จากลูกชาวนา สู่ “มือเสิร์ฟเงินล้าน”
CHANGE Live has changed เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง ภาพ : ชวกรณ์ สะอาดเอี่ยม
จากลูกชาวนา สู่ “มือเสิร์ฟเงินล้าน”
โอม สมรัชนะ มูลสาย
"ขอเป็นวิทยากรตอบแทนคุณแผ่นดิน"
16 ปี ชีวิตของ “โอม”สมรัชนะ มูลสาย ได้ออกสำรวจโลกในการทำหน้าที่ให้บริการบนเรือสำราญรอบโลก จนถูกเรียกขานว่า “มือเสิร์ฟเงินล้าน” และในวันนี้ได้ทิ้งเงินรายได้เกือบล้านต่อปีบนเส้นทางลูกเรือสำราญระดับโลก เพื่อเดินสายเป็นวิทยากรตอบแทนคุณแผ่นดิน ปัจจุบันเป็นกรรมการ ทีมงานรายการทีวี "เปลี่ยนเป็นเปลี่ยน" ช่อง "โลกพระพุทธศาสนา" โดยมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์
เกิดมาท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรไกลโพ้นจังหวัดเชียงราย มีเด็กชายโอม สมรัชนะ มูลสาย ได้กำเนิดและโต เรียนจบชั้นประถมที่โรงเรียนทุ่งยังหัวฝายวิทยา มัธยมต้นโรงเรียนแม่จันวิทยาคม และโรงเรียนดอนศิลาผางามวิทยาคม จบมัธยมปลาย โรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จากนั้นหอบเสื่อผืนหมอนใบไปคว้าใบปริญญาตรีในรั้วรามคำแหง เรียนด้วยทำงานด้วยจนจบ 3 ปีภายใต้ทุนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ ด้วยเพราะทางบ้านเป็นคนมีฐานะ(ยากจน) ต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี ถีบตัวเองออกนอกประเทศโกอินเตอร์ลัดฟ้าไปเป็นมือเสิร์ฟทีมชาติไทย บนเรือสำราญหรูระดับโลก ภายใต้ป้ายชื่อประเทศThailand ชีวิตจึงมีภูมิแห่งความตั้งใจ ขยันเพื่อสร้างฐานะ ตอบแทนบุพการี หนักเอาเบาสู้ จนถึงฝั่งฝัน
//เริ่มต้นสำรวจโลก...
“ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสไปเยือนมากกว่า 100 ประเทศในทุกทวีป ตอนเรียนปริญญาตรีทำงานโรงแรมด้วย แม้จะเรียนคณะรัฐศาสตร์ต่างสาขาสายงานบริการ จากนั้นจึงเอาประสบการณ์งานบริการไปสอบแข่งขันทำงานเรือสำราญระดับอินเตอร์ ดูแลสุขภาพให้ดี และสมบูรณ์แข็งแรงตลอดเวลา เพราะต้องตรวจร่างกายก่อนไปทำงานเสมอ ภาษาอังกฤษสำคัญมากในการทำงาน ไม่ต้องเก่งเกินใคร แค่ใส่ใจเรียนรู้พัฒนาตลอดเวลา จนได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าทำงานรับผิดชอบหลายอย่าง นอกจากตะบี้ตะบันเสิร์ฟ เช่น เป็นเลขาฯในแผนก เป็นโอเปอร์เรเตอร์ และอื่น ๆ แม้จะทำงานเป็นบริกรที่หลายคนร้องยี้ แต่ภูมิใจในหน้าที่อันสุจริต ด้วยความอดทน มานะ จนสร้างรายได้ งานสัมฤทธิ์ ชีวิตต้องสำราญ เหมือนกับเรือสำราญ ไปน่านน้ำหลายทวีป”
//ฉายา "มือเสิร์ฟเงินล้าน"...
“นอกจากสภาพเส้นผมตกหน้าผากที่สูงกว้างแล้ว ยังทำงานบนเรือสำราญหรูมากกว่า 16 ปี มีรายได้มากกว่า 10 ล้านจากงานขายบริการอาหารเครื่องดื่ม หอบเงินกลับไทยเคยได้ปีละล้านในช่วงเศรษฐกิจเฟื่องฟู จนสื่อมวลชนขนานนาม "มือเสิร์ฟเงินล้าน" ที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง ในสาขาอาชีพที่ไม่มีใครปรารถนา หากแต่ทำด้วยใจสูง เพราะไม่มีงานไหนต่ำ ถ้าเราทำด้วยความสุจริต บริสุทธิ์ มันคืองานที่ท้าทาย ได้ฝึกสติ ขันติบารมีดียิ่ง จนทำงานอย่างมีความสุขบนเรือสำราญเป็นเวลา 16 ปี พร้อมเป็นจิตอาสาตอบคำถามน้อง ๆ ที่ติดตามโดยไม่หวังผลตอบแทน”
//คนรุ่นใหม่ เรียก " ไอดอล บ๋อยอินเตอร์ " ...
