ลอรีอัลผสานองค์ความรู้ด้านชีววิทยาเชิงกล ก้าวล้ำนวัตกรรมแห่งการชะลอวัย
ลอรีอัลผสานองค์ความรู้ด้านชีววิทยาเชิงกล ก้าวล้ำนวัตกรรมแห่งการชะลอวัย
ด้วยการพัฒนาอุปกรณ์นวดคุณสมบัติพิเศษ
กรุงเทพฯ, 11 เมษายน 2560 – ภายหลังจากการศึกษาวิจัยอย่างยาวนานกว่า 9 ปี ร่วมกับสถาบันชีววิทยาเชิงกล (Mechanobiology Institute - MBI), สถาบันชีววิทยาทางการแพทย์ (Institute of Medical Biology - IMB) แห่งสิงคโปร์, สถาบันแลงเจอแวง (Institut Langevin) และ มหาวิทยาลัยเดอนิส์ ดิเดอโรต์ (Denis Diderot University) แห่งกรุงปารีส ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัลได้พัฒนาอุปกรณ์ดูแลผิวชนิดแรกที่คิดค้นขึ้นจากองค์ความรู้ด้านชีววิทยาเชิงกล (mechanobiology) ด้วยอุปกรณ์นวดชนิดพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ที่ให้ผลลัพธ์ด้านการชะลอความร่วงโรยของผิวในบริเวณริ้วรอย กรอบหน้า ริมฝีปาก และลำคอ
ชีววิทยาเชิงกล (mechanobiology) คือ การใช้เนื้อเยื่อชีวภาพเป็นเป้าหมายของตัวกระตุ้นเชิงกล (การสั่นสะเทือน การยืดเหยียด) และสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของเนื้อเยื่อเหล่านั้น นับเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัลสามารถนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในด้านนี้มาประยุกต์ใช้ในการดูแลผิว โดยการพัฒนาอุปกรณ์นวดหน้าที่สามารถชะลอสัญญาณแห่งความร่วงโรยของผิวได้
ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัลร่วมกับสถาบันชีววิทยาเชิงกลแห่งสิงคโปร์พัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของตัวกระตุ้นเชิงกลต่อเซลล์ผิวหนัง และศึกษาความเป็นไปได้ของการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในอุปกรณ์เสริมความงาม หลังการศึกษาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัลค้นพบว่าแรงสั่นสะเทือนสามารถปรับคุณสมบัติที่สำคัญของเนื้อเยื่อได้สองประการ คือ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บริเวณส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างผิวชั้นหนังกำพร้าและผิวชั้นหนังแท้ (dermal-epidermal junction) และกระตุ้นการผลิตสารเคลือบเซลล์ (extracellular matrix) การศึกษาพบว่าแรงสั่นสะเทือนที่ให้ผลลัพธ์สูงสุดอยู่ในระดับความถี่ที่ 75 Hz หรือจำนวนความถี่ของการนวดสูงสุด 9,000 ครั้งต่อนาที
นอกจากนี้ นักวิจัยของลอรีอัลยังร่วมกับสถาบันแลงเจอแวง นำเทคนิคการประมวลภาพขั้นสูงมาใช้ประโยชน์ในการศึกษาการเคลื่อนตัวของคลื่นสั่นสะเทือน ทั้งการทดสอบภายนอกร่างกาย (ex vivo) และการทดสอบภายในร่างกาย (in vivo) เพื่อผลลัพธ์สูงสุดของผลิตภัณฑ์ ท้ายที่สุดทีมงานฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัลในสหรัฐอเมริกาได้ออกแบบอุปกรณ์นวดสามหัวขึ้นเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อันทรงประสิทธิภาพสูงสุดในการกระตุ้นผิว ซึ่งผลการทดสอบทางคลินิกยืนยันแล้วว่าสามารถบรรเทาสัญญาณแห่งความร่วงโรยต่างๆ ของผิวได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความยืดหยุ่นและความแน่นกระชับของผิวบริเวณกรอบหน้า จึงได้นำผลการศึกษาดังกล่าวมารวบรวมตีพิมพ์ไว้ในวารสาร PlosOne* เมื่อปี 2560
“นับเป็นครั้งแรกที่ผลการวิจัยมีข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนว่าตัวกระตุ้นเชิงกลสามารถส่งผลกระทบต่อลักษณะทางชีวภาพโดยรวมของผิว อีกทั้งยังยืนยันว่าผลลัพธ์ดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับความต่อเนื่องของการกระตุ้นผิวเป็นสำคัญ ตลอดระยะเวลากว่าห้าปีที่ผ่านมานับเป็นช่วงเวลาแห่งความร่วมมืออย่างจริงจังระหว่างทีมงานลอรีอัลทั่วโลกที่มุ่งมั่นพัฒนาอุปกรณ์เสริมความงามจากแรงบันดาลใจด้านการศึกษาชีววิทยาเชิงกลอย่างแท้จริง”นางเอลิซา กาแบร์ล็อตโต ผู้จัดการโครงการอุปกรณ์ความงาม ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมกล่าว
“ศาสตร์แห่งชีววิทยาเชิงกลเป็นส่วนสำคัญที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่พวกเราในการพัฒนานวัตกรรมที่ ล้ำหน้าในอุตสาหกรรมความงาม ซึ่งสานฝันผลลัพธ์ด้านการลดริ้วรอยและชะลอความหย่อนคล้อยบนใบหน้าด้วยกระบวนการที่อ่อนโยนต่อผิว” ฌาค เลอแคลร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์แห่งลอรีอัลกล่าว
