Moody (slowed + reverb) นิทรรศการศิลปะโดย Tars Unlimited

Moody (slowed + reverb) นิทรรศการศิลปะโดย Tars Unlimited

  

 


Moody (slowed + reverb) 
นิทรรศการศิลปะโดย Tars Unlimited ที่ชวนให้อยากรู้ อยากเห็น

และกลับมาสำรวจอารมณ์ตัวเอง

ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม นี้ ที่สยามพารากอน 

 

 
 
 
 
 
 
Tars Unlimited เเกเลอรี่สัญชาติไทย ผู้สร้างสรรค์และจัดแสดงผลงานของศิลปินไทยและนานาชาติ ร่วมกับ     สยามพารากอน จัดนิทรรศการศิลปะ Moody (slowed + reverb) คัดสรรผลงานศิลปะที่ถ่ายทอดอารมณ์ หลากหลายรูปแบบกว่า 30 ผลงาน โดย 10 ศิลปินรุ่นใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศ  ซึ่งสื่อถึงความไม่คงที่ทางอารมณ์ และความรู้สึกอันหลากหลาย ซึ่งยากจะคาดเดา  โดยเปิดให้ชมฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2568  ที่แฟชั่น
แกลเลอรี่ ชั้น 1 สยามพารากอน
 
 
 
 
 
 
 
โดยนิทรรศการ Moody (slowed + reverb) ได้คัดสรรผลงานเพื่อบอกเล่าถึงความหลากหลายของเสียงจากศิลปินผู้มีอิทธิพลและบทบาท ในการสร้างสรรค์พื้นที่ทางวัฒนธรรมของแกลเลอรี่ TARS Unlimited ให้เป็นจุดศูนย์รวมของความหลากหลายทางแนวความคิดและศิลปะร่วมสมัย นิทรรศการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เปลี่ยนผ่าน ระหว่างบันไดเลื่อน ทำให้นิทรรศการดังกล่าว กลายเป็นกระจกสะท้อนแนวทางการทำงานของเราที่ยังคงดำเนินต่อไป และหยั่งรากอยู่ภายใต้ความเชื่อมโยงของศาสตร์วิชา บริบท และห่วงเวลา
 
 
 
 
 
 
Moody (slowed + reverb) ไม่ได้จำกัดอยู่ในกรอบของประเภทของผลงานศิลปะหรือภายในช่วงอายุใดอายุหนึ่ง หากแต่เปิดรับประเภทผลงานที่หลากหลาย ซึ่งผลงานบางชิ้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อนิทรรศการครั้งนี้โดยเฉพาะ และผลงานอีกส่วน ได้รับการคัดสรรมาจากนิทรรศการ และโครงการแลกเปลี่ยนที่แสดงผลงาน ทั้งในกรุงเทพมหานคร และทวีปยุโรปมาแล้ว เมื่อผลงานทุกชิ้นนำมาจัดแสดงรวมกัน เกิดเป็นภาพทับซ้อนของความคิดสร้างสรรค์ที่ Tars Unlimited ยังคงยึดมั่นต่อไป
 
 
 
 
 
 
ชื่อ Moody’ สื่อถึงความไม่เสถียรและเปลี่ยนแปลง ในรูปทรง อารมณ์ และทิศทางการคัดเลือกผลงานของภัณฑารักษ์ที่ไม่เพียงแค่สื่อถึงความไม่คงที่ทางอารมณ์หรือความรู้สึกหลากหลายที่ปรากฏในผลงาน แต่ยังสื่อถึงความที่ยากจะคาดเดาภายในผลงานศิลปะเองอีกด้วย ในขณะที่ slowed + reverb หมายถึงการปรับเปลี่ยนของกาลเวลาที่ถูกปรับเปลี่ยนบริบทใหม่ให้เข้ากับเวลาปัจจุบัน ซึ่งเป็นการตีความ เพื่อสร้างความหมายใหม่และ                  การปฏิรูปรูปแบบ อันสะท้อนแนวทางที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ศิลป์ นี่ไม่ใช่แค่นิทรรศการจัดแสดงผลงาน แต่ยังเป็นพื้นที่การถ่ายทอดอารมณ์ สถานที่ และจุดยืนของเรา โดยเผยให้เห็นถึงวิธีที่เรากระทำ สะท้อน และเผยแพร่สู่โลกภายนอก
 
