​เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน-หุ้นไทยลงรับปัจจัยลดหลายด้าน สัปดาห์นี้ลุ้นจีดีพีไทย

​เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน-หุ้นไทยลงรับปัจจัยลดหลายด้าน สัปดาห์นี้ลุ้นจีดีพีไทย

 

 

เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน-หุ้นไทยลงรับปัจจัยลดหลายด้าน สัปดาห์นี้ลุ้นจีดีพีไทย

 

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.67 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือนที่ 35.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาททยอยอ่อนค่าลงตามภาพรวมของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียและการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นท่ามกลางการประเมินของตลาดว่า นโยบายและมาตรการต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ อาจส่งผลทำให้มีแรงกดดันต่อเนื่องไปที่เงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้เฟดชะลอจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (CPI PPI และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์) ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ระบุถึงเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมาย 2.00% ของเฟด ซึ่งสะท้อนว่า เฟดไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนตามแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชั่นหลังจากที่เงินบาทอ่อนค่าลงมากในช่วงที่ผ่านมา

สัปดาห์ระหว่างวันที่ 18-22 พ.ย. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.50-35.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สกุลเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ยูโรโซนและอังกฤษ การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอินโดนีเซีย

ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงท่ามกลางปัจจัยลบจากทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ท่ามกลางหลายปัจจัยลบ อาทิ ความกังวลต่อผลกระทบจากนโยบายต่างๆ ของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (หลังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ) ประเด็นการเมืองในประเทศ แรงขายทำกำไรช่วงโค้งสุดท้ายของการประกาศงบไตรมาส 3/2567 รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยยังสอดคล้องกับภาพรวมของตลาดหุ้นภูมิภาคด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นได้ช่วงสั้นๆ ระหว่างสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการใช้จ่ายในประเทศที่ออกมาค่อนข้างดี

สัปดาห์ที่ 18-22 พ.ย. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,430 และ 1,415 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,460 และ 1,470 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของไทย (18 พ.ย.) ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ (เบื้องต้น) เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนพ.ย. ของจีน   

 

 

 

#ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  #เศรษฐกิจ#การเงิน#การคลัง#กสิกรไทย#Kbank#KPlus#UnionPay#ยูเนี่ยนเพย์ #kasikornasset #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย