ทายาทพันล้าน “บิวตี้เจมส์” สุริยน ศรีอรทัยกุล ยึดคำพ่อสอน “รู้จักให้โอกาสคน”

ทายาทพันล้าน “บิวตี้เจมส์” สุริยน ศรีอรทัยกุล ยึดคำพ่อสอน “รู้จักให้โอกาสคน”

 

 

 

http://www.changeintomag.com/ นิตยสาร เชนจ์ อินทู CHANGE into Mag
 
CHANGE Live has changed
เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง ภาพ : ชวกรณ์ สะอาดเอี่ยม
 
 
ทายาทพันล้าน “บิวตี้เจมส์”
สุริยน ศรีอรทัยกุล ยึดคำพ่อสอน “รู้จักให้โอกาสคน”
 
เปลี่ยนชีวิตด้วยหลักพระพุทธศาสนาเป็นแสงสว่างนำทางชีวิตทางสายกลางของ “เจ้าพ่อบิวตี้เจมส์”
พร้อมยึดคำพ่อสอน “ต้องมองพนักงานให้เป็นครอบครัวเดียวกัน สิ่งสำคัญเราต้องรู้จักให้โอกาสคน"
 
นักธุรกิจหนุ่มหัวใจแกร่งกับเจ้าของฉายา “เจ้าพ่อบิวตี้เจมส์” คุณหนึ่ง-สุริยน ศรีอรทัยกุล เจเนอเรชั่น 3 แห่งบิวตี้เจมส์ (Beauty Gems) เปิดคฤหาสน์หรูสไตล์คอนเทมโพรารี ใจกลางเมือง เล่าถึงเรื่องราวธุรกิจของครอบครัวที่เห็นมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก ก่อให้เกิดความรู้สึกผูกพันลึกซึ้งและสนใจที่จะเรียนรู้เพื่อนำพานาวาลำนี้ไปสู่เป้าหมายให้ได้อย่างที่ตั้งใจ
 
//พ่อสอน “รู้จักให้โอกาสคน"
ภายหลังเรียนจบจากโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก ได้เดินทางไปเรียนต่อระดับไฮสกูล และเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเปปเปอร์ ดายส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ จบระดับปริญญาตรี บริหารธุรกิจ เมื่ออายุ 21 ปี และได้ศึกษาต่อที่ GIA (Gemological Institute of America) ซึ่งเป็นสถาบันด้านอัญมณีศาสตร์ เป็นคอร์สเรื่องการดูเพชร-พลอยต่างๆ เป็นเวลา 1 ปี แล้วเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว “บิวตี้เจมส์” ที่ดำเนินมา 52 ปี โดยมีพนักงานกว่าหมื่นคนที่ต้องดูแล
 