คลาริโซนิค (Clarisonic) แบรนด์ผู้นำด้านอุปกรณ์ดูแลผิวด้วยคลื่นโซนิค จะเปิดตัว สมาร์ต โปรไฟล์ อัพลิฟต์ (Smart Profile Uplift)ผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีสร้างสรรค์ใหม่จากศาสตร์ด้านชีววิทยาเชิงกล ในยุโรปและเอเชียในระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายนนี้ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้วางจำหน่ายในแคนาดาและสหรัฐอเมริกาแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560
*ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร PlosOne http://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0172624
เกี่ยวกับลอรีอัล กรุ๊ป
ลอรีอัลทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 100 ปี โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ความงามระดับโลกที่หลากหลายและเกื้อหนุนกัน 34 แบรนด์ ในปี 2016 ลอรีอัลกรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 25.8 พันล้านยูโรและมีพนักงานทั้งสิ้น 89,300 คนทั่วโลก ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ลอรีอัลมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงตลาดมวลชน ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าในสนามบิน ร้านค้าปลีก และ อี-คอมเมิร์ส ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานวิจัยกว่า 3,870 คน ที่มุ่งตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก นอกจากนี้ ลอรีอัลมีพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับปี 2020 “Sharing Beauty with All” หรือ “แบ่งปันความงดงามให้ทุกสรรพสิ่ง” เป็นแนวทางกำหนดเป้าหมายเพื่อการพัฒนาด้านความยั่งยืนในทุกภาคส่วนของลอรีอัลกรุ๊ป www.loreal.com
เกี่ยวกับลอรีอัล ประเทศไทย
ลอรีอัล ประเทศไทย คือบริษัทความงามที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด ปัจจุบันนำเข้าและจัดจำหน่าย 21 แบรนด์ความงามชั้นนำของโลก โดยแบ่งออกเป็น 4 แผนก ได้แก่
- แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค ได้แก่ ลอรีอัล ปารีส การ์นิเย่ เมย์เบลลีน นิวยอร์ก และ นิกซ์ โปรเฟสชั่นแนล เมคอัพ
- แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง ได้แก่ ลังโคม ไบโอเธิร์ม จิออร์จิโอ อาร์มานี่ ราล์ฟ ลอเรน คาชาเรล กี ลาโรชย์ คีลส์ ชู อูเอมูระ วิคเตอร์ แอนด์ รอล์ฟ ดีเซล อีฟส์ แซงต์ โลร็องต์ คลาริโซนิค และ เออเบิน ดีเคย์
- แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ ได้แก่ ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล และ เคเรสตาส
- แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ได้แก่ ลา โรช-โพเซย์ และ วิชี่
ข้อมูลเกี่ยวกับชีววิทยาเชิงกล: เซลล์ตอบสนองต่อพลังเชิงกลอย่างไร
ตามความหมายของชื่อ ชีววิทยาเชิงกล คือการนำเซลล์ชีวภาพมาอยู่ภายใต้ความกดดัน เช่น ความเค้นเชิงกลเพื่อสังเกตพฤติกรรมของเซลล์เหล่านั้น ความเค้นดังกล่าวอาจหมายถึงแรงกด บิด หรือ ดึง ศาสตร์ด้านชีววิทยาสาขานี้้ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อและเซลล์ชีวภาพที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากพลังทางกายภาพซึ่งสามารถพัฒนาหรือส่งผลกระทบต่อลักษณะทางกายภาพ หรือทำให้เซลล์เกิดอาการบาดจ็บ ซึ่งยังคงมีข้อจำกัดด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับกลไกที่สำคัญบางประการ เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างตัวกระตุ้นทางกายภาพและการตอบสนองทางโมเลกุล
อย่างไรก็ดี ในช่วงระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา การศึกษาในสาขาวิชาดังกล่าวมีความก้าวหน้าไปมาก และได้นำมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง วิศวกรรมเนื้อเยื่อ การพัฒนาตัวอ่อน และการรักษาบาดแผล การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของการนวดต่ออุณหภูมิในร่างกาย ระบบการไหลเวียนโลหิต ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและระบบประสาทดำเนินไปอย่างกว้างขวาง ในขณะที่การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการนวดที่มีต่อโครงสร้างทางชีววิทยาของผิวหนังยังมีขอบเขตจำกัด และไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับความร่วงโรยของผิวแต่อย่างใด
ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัลจึงมุ่งมั่นค้นคว้าวิจัยในประเด็นดังกล่าวอย่างจริงจัง บนสมมติฐานว่าเซลล์มีความอ่อนไหวต่อพลังและมีความสามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาณเชิงกลไปสู่ การตอบสนองทางเคมีชีวภาพ (mechanotransduction) อย่างไรก็ตาม เซลล์ต่างๆ ล้วนมีกลไกการตอบสนองต่อพลังเชิงกลที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทและสภาพแวดล้อมของเซลล์ รวมไปถึงการร่วงโรยของเนื้อเยื่อ ฯลฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุกลไกเหล่านั้นได้ทั้งหมด
ชีววิทยาเชิงกลของผิวหนัง
สัญญาณแห่งความร่วงโรยที่เรารู้จักกันดีมีความเกี่ยวเนื่องกับองค์ประกอบของผิวหนัง ทั้งผิวชั้นหนังกำพร้า (epidermis) ผิวชั้นหนังแท้ (dermis) และผิวชั้นไขมัน (hypodermis) ความร่วงโรยของผิวเป็นกระบวนการทางชีววิทยาที่ซับซ้อนอันเกิดจากปัจจัยภายในและภายนอกต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักส่งผลกระทบต่อการผลิตโปรตีนในสารเคลือบเซลล์ (extracellular matrix) ทำให้เกิดการทำลายเครือข่ายของอิลาสตินไฟเบอร์ในบริเวณส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างผิวชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ (dermal-epidermal junction - DEJ)
ไฟเบอร์เหล่านั้นสร้างความยืดหยุ่นให้แก่เนื้อเยื่อผิว และทำให้เนื้อเยื่อดังกล่าวสามารถปรับสมดุลการผลิตและการแบ่งตัวของเซลล์ได้ ในวัยผู้ใหญ่ (20 ปี) อิลาสติกไฟเบอร์จะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงอย่างต่อเนื่องจนไม่สมดุลกับจำนวนไฟเบอร์ที่สร้างขึ้นใหม่
แน่นอนว่าสัญญาณแห่งความร่วงโรยที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือริ้วรอยบนผิวหนัง แต่ยังมีสัญญาณแห่งความร่วงโรยอื่นๆ จากการเปลี่ยนแปลงทางคลินิกและพฤติกรรมต่างๆ ด้วยเช่นกัน
องค์ความรู้ในเรื่องนี้ส่งเสริมให้นักวิจัยของลอรีอัลมุ่งมั่นพัฒนาอุปกรณ์การนวด เพื่อใช้ในกิจวัตรการบำรุงผิวของผู้บริโภค ทั้งการใช้งานเพียงอย่างเดียวหรือใช้งานร่วมกับครีมบำรุง ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับผลกระทบทางชีวภาพของตัวกระตุ้นเชิงกลที่มีต่อผิวและข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถทำให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้นได้จริง จึงได้ดำเนินการทดสอบในสองขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนแรก คือ การทดสอบภายนอกร่างกาย (ex vivo) เช่น บริเวณผิวหนัง เราพยายามกำหนดความถี่และประเภทของตัวกระตุ้นเชิงกลภายนอกที่สามารถส่งเสริมการสร้างโปรตีนในสารเคลือบเซลล์ และบริเวณส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างผิวชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ โดยทำการทดสอบวันละสองครั้ง ครั้งละ 1 นาที เป็นเวลา 10 วัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ บริเวณส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างผิวชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ และสารเคลือบเซลล์มีความแข็งแกร่งมากขึ้นที่ระดับความถี่ 75 Hz
ในการทดสอบดังกล่าว นักวิจัยได้พัฒนาอุปกรณ์นวดผิวต้นแบบขึ้นและประเมินผลการใช้งานเพื่อกำหนดองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด ทั้งในแง่ของความถี่ หัวนวด การเคลื่อนไหว และสรียศาสตร์
ขั้นตอนที่สอง การทดสอบทางคลินิกแบบสุ่มภายในร่างกาย(in vivo) กับอาสาสมัครผู้หญิง 42 คนที่มี อายุระหว่าง 65-75 ปี โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม: G1 (อาสาสมัคร 22 คน ทดสอบโดยการทาครีมเพียงอย่างเดียว) และ G2 (อาสาสมัคร 20 คน ทดสอบโดยการใช้อุปกรณ์ควบคู่ไปกับการทาครีม) วันละสองครั้ง เป็นเวลา 8 สัปดาห์
การประเมินผลการทดสอบจัดทำขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญอิสระในรูปแบบข้อมูลปกปิดสองทาง โดยพิจารณาจากความร่วงโรยแห่งวัย (ริ้วรอยและผิวสัมผัส) และสภาพผิวในบริเวณต่างๆ (แก้ม รอบริมฝีปาก ลำคอ เนินอก) และสรุปผลขั้นตอนสุดท้ายจากประสิทธิภาพของอุปกรณ์และความพึงพอใจของอาสาสมัคร
คลาริโซนิกเปิดตัวสมาร์ต โปรไฟล์ อัพลิฟต์
หัวนวดดังกล่าวออกแบบและพัฒนาขึ้นอย่างเหมาะสมที่สุดโดยวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบของคลาริโซนิก อุปกรณ์นวด สมาร์ต โปรไฟล์ อัพลิฟต์ วางจำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกาแล้ว และมีกำหนดวางจำหน่ายทั่วโลกในปี 2560