“กัปตันตูน” นาวาอากาศตรีรณชย พูนบุญ “ถ้าผมทำได้คุณก็ทำได้”

Strict Standards: Only variables should be assigned by reference in /home/admin/web/changeintomag.com/public_html/plugins/content/fcomment/fcomment.php on line 103

“กัปตันตูน” นาวาอากาศตรีรณชย พูนบุญ “ถ้าผมทำได้คุณก็ทำได้”

Toon (1)
Toon (2)
Toon (3)
Toon (4)
Toon (5)
Toon (6)
1/6 
start stop bwd fwd

 

 

เรื่อง : สุทธิคุณ กองทอง  ภาพ : ชวกรณ์  สะอาดเอี่ยม  

 

สถานที่ : ร้านครัวพฤกษา ถนนบุญเรืองฤทธิ์ เชียงใหม่

 

เกิดเป็นกระแสและแชร์ต่อในเว็บไซต์เฟสบุ๊คเมื่อหลายปีก่อน สำหรับแฟนเพจ “หนุ่มไฉไล by นายร้อยครับผม” ที่รวบรวมรูปหนุ่มๆจากทั้ง 4 เหล่า คือ ทหารอากาศ ทหารบก ทหารเรือ และตำรวจมาไว้ด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นคือ “กัปตันตูน” นาวาอากาศตรีรณชย พูนบุญ สังกัดศูนย์ฝึกศึกษาบุคลากรด้านปิโตรเลียมและพลังงานทหาร กรมการพลังงานทหาร จ.เชียงใหม่ และเป็นอีกคนที่สร้างฝันจนสำเร็จ “มนุษย์เราต้องการคือ เป้าหมายในชีวิต”

 

//วันเด็ก...สร้างฝัน

“กัปตันตูน”  เป็นบุตรของ สมชาย-กรวรรณ พูนบุญ ภายหลังเรียนจบมัธยมศึกษา วัดสุทธิวราราม หลังจากนั้นสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้และเข้าเป็น นตท.ในรุ่น40 จากนั้นแยกเหล่าทัพ เป็นนักเรียนโรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่น 47 อดีตเคยเป็นนายทหารปกครอง นตท.50 และอดีตนายทหารนโยบายและแผน กองนโยบายและแผน กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ

“ผมฝันอยากเป็นทหารอากาศตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เนื่องจากคุณพ่อพาไปเที่ยววันเด็กที่กองทัพอากาศดอนเมือง จำได้ว่าตอนนั้นยังไม่รู้จักว่าเครื่องบินเป็นยังไง แล้วไม่รู้ว่าโตขึ้นแล้วอยากเป็นอะไร  แต่พอได้ไปงานวันเด็กครั้งนั้น ทำให้รู้ว่าเครื่องบินแบบนี้บินได้ ความรู้สึกตอนนั้นผมมองรู้สึกว่ามันเท่ห์  ประกอบกับตอนนั้นมีหนังเรื่องซุปเปอร์แมน เป็นฮีโร่ช่วยเหลือคน ก็เลยเป็นจุดหนึ่งที่มีความฝันอยากเป็นนักบินตั้งแต่เด็กเลย แล้วก็มุ่งมั่นที่จะเป็นนักบินให้ได้

“ตั้งแต่นั้นมาผมก็ตั้งใจเรียน  จากที่ก่อนหน้านี้เป็นเด็กสอบได้ที่ 47 และ 48 เกือบรองที่โหล(หัวเราะ) แต่ที่ทำให้ผมตั้งใจเรียนเพราะว่าเรามีจุดมุ่งหมาย ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่พลิกชีวิตเรา จากเด็กที่ไม่ตั้งใจเรียน กลายมาเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียนมาตลอด เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ กระทั่งสอบเข้าโรงเรียนนายเรืออากาศจนได้สานฝันเป็นนักบินสำเร็จ”เขาถ่ายทอดการเดินตามความฝันจนสำเร็จด้วยหัวใจเปื้อนยิ้มตลอดเวลา

 

//ฝันนี้มีอุปสรรค

ชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือได้อะไรมาโดยไม่ลงมือลงแรง ชีวิตของกัปตันตูนก็เช่นกัน  “กว่าความฝันจะเป็นจริงผมต้องลำบากมาก เพราะต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย(หัวเราะ) อยู่โรงเรียนทหารต้องอยู่กลางแดด ต้องกลิ้งบนพื้น ทุกอย่างเป็นการฝึกความอดทนมาตลอด แต่สิ่งที่ถูกสอนมาก็ทำให้เราเจออะไรที่หนักหนาก็สามารถฝ่าฟันมันไปได้  เพราะก่อนหน้านี้เราต้องเจอความกดดันทางสภาพจิตใจและร่างกาย ระหว่างที่ถูกกดดันก็ยังคิดในใจว่า เรามาทำอะไรที่นี่เราคิดผิดหรือเปล่า(หัวเราะ)

“แต่พอเรามองไปถึงเป้าหมาย เราก็รู้สึกว่าเราต้องอดทน เพราะเรามีเป้าหมายอยู่ข้างหน้า อุปสรรคที่ขวางอยู่เราต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ หลักคิดของผมตอนนั้น คือ อยู่ให้รอดไปวันๆ ไม่คิดไกลมาก เพราะถ้าคิดไกลมามันจะเกิดความท้อแท้  ตอนนั้นคิดเพียงว่า หมดวันแล้วนอน วันศุกร์ได้กลับบ้าน บางครั้งถูกกักบริเวณไม่ได้กลับอีก แต่เรามองไปไกลถึงความฝันก็ทำให้มีพลัง แต่ตอนนั้นเรามองใกล้ๆเพื่อไม่ให้เกิดความท้อแท้ขึ้นในใจ ความรู้สึกตอนนั้นเรามีพ่อแม่เป็นกำลังใจ แม้ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนเราต้องทำให้พ่อแม่สบาย ตรงนี้ก็ทำให้คิดถึงจุดหมายเป็นหลักจึงไม่ลาออก ต่างจากเพื่อนหลายคนเหนื่อยมากๆเขาก็ลาออกไป”  นี่คือความในใจของความสำเร็จที่มาจากความอดทน

//สอนน้อง “ถ้าผมทำได้คุณก็ทำได้

เรียกได้ว่าความฝันที่ “กัปตันตูน” ได้มุ่งมั่นมาตลอดในชีวิตของการเรียนจนประสบความสำเร็จ  “อันนี้คือสิ่งที่อยากจะบอกว่าผมทำได้จริงๆ ถ้าผมทำได้คุณก็ทำได้ ผมได้ไปแนะแนวอยากให้เด็กๆ ที่มีความฝันได้ทำอย่างผม วันแรกที่ได้เป็นนักบินแบบเต็มตัว ผมรู้สึกว่ากว่าจะได้เป็นนักบินมันต้องใช้เวลานานมาก แต่ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเป็นจริงแล้ว พอมองย้อนกลับไปดูภาพเก่าๆสมัยเรียนก็รู้สึกทึ่งกับการเดินตามความฝัน สุดท้ายผมได้บินเครื่องบินลำเดิมที่ผมเคยไปนั่งอยู่บนเครื่องบินสมัยไปเที่ยวงานวันเด็กเลย  มองดูอาจจะแปลกๆ แต่ความฝันตรงนั้นมันกลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว  ผมเลยมองไปว่า ถ้าเรามีความฝันอย่างน้อยเราก็จะดำเนินชีวิตอยู่บนเส้นทางฝันของเรา

“ถ้าเด็กๆคนไหนไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่รู้ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ผมมองว่ามันจะเขว่ไปได้ตามทางที่เดิน  แต่พอเรามีเป้าหมายในชีวิตมันก็จะทำให้เราเดินไปได้ด้วยความุ่งมั่น บางครั้งอาจจะต้องเหนื่อยบ้าง แต่ก็ทำให้เรามีความอดทน ที่ผ่านมาผมยังได้ไปตอบแทนโรงเรียนเตรียมทหาร เพื่อไปดูแลน้องๆอีก 3 ปีที่ฝ่ายปกครอง เหมือนไปใส่หน้ากาก หรือใส่หัวโขนกลายเป็นคนดุ ทั้งที่จริงผมเป็นคนไม่ดุ แต่เพื่อไปสอนรุ่นน้องๆ  เพราะถ้าไปแบบครูที่ใจดี น้องอาจจะไม่ได้อะไรเลย แต่ผมไปสอนเพื่อให้เขามีระเบียบวินัย ช่วงนั้นนักเรียนก็จะเกลียดผมกันใหญ่(หัวเราะ) ผมเคยเกลียดฝ่ายปกครองมาก่อน  แต่ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปได้เยอะเพราะฝ่ายปกครอง” ที่ผ่านมานำบทเรียนชีวิตสอนน้องเพื่อการเปลี่ยนแปลงของชีวิต

 

//สร้างแรงบันดาลใจ...สู่รุ่นน้อง

“ชีวิตวันนี้ผมอยากทำอะไรที่เป็นตัวอย่างให้กับสังคม ตอนนี้มีอะไรก็จะเดินทางไปบรรยายแนะแนวให้กับโรงเรียนต่างๆ ไปแนะแนวแบบไม่ได้คิดเงิน  ไปเพื่อบอกกับน้องๆว่าถ้ามีความฝันแล้วลงมือทำมันจะสำเร็จอย่างไร  หรือจะทำอย่างไรไม่ให้หลุดออกไปจากความฝัน  อย่างน้อยผมไปเหมือนได้ไปสร้างแรงบันดาลใจ ผมไปแนะแนวแล้วมีเด็กคิดตามผมได้สักหนึ่งคนก็คือว่าคุ้มแล้ว  ซึ่งสิ่งตรงนั้นผมอาจจะยังไม่เห็น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นได้จริงผมเองก็จะดีใจ ทุกวันนี้จะมีน้องๆเข้ามาทักในเฟสบุ๊คว่าอยากเป็นทหารอากาศจะต้องทำยังไง จากที่เราเดินตามฝันมาได้ก็จะคอยแนะนำพวกเขาได้ ก่อนหน้านี้ผมเคยลองคิดแบบไม่มีเป้าหมาย ผมรู้สึกว่าชีวิตเราไร้ค่ามาก”

ก่อนจบการสนทนา “กัปตันตูน” นาวาอากาศตรีรณชย พูนบุญ ฝากถึงรุ่นน้องที่มีฝัน “วันนี้อยากจะบอกว่าการที่เราฝันใหญ่แล้วไม่ทำร้ายตัวเอง  แต่มันต้องใช้ความอดทน แล้วการที่ฝันอะไรแล้วต้องใช้เวลานาน อยากให้ทุกคนเก็บความฝันไว้แล้วก็ตั้งใจทำมันทุกวัน แม้มันจะไม่ได้ดั่งฝัน แต่อย่างน้อยมันใกล้ความฝันก็ยังดี อย่างเราก็จะเสียคน เหมือนผมที่ถ้าผมไม่ได้เป็นนักบิน แต่ผมกลายเป็นคนที่ตั้งใจเรียนมากขึ้น วันนี้ผมอาจเป็นนายตูนคนหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จักก็ได้ แต่วันนี้ความฝันได้เปลี่ยนชีวิตผมไปแล้ว”