“I Shell Return.” วิมานกลางเมืองของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เฉลยปริศนาทำไมมีประตูเข้า-ออก 2 ทาง
เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง ภาพ : ชวรินทร์ เผงสวัสดิ์ แต่งหน้า : บันฑิต บุญมี
“I Shell Return.”
วิมานกลางเมืองของ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
เฉลยปริศนาทำไมมีประตูเข้า-ออก 2 ทาง
ผ่านร้อนหนาวบนเส้นทางการเมืองมายาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ นักการเมืองรุ่นเก๋า สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เพิ่งมีโอกาสได้พักยาวๆ เมื่อคราวเป็นหนึ่งใน สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ในคดียุบพรรคการเมือง ตั้งแต่เมื่อ 30 พฤษภาคม 2550
แกนนำกลุ่มลำตะคอง เปิดบ้านย่านราชวิถีให้ทีมงานได้เข้าไปสัมผัสอีกตัวตนในวัน สบายภายในบ้านหลังใหญ่บรรยากาศร่มรื่น ห้อมล้อมด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณ นักการเมือง หนุ่มใหญ่เจ้าของ ฉายาพี.อาร์ 25 ชั่วโมงทักทายด้วยใบหน้าอาบยิ้ม ก่อนกระเซ้าว่า “วันนี้ไม่มีเรื่องการเมืองใช่ไหม” ตามด้วยเสียงหัวเราะเปิดเผยตามสไตล์
/// บ้านป่าในเมือง... อยู่สบาย เดินทางสะดวก
คุณพ่อลูกสองเริ่มต้นเล่าถึงที่มาของบ้านหลังงามกลางเมืองที่ช่วยประหยัดเวลาในการ เดินทางท่ามกลางการจราจรแสนติดขัดของกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี “ตอนนั้นลูกชาย(หลวง-พสุ) เรียนที่เซนต์คาเบรียล ส่วนลูกสาว (พราว- พราวพุธ) เรียนที่จิตรลดา ลูกสองคนต้องออกจากบ้าน ย่านบางแคตั้งแต่ ตี 5 เพื่อมาถึงโรงเรียน 6 โมงเช้า พอเลิกเรียนบ่ายสามครึ่ง กว่าจะรับลูกสองคน จากโรงเรียนเสร็จก็ประมาณห้าโมง เดินทางถึงบ้านก็หนึ่งทุ่มพอดี เสียเวลา อยู่ในรถ 3 ชั่วโมง ต่อวัน พอปี 2541 เลยตัดสินใจได้มาสร้างบ้านหลังนี้
“ก่อนสร้างบ้านหลังนี้ผมมานั่งคิดว่า เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงที่เสียไปแต่ละวัน ถ้า 1 ปี ก็เป็นพันกว่าชั่วโมงที่ลูกต้องอยู่กับการเดินทาง ปีๆ หนึ่งทำให้เวลาหายไปเป็นพันชั่วโมงต่อปี ถ้าอยู่แบบนี้อีก 10 ปีก็เป็นหมื่นชั่วโมง เวลาหมื่นชั่วโมงเท่ากับชีวิตคนอีกคนได้เลยนะ เสียดาย เวลาที่เสียไปเผื่อจะทำประโยชน์ในชีวิตได้อีกเยอะ” เขาไล่เรียงชีวิตบนท้องถนนอันแสนหน่าย ซึ่งกลายเป็นเหตุผลของการเลือกสร้างบ้านย่านราชวิถี บนพื้นที่กว่า 600 ตารางวา