 

 

 

 

พื้นที่จัดแสดง Moody’ ชวนให้เกิดความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นและการสำรวจตนเอง

 

มุมโค้งที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเข้ามาแทนที่มุมแหลม ช่วยนำสายตาผู้ชมให้ไหลลื่นไปตามเส้นทางการชมงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง เส้นโค้งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้รูปทรงของพื้นที่ดูอ่อนโยนขึ้น แต่ยังสื่อถึงการเคลื่อนไหว การสำรวจ และ

 

 

 

 

การจัดวางผนังบางส่วนและประตูทางเข้าภายในพื้นที่ยังช่วยสร้างลักษณะคล้ายเขาวงกต เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เดินสำรวจ ค้นพบ และเชื่อมโยงบทสนทนาระหว่างผลงานกับตัวศิลปินที่ได้รับการคัดสรรมา

 

การเลือกใช้สีลาเวนเดอร์มีที่มาจากการศึกษาผลกระทบของสีที่มีต่ออารมณ์ โดยปกติแล้วสีม่วงมักเชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ ความหรูหรา และความสูงส่ง จึงปรับลดความเข้มของสีลง เลือกใช้เฉดลาเวนเดอร์ที่ให้ความรู้สึกละมุนและสงบ ซึ่งยังชวนให้นึกถึงแคว้นโพรวองซ์ในประเทศฝรั่งเศส — ดินแดนอันเป็นแรงบันดาลใจของศิลปินเอกอย่างแวนโก๊ะ เซซานน์ ปิกัสโซ และอีกมากมาย

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

 

พื้นที่แห่งนี้จึงเป็นเสมือนการคารวะต่อความสัมพันธ์ระหว่างสถานที่ อารมณ์ และศิลปะ

 

โดย 10 ศิลปินที่มาร่วมจัดแสดงผลงาน ได้แก่

Tintin Cooper / ตินติน คูเปอร์

Hadrien Gerenton / เอเดรียน เจเรนตัน

Pichaya Khunnawat / พิชยะ คุณวัฒน์

Pokchat Worasub / ปกฉัตร วรทรัพย์

Sirawit Chatu / สิรวิชญ์ จตุ

Thanawat Numcharoen / ธนวัฒน์ นุ่มเจริญ

Unchalee Anantawat / อัญชลี อนันตวัฒน์

Warot Jarusirikul / วรท จารุศิริกุล

Butsapasila Wanjing / บุษปศิลา หวานจริง

Wannapol Saenkham / วรรณพล แสนคำ

 

 

 

 

 

 

#MoodyExhibition #TarsUnlimited #SiamParagon

 

เกี่ยวกับ Tars Unlimited

TARS Unlimited ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ*เปิดเป็นเเกเลอรี่ที่เชื่อมโยงพื้นที่มากกว่าหนึ่งเเห่งเข้าด้วยกัน*โดยสร้างเเละจัดเเสดงผลงานของศิลปินนานาชาติเเละศิลปินท้องถิ่น*ทั้งศิลปินที่เป็นที่รู้จักอยู่เเล้วเเละศิลปินหน้าใหม่*การสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังเเละความคิดสร้างสรรค์ของเเกเลอรี่ที่เชื่อมโยงพื้นที่มากกว่าหนึ่งเเห่งเข้าด้วยกันเปิดโอกาสให้ TARS Unlimitedได้ผสมผสานธรรมเนียมพื้นถิ่นเเละปรากฏการณ์ทางสังคมเข้ากับขบวนการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นรอบโลกในการจัดเเสดงงานที่สร้างความยุ่งเหยิงเเละเล่นกับระเบียบเเบบเเผนซึ่งเป็นที่ยอมรับ เพื่อสร้างการเปลี่ยนเเปลงทางสังคม