หลังจากเขียนพ็อกเก็ตบุ๊คสามเล่ม สะสมประสบการณ์จนเขียนหนังสือคนแรกของประเทศไทย ที่แชร์เรื่องราวฮาวทู งานบริการบนเรือสำราญ และอีบุ๊คอีก 1 เรื่อง (โต้คลื่นเม้าท์...เล่าเรือสำราญ)
และมีแฟนคลับติดตามทางหน้าเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ก็มีการติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น “ผมคิดเสมอว่า โอกาสสำคัญมาก เราเคยอยากได้โอกาสในชีวิต พอเรามีก็คิดแบ่งปันโอกาสให้รุ่นน้อง จึงเป็นจิตอาสาคอยตอบคำถามและเป็นที่ปรึกษาให้น้อง ๆ ที่สนใจใคร่รู้เรื่องงานเรือสำราญ โดยไม่อิงสังกัดเอเจนซี่บริษัทไหน ให้ข้อมูลตรงมาตรงไป แม้จะทำงานบนเรือสำราญทุกวัน ปีละ 9-10 เดือน ก็ยังหาเวลาตอบคำถามแฟนคลับ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราว หรือลงคลิปที่เดินทางไปทั่วโลก ให้ผู้ติดตามได้เข้าถึงและท่องเที่ยวไปด้วยกัน ส่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตสู่ความสุขง่าย ๆ ด้วยการคิดบวกและปรัชญา ศรัทธา มุ่งมั่น เข้มแข็งและอดทน ไม่ย่อท้อ จึงเป็นที่มาให้น้อง ๆ หลายคนเรียนรู้และดำเนินชีวิตตามเพื่อความสุขความสำเร็จ ต่อตัวเองครอบครัวและสังคม”
//แขวนถาดระดับอินเตอร์?.
แม้จะอำลาวงการงานเรือสำราญระดับโลกหลังจากเป็นบริกรมืออาชีพ รับเป็นคอลัมนิสต์ให้ 3นิตยสาร พร้อมร่วมทำนิตยสารแจกฟรี "เชนจ์ อินทู" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ กับเพื่อนสนิท จิตอาสารับงานเป็นวิทยากรด้านการบริการ สร้างแรงบันดาลใจ และอื่น ๆ เพื่อพัฒนาสังคมไทยยั่งยืน ให้สัมภาษณ์รายการทีวีหลายรายการ ยังประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจในสาขาอาชีพ รวมทั้งทำงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แอท เดอะ ทรี คอนโดมิเนียมที่หาดราไวย์ ภูเก็ต นอกจากนั้นยังเป็นเกษตรกรตามรอยเท้าพ่อฯ ทำสวนยางพาราที่บ้านเกิดเชียงราย
//ทิ้งเงินล้าน... มากินอยู่พอเพียง?
ส่วนตัวคุณโอมคิดว่าเงินเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิตแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต อาจจะเป็นเพราะตัวเองเป็นคนติดดิน ธรรมดา กินอยู่ไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักใช้รู้จักจ่าย จึงไม่มีปัญหาในการจัดสรรเงินดำเนินชีวิต เพราะกินอยู่ตัวคนเดียว และยังมอบเงินให้แม่อีกเดือนละหมื่น เป็นค่าหล่อเลี้ยงจิตใจตอบแทนคุณมารดา
“ถ้าถามเด็กๆยังตอบว่าอยากได้เงินเยอะ ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคิดว่า การทำงานหาเงินเราต้องดูหลายปัจจัยเช่น ต้องได้มาซึ่งความสุจริต ได้มาด้วยความสามารถ และ การทำงาน ดังนั้นหากสังขารไม่ไหว ก็ไม่ควรฝืน อย่างปีนี้กลับเมืองไทยก่อนกำหนดเพราะต้องผ่าตัดไส้เลื่อน ซึ่งสุขภาพได้เตือนแล้ว จึงไม่อยากเป็นคนที่บูชาเงินโดยไม่คำนึงถึงความสำคัญของสุขภาพ ทำงานมานานทุกวัน ๆ ติดกันตอนนี้อายุ 40 ก็เหมือนกับ 60 ปีที่พร้อมเกษียณ นอกจากนั้น อีกหนึ่งเหตุผลที่พร้อมและมั่นใจในการอำลาวงการ คือ มีแม่เพียงคนเดียว ไม่ว่าจะเดินทางไปทุกทวีป จะหาแม่ของเราไม่เจอนอกจากเมืองไทยแผ่นดินนี้ คุณแม่ขอร้องให้อยู่เมืองไทย เพราะท่านอุ่นใจ จากสามวันดี สี่วันไข้ แม่ไหว้วรขอพรพระให้คุ้มครองทุกเพลา จึงขอทำตามคุณแม่ขอร้อง โชคดีที่ทำธุรกิจอสังหาฯ ภูเก็ตจึงได้เงินค่าตอบแทนให้ทุกเดือน แบบพออยู่พอกิน ไม่เดือดร้อนใคร แล้วเอากำไรนั้นทำงานดี ๆ เพื่อแผ่นดินได้อีกเยอะ”
//ความจนไม่ใช่ “กรรมพันธุ์”
“ความจนไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์ ความเป็นคนบ้านนอกคอกนาไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาชีวิตและจิตใจแต่อย่างใด กลับเป็นแรงผลักดันทำให้เรามีภูมิคุ้มกันความท้อ และ ความจน ไ ชีวิตเรียนรู้ตลอดเวลา รวมทั้งพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเสมอ ในวันนี้แม้จะไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่ขอเป็นคนธรรมดาที่รวยความสุข และพร้อมแบ่งปัน ตามโครงการที่ตัวเองตั้งคือ "มีแล้วให้ ได้แล้วแบ่งปัน" ในสังคม ใช้ชีวิตด้วยพลังคิดบวกตลอดเวลา บนพื้นฐานของการคิดดีทำดี