ในช่วงนั้นเขารับตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคชาติพัฒนาซึ่งมีพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัน เป็นหัวหน้าพรรคและพำนักอยู่บ้านซอยราชครู ในฐานะเลขาธิการพรรคเมื่อหัวหน้าพรรคตามตัว ก็ ต้องรีบบึ่งมาให้เร็วที่สุด ทว่ากว่าจะเดินทางจากบางแคมาถึงต้องใช้เวลาเดินทางถึงสองชั่วโมง ครึ่ง พล.อ.ชาติชาย จึงให้ข้อคิดว่า “การเมืองนี้ 1 นาทีก็ต้องตัดสินใจ โอ้โฮ…คุณอยู่ไกลเหลือเกิน กว่าจะได้เจอกันทีก็ชั่วโมงครึ่ง ท่านก็บอกว่ามาอยู่ใกล้ๆ กันซิ” อดีตลูกพรรคชาติพัฒนาบอก อีกเหตุผลของการตัดสินใจที่อย่างน้อยก็สะดวกในการเดินทางไปทำเนียบหรือรัฐสภา
“ช่วงที่ตัดสินใจสร้างบ้านใหม่ผมอาศัยความที่เคยเป็นรัฐมนตรีคมนาคม ที่ชอบศึกษา เส้นทางว่าตรงไหนดีที่สุดในกรุงเทพฯ ผมก็มานั่งคิดหลายๆเหตุผล 1 ต้องอยู่ใกล้บ้านน้าชาติ สองลูกเรียนอยู่ที่เซนต์คาเบรียล กับจิตรลดา
“ฉะนั้นถ้าบ้านอยู่ช่วงถนนสุโขทัย ราชวิถี น่าจะเหมาะที่สุด เพราะเดินทางไปบ้านน้าชาติ ก็ใช้เวลา 10 นาที ไปโรงเรียนของลูกก็ 10 นาที บริเวณ รอบๆ ก็มีต้นไม้เยอะ เพราะ อยู่ใกล้ พระราชวังสวนจิตรลดา ทำให้บ้านในย่านนี้ร่มรื่นร่มเย็น ผมว่า ถนนราชวิถีมีความลงตัวกับ ไลฟ์สไตล์ และวิถีของเรา”
คุณพ่อลูกสองยิ้มอารมณ์ดีเมื่อเอ่ยถึง ความลงตัวของชัยภูมิที่ดีของบ้าน ซึ่งอาศัยมาจน ปัจจุบันลูกชายคนโต (หลวง-พสุ) ทำงานที่ ธนาคารอาร์บีเอส ประเทศสิงคโปร์ ส่วนลูกสาว(พราว- พราวพุธ) หลังจากจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ขณะนี้กำลังศึกษาต่อปริญญาโทที่ ประเทศอังกฤษ
/// “น้าชาติ” แนะบ้านต้องมีประตู 2 ทาง
คุยเรื่องสถานที่ตั้งอันเหมาะเจาะแล้ว จึงขยับเข้ามาดูสไตล์การตกแต่งภูมิทัศน์รอบๆ บ้านที่เน้นความสบายมิได้กำหนดสไตล์ชัดเจน โดยมีเพื่อนเป็นผู้ออกแบบให้ ส่วนตัวคุณสุวัจน์ นอกจากชอบวัสดุประเภทไม้แล้ว ยังคำนึงถึงวิถีชีวิตของตนเอง ทั้งด้วยอาชีพนักการเมือง หนำซ้ำยังมีเพื่อนฝูงมาก จึงคิดองค์ประกอบขึ้นมาว่าบ้านควรจะมีลักษณะแบบใดถึงจะเกิด ประโยชน์สูงสุด
“สังเกตได้ว่าบ้านหลังนี้มีประตูเข้า-ออกได้ 2 ทาง เพราะนักการเมืองควรมีทีหนีทีไล่ (หัวเราะ) น้าชาติบอกเสมอว่า บ้านนักการเมืองมันต้องมีสองซอย เพราะใครมาซอยนี้เราก็ออก อีกซอยได้ เสื้อผ้าต้องเก็บใส่กระเป๋าไว้เลย (หัวเราะ) ท่านคงเปรียบเทียบกับสมัยก่อนบ้านเมือง เรามีการปฏิวัติบ่อยๆ พอเกิดอะไรมาก็หิ้วกระเป๋าไปได้เลย” ว่าเรื่องประตูทางเข้าบ้านก็ยังมิวาย หยอดมุกต่อ “ของผมคงไม่ถึงขนาดนั้น”
เช่นนั้นคฤหาสน์หลังงามของอดีตเลขาธิการพรรคชาติพัฒนาจึงแบ่งส่วนหนึ่งของบ้านเป็นห้องประชุมเพื่อให้บรรดา ส.ส.มีสถานที่มานั่งหารือนอกรอบกัน หนำซ้ำยังบังเอิญมีจำนวนที่นั่ง 36 ที่ เท่ากับจำนวนคณะรัฐมนตรีอย่างมิได้รู้ล่วงหน้า
