ชวนเที่ยววิถีชุมชน ชม “ทุ่งทานตะวันบาน” จ.ปราจีนบุรี พลังพัฒนาของเอสซีจี ชุมชนบ่อทอง และพันธมิตร ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

ชวนเที่ยววิถีชุมชน ชม “ทุ่งทานตะวันบาน” จ.ปราจีนบุรี พลังพัฒนาของเอสซีจี ชุมชนบ่อทอง และพันธมิตร ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

 

 

 

 

ชวนเที่ยววิถีชุมชน ชม “ทุ่งทานตะวันบาน” จ.ปราจีนบุรี
พลังพัฒนาของเอสซีจี ชุมชนบ่อทอง และพันธมิตร
ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

 

 

เอสซีจี ร่วมกับ ชุมชนบ่อทอง หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน จ.ปราจีนบุรี พัฒนาพื้นที่เสื่อมโทรมกว่า 16 ไร่ สู่แปลงทุ่งดอกทานตะวัน ด้วยสารปรับปรุงดินจากวัสดุเหลือใช้ และน้ำที่ผ่านการบำบัดจากกระบวนการผลิตของเอสซีจี ยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชนแห่งใหม่ของจังหวัด พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมงาน “เที่ยวงานวิถีชุมชน ชมพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ทองคำ น้อมนำสักการะพระแก้วนิลกาฬ ทานตะวันบาน @ บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ครั้งที่ 2” ตั้งแต่วันนี้ – 11 ก.พ. 62 โดยมี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอสซีจี ร่วมเปิดแหล่งท่องเที่ยว เมื่อเร็วๆ นี้


นายประกอบ พิกุลกานตเลิศ ผู้อำนวยการโรงงาน บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) โรงงานปราจีนบุรี ในธุรกิจแพคเกจจิ้ง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจีให้ความสำคัญและดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หรือการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุดมาปรับใช้ภายในองค์กร ตลอดจนร่วมมือกับชุมชนบริเวณรอบโรงงาน แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม จนนำไปสู่การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน โดยได้ร่วมกับชุมชน ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่ปี 2560 พัฒนาพื้นที่เพาะปลูกดอกทานตะวัน บนพื้นที่ว่างเปล่ากว่า 16 ไร่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเขตอุตสาหกรรมบ่อทอง และเอสซีจี ได้สนับสนุนสารปรับปรุงดินซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติที่เหลือใช้จากกระบวนการบำบัดน้ำ จำนวน 725 ตัน และน้ำ


ที่ผ่านการบำบัดแล้วกว่า 64,000 ลูกบาศก์เมตร มาใช้ในการเพาะปลูกดอกทานตะวัน เพื่อช่วยลดการใช้น้ำจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติในการใช้ทรัพยากรใหม่ให้น้อยที่สุด ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้นานที่สุด หรือนำกลับมาใช้ซ้ำ ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) รวมถึงสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ และร่วมวางแผนการปลูกแบบแบ่งแปลงที่เหมาะสม เพื่อให้ได้แหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม มีดอกทานตะวันที่พร้อมบานต้อนรับนักท่องเที่ยว

 

การจัดกิจกรรมเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดี มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั่วประเทศกว่า 12,600 คน สร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชนที่เข้าร่วมออกร้านค้าสูงถึง 232,000 บาทในช่วงระยะเวลาที่จัดกิจกรรม รวมถึงยังมีการแลกเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจในการนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเพิ่มอีกด้วย คาดว่าในปีนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีมากยิ่งขึ้น จากการสนับสนุนของทุกภาคส่วนที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดปราจีนบุรี”


ผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน สามารถร่วมงาน “เที่ยวงานวิถีชุมชน ชมพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ทองคำ น้อมนำสักการะพระแก้วนิลกาฬ ทานตะวันบาน @ บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ครั้งที่ 2” ได้ตั้งแต่วันนี้ – 11 ก.พ. 62 โดยภายในงานจัดให้มีการแสดงพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ตลอดทุกวัน การสักการะพระแก้วนิลกาฬ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำตำบลบ่อทอง กิจกรรมเดินวิ่งและปั่นจักรยานส่งเสริมสุขภาพชมวิถีชิวิตของชุมชน