิล มาผสมผสานกับเมนูไฮไลต์ใหม่ๆ ที่อยู่ในกระแสหรือเทรนด์ในปัจจุบันอย่าง ชิคเค่น วาฟเฟิล (Chicken Waffle) และป็อบคอร์น คาราเมล วาฟเฟิล (Popcorn Caramel Waffle) นอกจากนี้เราจะเน้นทำโปรโมชั่นการขายอย่างสม่ำเสมอ ในรูปแบบคอมโบเซ็ต (Combo Set) และอะ ลา คาร์ท (A la carte) ให้เลือกอย่างหลากหลาย เหมาะกับลูกค้าทุกวัย ทุกกลุ่ม” บุรินทร์กล่าวทิ้งท้าย

 

นอกจากนี้ การที่เครือ NPP ซื้อธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ The Brio Mall เมื่อปีที่ผ่านมา ยังเป็นอีกทำเลศักยภาพอีกแห่งหนึ่งในการขยายสาขาร้านอาหารทั้ง 3 แบรนด์ คือ A&W, Miyabi และ Mr.Jones' Orphanage เนื่องจากศูนย์การค้าดังกล่าวตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพย่านพุทธมณฑลสาย 4 กลุ่มเป้าหมายค่อนข้างมีกำลังซื้อ กลุ่มชนชั้นกลาง นักศึกษา และเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งเดียวในย่านนี้ที่เปิดให้บริการ24 ชั่วโมง   เตรียมพบและตื่นเต้นกับ  A&W Restaurants คอนเซ็ปต์ใหม่ A&W 100% Delicious since 1919” เร็วๆ นี้

 

บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2530 เพื่อประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทอ่อนตัว (Flexible Packaging) เพื่อใช้สำหรับบรรจุสินค้าอุปโภคและบริโภคประเภทต่างๆ ต่อมาเพิ่มสายการผลิตขวดพีอีที (PET) (PET : Polyethylene Terephthalate Bottle) สำหรับบรรจุน้ำดื่ม และน้ำมันพืชและได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2536 ปัจจุบัน มีบริษัทในเครือรวม 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท พร้อมแพค จำกัด ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติก ถาดบรรจุอาหาร, บริษัท ไทยเฟลคซิเบิล แพค จำกัด ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน, บริษัท นิปปอน ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรุปแช่แข็ง, บริษัท นิปปอน แพ็ค เทรดดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจติดตั้งสื่อโฆษณา และบริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร และเครื่องดื่ม

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

บริษัท พับบลิค ฮิต จำกัด โทร. 02 252 5699 แฟ็กซ์ 02 252 5698 อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

นันทวัน อรุณนิมิตกุล 086 326 6602, วศินี อ่องจริต 086 559 9198, กัณฑิมา วรรณรัตน์  087 337 7788