“แรกๆของการเข้ามาทำงานเพื่อให้พนักงานยอมรับก็ไม่ได้หนักใจ แต่ผมใช้ผลงานเป็นบทพิสูจน์ของการทำงานของผม ด้วยความตั้งใจศึกษางานและลงมือทำ ผมทำหน้าที่ทั้งขาย แล้วจัดพลอย รวมถึงพบกับลูกค้าเราก็ได้สัมผัสเองทั้งหมด ถึงแม้จะเป็นธุรกิจที่ผมมาสานต่อจากครอบครัว เรามีพี่น้องน้อย ทำให้คุณพ่อคุณแม่(พรสิทธิ์-ดร.สุนีย์ ศรีอรทัยกุล)บอกว่าถ้าคิดว่าพนักงานคือครอบครัวเราก็จะมีพี่น้องเยอะ เพราะถ้าเราให้ความจริงใจกับพวกเขา ทุกคนก็จะสัมผัสได้ บางคนมีเรื่องมาปรึกษา เราก็แก้ปัญหาให้กับเขาได้ หรือบางครั้งบริษัทมีปัญหาใหญ่ พนักงานทุกคนก็จะออกปกป้อง มีใครถามว่าทำงานที่ไหนเขาก็ภูมิใจว่าทำงานที่บิวตี้เจมส์
“บางครั้งการทำงานในตอนแรกๆก็เป็นเรื่องที่น่าหนักใจกว่าที่เราจะสร้างงานขึ้นมาเอง แต่จะหนักใจยังไงต้องขอบคุณพ่อคุณแม่ที่วางรากฐานที่ดีเยี่ยมมาให้ ด้วยการนำนาวาหรือเรือลำนี้ให้มีความเจริญเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ตรงนี้มันก็เป็นความภาคภูมิใจของผม ถ้าถามว่าวันนี้ผมประสบความสำเร็จแค่ไหน ผมก็คิดเหมือนกับคนอื่นว่า ถ้าเราคิดว่าวันนี้เราสำเร็จเราก็จะอยู่ที่เดิม ผมคิดว่าขอให้เราทำทุกวันให้ดีที่สุด ที่สำคัญเราต้องมีความซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วย
“นอกจากนี้ผมคิดว่าอย่างน้อยหลักธรรมก็สอนให้คนเรารู้จักเดินสายกลางไม่ให้หนักไปข้างใดข้างหนึ่ง ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะต้องทำอย่างมีสติสัมปชัญญะ สิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้นั้นก็คือ ความรับผิดชอบ หากเรารับปากอะไรกับลูกน้องหรือลูกค้า ผมก็ต้องทำให้ได้ และไม่ลืมที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเรา ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก เพราะคุณพ่อสอนผมเสมอว่า ทั้งบ้านหรือบริษัท ลูกน้อง เจ้านาย ก็ต้องมองพนักงานให้เป็นครอบครัวเดียวกัน สิ่งสำคัญเราต้องรู้จักให้โอกาสคน"
 
// มุ่งพัฒนา “บิวตี้เจมส์” สู่ AEC
ปัจจุบันบิวตี้เจมส์เป็นแบรนด์เนมผู้ผลิตให้กับลูกค้าทั่วโลก ที่พยายามที่จะรักษาฐานและเติบโตไปพร้อมกัน “แต่แน่นอนส่วนลึกๆ อยากจะทำให้บิวตี้เจมส์เป็นแบรนด์ระดับโลก ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ผลิตอย่างเดียว ซึ่งก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นก้าวต่อไปของเราก็ต้องระมัดระวัง ถ้าไม่ดีก็ไม่ควรก้าว ควรที่จะรักษาฐานตรงนี้ให้ดี เพื่อต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community) หรือ AEC
 
“การเข้าสู่ตลาด AEC ทางบริษัทของเราคงไม่ต้องปรับอะไรมาก เพราะเราเหมือนเป็นศูนย์กลางอัญมณี ประเทศอื่นจะต้องสั่งสินค้าเราไปขาย บ้านเราเป็นแหล่งผลิตอยู่แล้ว ไม่มีภาษี ถ้าใครอยากเปิดธุรกิจนี้มีเงินทุนก็เปิดได้ สั่งสินค้าจากไทยแล้วเปิดเป็นช็อปได้เลย มันจะเป็นการกระตุ้นยอดขายและกระตุ้นฐานการผลิตของไทยเรา โดยเฉพาะอัญมณีของไทยที่ไม่น่าเป็นห่วง เพราะประเทศไทยเป็นเกตเวย์ของสินค้าที่เมืองนอกจะเข้ามาลงทุน ทำให้ 2 ปีนี้ไทยจะรุ่งเรืองมากๆ ที่สำคัญต้องทำโลจิสติกส์ให้ดีในอาเซียน ความเจริญในภูมิภาค AEC เติบโตได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาเราต้องกระจายไปยังหัวเมืองให้มากที่สุด ผมก็มองบิวตี้เจมส์ในอนาคตต้องมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ผมมองว่าอนาคตของเราสดใจ เพราะผู้บริหารยังวัยรุ่นอยู่(หัวเราะ)”
 