มีศีล5 นำในการดำเนินชีวิต แม้จะเจอเหตุการณ์อะไรพร้อมเข้าใจทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้ว ดับไป เป็นเรื่องธรรมดาเช่นนั้นหนอ ขอให้อยู่กับปัจจุบันมากที่สุดถ้าคุณคิดและทำดีอย่าได้มีอะไรต้องกังวล เชื่อว่าคุณจะเป็นคนที่รักของเทวดานางฟ้าและมนุษย์ทั้งหลาย เพราะคนเก่งอาจจะมีมากแต่คนดียังหายากในสังคม นอกจากนั้นอยากให้ทุกคนรักคนอื่นเหมือนกับรักชีวิตตัวเอง เพราะถ้าเรารักใครต่อใครแล้วเราจะไม่ทำร้ายใครรวมทั้งตัวเอง ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะ ก่อเกิดความสุข และสำเร็จ”
สิ่งสุดท้ายที่เหลือของชีวิตขอให้เป็น "ความหวัง" หวังจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ฝากจารึกไว้ในแผ่นดิน หากไม่สิ้นลมหายใจ จากชีวิตที่เฉียดตายมาหลายครา ทั้งเรือ รถ และ เครื่องบิน คิดว่า ชีวิตวันนี้มีแต่กำไรที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์พร้อมตอบแทนบุญคุณบุพการี และสามสถาบัน จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ไม่ได้คาดหวังจะต้องเป็นคนรวยที่แล้งน้ำใจ ขอเป็นใครคนธรรมดา ที่มีคุณค่าต่อสังคม โดยไม่คำนึงถึงผลการตอบแทน อย่างถ้าโอมไปเป็นวิทยากรให้โรงเรียน มหาวิทยาลัยของรัฐบาล ก็ไม่ได้เรียกร้องค่าตัวแพงเวอร์ แค่ค่าน้ำมัน และที่พักก็พอใจแล้วครับ ส่วนเอกชนก็เรตเบา ๆ ไม่แพงเกิน และบอกกับตัวเองเสมอว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นตัวอย่างที่ดีแก่รุ่นน้อง ได้ใช้ชีวิตเจริญรอยตามพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ไม่ว่าวันนี้จะอยู่หรือไป ภูมิใจที่ได้คิดและทำความดี อย่างน้อยสุดก็ไม่เสียชาติเกิด ที่ยังมี "โอกาส" ได้ตอบแทนคุณแผ่นดินบ้างแค่นี้พอ
//ล้อมกรอบ
''Khun Somratchana Moonsai'' or ''Khun Ohm'' has spent the last 16 years working for the world's famous cruise ship company. He has traveled with his work to more than a hundred countries around the world. Khun Ohm has recently retired and now working as a columnist and guest speaker specialized on service and hospitality industry.
Khun Ohm was born and grew up in Chiang Rai, north of Thailand. He was graduated with a bachelor's degree in Political Science under HRH Princess Sirindhorn's Scholarship scheme for talented student who comes from a poor family. He started his career in the service industry working for Thailand's leading hotel for nearly four years before he joined the cruise ship and began his new journey to the international stage. His career on the cruise ship went on strength by strength. He received an impressive package including all other fringe benefits from the company and became very successful as years passed by. However, life has taken its turn. During the last few years before his retirement, Khun Ohm has witnessed a few accidents that made him realize how life can be very uncertain and it
could have ended without him having a chance to return anything to his country. Therefore, in spite of being at the prime on his career, he decided to go back to Thailand.
Khun Ohm's new goal is to ''give back'' his country the way he has been given. He aims to share his experiences and guide the young people who want to have a career in hospitality industry.
He said "Nothing is more important than being healthy, happy and passionate about what you do. I love what I am doing now-to serve my country".
Somratchana Moonsai (OHM)
(World News Editor) CHANGE into Magazine
CHANGE MEDIA(THAILAND) CO.,LTD.
394/39 D65 Condominium ,A Bldg. Sukhumvi 65 , Prakhanong, Wattana ,Bangkok 10110 THAILAND Tel : (662) 714 1435
Mobile :061 438 3609 Line : somratchana
www.facebook.com/somrtchana.moonsai
FB Fan page : somratchana