“ตอนที่สร้างบ้านหลังนี้ยังไม่เคยรู้เลยว่าประเทศไทยจะต้องมีรัฐมนตรี 36 คน (หัวเราะ) ที่ผ่านมาห้องประชุมนี้ได้ต้อนรับคณะของคุณอภิสิทธิ์ เมื่อครั้งมาทาบทามให้สนับสนุนเป็นนายก รัฐมนตรี” พร้อมชี้ไปนั่งโต๊ะรับแขกหน้าบ้านที่ใช้พูดคุยกันได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ของรัฐบาล ชุดนี้ไปแล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นคนรักต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ เช่นเดียวกับมาดามติ้ง พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ) ซึ่งลงมือปลูกต้นไม้เองหมดทุกต้น “อยู่ในเมืองก็จริง แต่เวลาอยู่ในบ้าน พยายามให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่า เป็นบ้านที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมดีๆ จะเห็นมีต้นไม้อยู่รอบๆ บ้านเยอะมาก” ต้นไม้ทุกต้นที่บ้านหลังนี้ ว่ากันว่ามาดามติ้งหวงแสนหวงเป็นที่สุด โดยเฉพาะ ต้นปีบสูงตระหง่านด้านหน้าบ้าน ซึ่งมีความหมายให้เก็บเงิน เก็บทองได้มาก
“พอหน้าหนาวเดือนตุลาคมต้นปีบก็จะออกดอก พอหมดดอกปีบ ถึงวันที่ 9 กุมภาฯ วันเกิดผมทีไร ต้นจันทร์กระพ้อที่หายากปลูกไว้ 3 ต้นก็จะออกดอกพร้อมกัน ทุกปีคุณ โฉมฉาย อรุณฉาน จะมาร้องเพลงจันทร์กระพ้อในวันเกิดผม เธอบอกว่า ร้องเพลง ดอกจันทร์กระพ้อ ที่ไหนก็ไม่เพราะเหมือนมาร้องที่บ้านคุณสุวัจน์ ได้เห็นทั้งรูป สัมผัสทั้งกลิ่น ไม่ต้องมโนภาพ” เขายังเปรียบความสุขทางใจที่ได้จากต้นจันทร์กระพ้อซึ่งมีคุณค่าเทียบเคียงกับ รถยนต์โรสรอยซ์ บวกนาฬิกาปาเต๊ะฟิลลิปทีเดียว
/// ใบกล้วย สิงห์ กวาง สัญลักษณ์เสริมความเชื่อส่วนตัว
ทว่ามองไปรอบๆ บริเวณบ้าน ตั้งแต่ประตููเหล็กทึบบานใหญ่ซึ่งโดดเด่นด้วยใบกล้วย สีทอง รวมไปถึงหินแกะสลักรูปสิงห์ที่ตั้งสง่าเอาไว้หน้าบ้าน อดีตรองนายกรัฐมนตรี อธิบายว่า “ประตูบ้านที่มีเป็นรูปใบกล้วยมีความหมายเหมือนคำพูดที่ว่าทำอะไรจะง่าย เหมือนปลอกกล้วย เข้าปาก (หัวเราะ) ชีวิตจะได้ง่ายๆ มีปัญหาอะไรก็จะได้แก้กันง่ายๆ บางคนมาถามเวลาผ่าน หน้าบ้านทำไมทำประตู เป็นรูปใบกล้วย ก็จะบอกว่า ชีวิตจะได้ไม่ยาก แก้ปัญหาอะไรง่ายๆ แบบปลอกกล้วยเข้าปาก
ขณะที่หินแกะสลักรูปสิงห์น่าเกรงขาม ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าตั้งใจให้เป็นงานอาร์ตเท่านั้น แต่ตามความเชื่อแล้ว สิงห์เป็นสัตว์มงคลที่มีลักษณะแห่งความเป็นเจ้า เชื่อกันว่าสิงห์สามารถ สลายพลังปราณชี่ พิฆาตต่างๆ และช่วยเรียกโชคลาภได้ เหมาะที่จะใช้สำหรับห้างร้าน บริษัท และ สถานที่ราชการ
