ไทยวา ผนึกกำลัง ฟูจิ นิฮอน ก้าวสำคัญสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร
ไทยวา ผนึกกำลัง ฟูจิ นิฮอน ก้าวสำคัญสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร เพื่อการเติบโตในระดับโลก
กรุงเทพฯ 29 พฤศจิกายน 2567 - บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือTWPC ผู้นำด้านนวัตกรรมในธุรกิจเกษตรและอาหารระดับภูมิภาค และ ฟูจิ นิฮอน คอร์ปอเรชั่น (Fuji Nihon Corporation หรือFNC) บริษัทชั้นนำจากญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตน้ำตาลและส่วนประกอบอาหาร ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ เพื่อผนึกกำลังในอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ผ่านการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศไทย โดย TWPC ถือหุ้น 51% และ FNC ถือหุ้น 49%
ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการก้าวกระโดดเชิงกลยุทธ์ที่จะผลักดันให้ TWPC ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเกษตรและอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างมั่นคง ความร่วมมือระหว่างสององค์กรที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันจะเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ และสร้างโอกาสในตลาดที่ยังไม่เคยเข้าถึงมาก่อน รวมถึงการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่าย และการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพสูง
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การผนึกกำลัง แต่คือการสร้างอนาคตใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร เรายินดีที่จะได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง ฟูจิ นิฮอน คอร์ปอเรชั่น เพื่อยกระดับการผลิตแป้งมันสำปะหลัง และขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างมั่นคง”
นายฮิเดโตชิ โซกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟูจิ นิฮอน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับไทยวา ซึ่งเป็นบริษัทนวัตกรรมด้านเกษตรและอาหารชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเราคือ “สร้างคุณค่าให้โลกด้วยวิทยาศาสตร์อาหาร” เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะสร้างคุณค่าใหม่จากทรัพยากรชีวภาพที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์อาหารของทั้งสององค์กร"
ความร่วมมือระหว่างไทยวา และ ฟูจิ นิฮอน คอร์เปอเรชั่น สะท้อนถึงแนวคิดร่วมกันของทั้งสองบริษัทในการสร้างโซลูชั่นด้านส่วนประกอบอาหาร ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาด แต่ยังสร้างความยั่งยืนทั้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งสองบริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างระบบห่วงโซ่คุณค่าระดับโลกที่แข็งแกร่ง และเพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
จุดมุ่งหมายของความร่วมมือนี้คือการสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม ไม่เพียงเพื่อธุรกิจ แต่เพื่อสร้างคุณค่าให้ผู้บริโภค สังคม และโลกใบนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง ด้วยนวัตกรรมและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