// หลักบริหาร “จริงใจ”
ที่ผ่านมาคุณหนึ่งได้ใช้หลักธรรมมาปรับใช้ในการบริหารมาอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลทำให้ได้แก้ปัญหา แต่ละช่วงให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ปัจจุบันนอกจากเป็นผู้ส่งออกเครื่องประดับอัญมณีรายใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ก็ยังแตกธุรกิจออกมาเป็น สนามกอล์ฟ รอยัล เจมส์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ ที่ตั้งอยู่บน ถ.ศาลายา-บางภาษี ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม และ สนามกอล์ฟ เดอะรอยัล เจมส์ กอล์ฟ ซิตี้ ย่านรังสิต คลอง 6 จ.ปทุมธานี รวมทั้งร่วมทุนกับ บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย อีกด้วย
“หลักการบริหารงานง่ายๆ ของผมคือ ต้องใช้บุคลากรทำงานให้ถูกจุด ถูกตำแหน่ง ที่สำคัญต้องจริงใจและตรงไปตรงมากับพนักงาน ต้องให้เขารู้ปัญหาอย่างแท้จริง เพราะบริษัทไม่ได้วิ่งได้โดยคนหนึ่งคน เราไปกันเป็นทีม ถ้าคนไหนทำไม่ได้ คนอื่นทำได้ก็เข้ามาช่วยก่อนที่คนนั้นจะตกเหวลงไป ต้องร้องตะโกนช่วยกันก่อน ไม่ใช่ว่าปล่อยให้ตกลงไปแล้วค่อยมาบอก”
 
//จุดเปลี่ยนความสำเร็จ “มองให้ครบ 360 องศา”
สำหรับการบริหารที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ คุณหนึ่งมองว่าเป็นเรื่องของความอดทน “ผมยอมรับว่าผมไม่ได้เป็นคนเก่ง เพราะบางอย่างเราก็ไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง บางครั้งเราต้องเรียนรู้เพื่อที่ต้องการจะเก่ง เรียกว่าผมเป็นคนขยันมากกว่า คือสิ่งไหนที่ทำไม่ได้ก็จะมุ่งมั่นทำจนสำเร็จ คนอื่นอาจทำชั่วโมงเดียวเสร็จ สำหรับผมอาจต้องทำถึง 5 ชั่วโมง แต่เราก็สู้ไม่ถอย (หัวเราะ)
 
“สิ่งสำคัญคือเราต้องเปิดกว้าง ต้องมองทุกอย่างให้เป็นอนัตตา ว่าทุกอย่างสุดท้ายก็ศูนย์ ทั้งหมดที่ทำไม่มีจริงหมด (หัวเราะ) คือว่าเราต้องมองให้ครบ 360 องศา ทำทุกอย่างให้จริงจัง เป็นหน้าที่ ถ้าเราเกิดมามีลมหายใจก็ทำให้มันดีที่สุด อย่างน้อยทำเพื่อให้สังคมน่าอยู่ ให้ทุกคนทำงานกันอย่างสบายใจและมีความสุขร่วมกัน”
 
นี่คือมุมมองชีวิตของนักธุรกิจอัญมณีอันดับ 1 ของเมืองไทย “สุริยน ศรีอรทัยกุล” พร้อมข้อคิดให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ต้องดูแลสุขภาพจิต สุขภาพใจ ให้แต่ละก้าวที่เดินไปมั่นคงและเปี่ยมพลัง “คนไหนที่ต้องสืบทอดธุรกิจของครอบครัวอยากคิดอยากทำอะไรก็ลุยไปเลย ตราบใดที่ไม่ทำให้ผู้อื่น และอย่าลืมว่าสิ่งที่ท่านได้มา จงให้กับสังคมด้วย การให้อาจไม่ใช่เงินทองก็ได้ หรืออย่างผมมีอะไรผมก็แชร์ให้กับสังคมได้รับรู้ เพื่อให้สังคมเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น และในเรื่องของคุณธรรมและไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็สำคัญ เพราะคนเกิดมาไม่เหมือนกัน แม้เราจะไม่สามารถเปลี่ยนสังคมได้ แต่เราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนแนวคิดของเราได้ ด้วยการรักตัวเอง แต่ไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แล้วตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ดีๆครับ”