ส่วนประติมากรรมรูปกวางกระโดดกลางบ่อน้ำด้านหน้าบ้าน รวมทั้งรูปกวางสองแม่ลูก ยืนคลอเคลียกันก็ทำให้ผู้ที่มาเยือนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า บ้านหลังนี้น่าจะเป็นป่ามากกว่า “คนที่ออกแบบพยายามจำลองให้บริเวณหน้าบ้านเป็นป่าทึบ เหมือนว่า กวางกำลังวิ่งลงมาจาก ภูเขาเพื่อมาเล่นน้ำตามลำธาร แต่ไม่ได้ถือเคล็ด หรือ เป็นฮวงจุ้ยอะไรนะ” เขาบอกจินตนาการของ ผู้ออกแบบบ้านที่ให้บรรยากาศอบอุ่นท่ามกลาง ความร่มรื่นของต้นไม้นานาพันธุ์
เมื่อถามถึงความหมายของบ้านในความรู้สึกเจ้าของบ้านสองประตูแห่งนี้ เขาว่า เฮาส์ (House) ไม่ใช่ โฮม (Home) เฮาส์ คือ ที่อยู่อาศัย แต่โฮม คือ บ้าน บ้านไม่ใช่เป็นแค่ที่อยู่อาศัย แต่บ้านต้องมีชีวิต และความผูกพัน
“บ้าน คือ วิมานของเราอย่างที่คุณสวลี ผกาพันธ์ ร้องไว้ว่า บ้าน คือวิมานของเรา เราซื้อ เราเช่า เราปลูกของเราตามใจ ย่อมเป็นสถานทิพย์ วิมานพอหา ได้ เป็นที่เกิด ที่ตาย ที่เราสร้าง เอาไว้คอยท่า..บ้าน คือวิมานของคน ฯลฯ (หัวเราะ)” เจ้าของบ้านฮัมเพลงโชว์ลูกคออย่าง อารมณ์ดี
ยามสุขใจเมื่อได้อยู่บ้าน ก็ชอบมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางต้นไม้เสมอ เรียกว่า มีนิสัยประหยัดพลังงาน ก่อนที่มาดามติ้งจะได้รับตำแน่งเป็น รมว.พลังงาน ด้วยซ้ำ ยิ่งถึงยุค น้ำมันแพง จึงเริ่มประหยัดพลังงานจริงจังด้วยการปิดแอร์ แต่มาอยู่กับธรรมชาติให้มากขึ้น
“ตอนนั้นผมกลายเป็นคนโดดเดี่ยวผู้น่ารัก เป็นรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะอยู่บ้านเลขที่ 111 คุณติ้งก็ทิ้งเจ้า ชุ ชู (สุนัขพันธุ์ปั๊ก) ให้อยู่ด้วยกันสองคน ตอนกระทรวงพลังงานรณรงค์ประหยัด พลังงาน ผมก็คิดว่าน่าจะช่วยรณรงค์ด้วยดีกว่า ก็เลยไม่อยู่ห้องแอร์ แขกมาก็จะบอกร้อนหน่อย นะ นั่งข้างนอกดีกว่าจะได้อยู่กับธรรมชาติ ช่วงหลังเวลาแขกมาบ้านก็ชอบพามานั่งบริเวณนีี้… โอ้โฮ! ประหยัดค่าไฟหลายพันบาท” เสียงหัวเราะครื้นเครงจากเจ้าของบ้านดังขึ้นมาอีกครั้ง
/// ว่ายน้ำ ออกกำลังกาย แถมได้ไอเดียดี
แม้อายุจะล่วงเข้าวัย 66 ปี ทว่ารูปร่างยังดูสมส่วน แข็งแรงสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าโรคภัยจะมาเยือนวันไหนไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ ทางที่ดี ทุกคนควรต้องหาเวลาออกกำลังกายเพื่อให้อายุยืนอยู่บนโลกใบนี้ได้นานที่สุด และ การว่ายน้ำ เป็นกีฬาที่เขาเลือกใช้ออกกำลังกายในแต่ละวัน
“ผมตื่นมาตอนเช้าหลังจากอ่านหนังสือพิมพ์ครบ 7 ฉบับแล้วก็จะกระโดดลงสระน้ำเลย ว่ายประมาณ 20-30 นาที เวลาที่ผมอยู่ในสระผมจะใช้เวลาทบทวนตัวเอง หรือวางแผนงานอะไร ไปด้วยส่วนใหญ่จะคิดตอนกำลังว่ายน้ำตลอด เหมือนเวลาว่ายน้ำสมองโล่ง คิดอะไรดีๆ ได้เสมอ พอว่ายน้ำเสร็จก็แพลนงานเรียบร้อยพอดี แต่งตัวไปทำงานแบบสมองโปร่ง หน้าก็ใส“ เขาเล่าถึง ข้อดีจากการว่ายน้ำในแบบเฉพาะตัว นอกจากนี้เมื่อก่อนเป็นโรคปวดหลัง ปวดคอ ทำให้ต้อง เดินทางไปทำกายภาพบำบัดทุก 3 วัน แต่พอได้ว่ายน้ำยืดเส้นยืดสายความปวดต่างๆ กลับหาย เป็นปลิดทิ้ง
ตั้งแต่นั้นมาเรียกว่าเสพติดการว่ายน้ำ แบบเว้นไม่ได้สักวันเดียว ดังนั้นหากเดินทาง ไปต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด ถ้าต้องพักที่โรงแรมจึงขอเลือก เฉพาะโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำ เท่านั้น
/// ถนนการเมืองยังอีกยาวไกล “I Shall Return”
นักการเมืองคนดังลูกแม่น้ำราชบุรี อาศัยอยู่บนเรือกระแชงในแม่น้ำแม่กลองมาตั้งแต่เล็ก “ความยากจน” ของครอบครัวเป็นปุ๋ยชั้นดี ทำให้เขาแกร่ง และสู้ชีวิต ความไม่ยอมแพ้ของ พ่อ และแม่ คือ บทเรียนที่ทำให้เขาไม่เคยกลัวปัญหา
จากนั้นเส้นทางชีวิตก็พลิกผันให้เขากลายเป็นนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกลที่ใคร ๆ ก็ต้องจับตามอง ตลอดชีวิตของสุวัจน์ “ผมไม่เคยเลือกที่จะเป็น แต่ผมเลือกที่จะทำ ทำดีที่สุด ในสิ่งที่เป็น"
อีกสองปีครึ่งเขาจะรอดพ้นจากบ้านเลขที่ 111 ทำให้มีคำถามถึงวี่แววการหวนกลับมา เล่นการเมืองเหมือนเคยหรือไม่ เขาตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ “ถ้าวันนั้นมาถึง ผมคงต้องดู อีกที เอาเป็นว่าแล้วแต่สถานการณ์บ้านเมือง แต่ส่วนใหญ่ นักการเมือง มักจะมีอยู่สองประโยคว่า “I Shall Return” ผมจะกลับมาอีก กับ Old Soldier never die ทหารเก่าย่อมไม่ตาย สำหรับผม ความผูกพันพันกับการเมือง เลิกยาก เพราะเป็นความผูกพันกับชาวบ้าน ในชีวิตการเมืองก็ทำงาน เพื่อท้องถิ่น
“บางคนบอกว่าการเมืองไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร บางทีรักเพราะเป็นรัฐบาลอยู่ด้วยกัน แต่ทะเลาะกันแล้วไปเป็นฝ่ายค้าน ก็แสดงให้เห็นว่าไม่มีมิตรแท้ หรือ บางครั้งฟัดกันแทบเป็น แทบตาย เดี๋ยวก็มากอดกันจนกลมกลิ้ง (หัวเราะ) ก็เหมือนไม่มีศัตรูถาวร ทำให้คนภายนอก มองนักการเมืองไม่ดี เป็นเหมือนนักเล่นละคร เล่นจำอวด ไอ้บทรักก็รักไปอย่างนั้น พอบทโกรธก็ โกรธกันไปอย่างนั้น แต่เบื้องหลังถ้าผลประโยชน์ลงตัวก็จบ แต่ตรงนี้ต้องเพิ่มเอาไว้ คือ การเมือง ไม่มีคำว่า เป็นไปไม่ได้” แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาสะท้อนภาพการเมืองในประเทศไทย
...เชื่อว่าอีกไม่นานบ้านย่านราชเทวีอันร่มรื่นคงได้คึกคักรับแขกเหรื่อคนการเมืองเหมือน เช่นเคยเป็นมาแน่นอน