อพท.3เปิดเส้นทางท่องเที่ยวWow Experience “ตะเคียนเตี้ย”
อพท.3เปิดเส้นทางท่องเที่ยวWow Experience “ตะเคียนเตี้ย”
ดึงนักเขียนร่วมเปิดประสบการณ์แชร์มุมมองเพิ่มศักยภาพบริการ
อพท.3 เปิดเส้นทางท่องเที่ยว Wow Experience ชุมชนตะเคียนเตี้ย ดึงBlogger Influencer ร่วมทดสอบเส้นทาง สัมผัสเส้นทางวิถีชุมชน ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวจากนักสื่อความหมายชุมชน ด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยวหลากหลายที่พร้อมเปิดให้บริการตามมาตรฐานท่องเที่ยวของชุมชนสู่ระดับสากล
นายธิติ จันทร์แต่งผล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 3 หรือ อพท.3 เปิดเผยว่า ในวันนี้ (20 กรกฎาคม2562) อพท.3 ได้จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชน Wow Experience ต.ตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ อพท. ได้คัดเลือกให้เป็นชุมชนต้นแบบในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก (จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด)พร้อมกับการประเมินศักยภาพการพัฒนานักสื่อความหมายชุมชนในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก ผ่านความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ของกลุ่มนักเขียนนักเล่าเรื่อง และสื่อมวลชนด้านการท่องเที่ยว (Blogger/ Influencer) ภายใต้โครงการสร้างและพัฒนาการสื่อความหมายในพื้นที่ท่องเที่ยวภาคตะวันออกเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านการท่องเที่ยวสู่ระดับสากลซึ่ง อพท. โดยสำนักท่องเที่ยวชุมชน (สทช.) ร่วมกับ อพท.3และวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดอบรมเพิ่มทักษะให้กับสมาชิกชมรม ผู้นำชุมชน และเยาวชนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มศักยภาพบุคลากรในท้องถิ่นให้สามารถเป็นนักสื่อความหมายชุมชนที่ดีและมีคุณภาพ ตามหลักสูตรที่ใช้เกณฑ์การประเมินผลตามคู่มือการพัฒนานักสื่อความหมายชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมให้บริการกับนักท่องเที่ยว ให้เป็นไปตามเป้าหมายการยกระดับมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวของชุมชนสู่ระดับสากล
“สำหรับการประเมินศักยภาพการท่องเที่ยวของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลตะเคียนเตี้ยในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของกิจกรรมทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชน Wow Experience หลังจากอพท.3และชุมชนได้ร่วมกันพัฒนานำวิถีชุมชนมาพัฒนากิจกรรมให้บริการการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างจุดขายด้านการท่องเที่ยวให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นและตรงกับความต้องการของตลาดท่องเที่ยวในพื้นที่”
ทั้งนี้กิจกรรมได้พัฒนาจากวิถีของชุมชนตะเคียนเตี้ยซึ่งเป็นแหล่งปลูกมะพร้าว โดยได้กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวเป็น 9จุด ตามแนวคิด “ท่องเที่ยววิถีมะพร้าวชาวตะเคียนเตี้ย”โดยจะให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ประกอบไปด้วย1.เยี่ยมชมและสัมผัสกับสวนป่าสาโรชกะแหวว2.ร่วมกิจกรรมตามวิถีชุมชนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการปล่อย“แตนเบียน”เพื่อกำจัดศัตรูมะพร้าวโดยไม่ต้องใช้สารเคมี 3.ร่วมกิจกรรมชงและชิมกาแฟมะพร้าว 4.ปั่นจักรยานท่องเที่ยวตามเส้นทางวิถีชุมชนที่อยู่ตามเส้นทาง 5.เยี่ยมบ้านชาวสวนผู้สูงอายุที่ประกอบอาชีพทำขนมทองพับและการแปรรูปมะพร้าว 6.เยี่ยมชมเรียนรู้วิธีการเพาะปลูกและการดูแลสวนมะพร้าว 7.เยี่ยมชมสวนมะพร้าวสวยๆ “ฟ้าใสไอโกะ” 8.ชมการสาธิตการทำอาหาร “แกงไก่กะลา” 9.เยี่ยมชม“บ้านร้อยเสา”อายุกว่า 100 ปีซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ในพื้นที่ชุมชนตะเคียนเตี้ยที่จะมีการถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของบ้านและร่วมทำกิจกรรมตัดพวงมโหตรและพับกุหลาบจากใบเตย ซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านที่ชาวบ้านในชุมชนยังคงอนุรักษ์ไว้
สำหรับแพคเกจการให้บริการนักท่องเที่ยวมีหลายรูปแบบทั้งการให้บริการเป็นรายบุคคล หรือกรุ๊ปทัวร์ไม่เกิน 10 คน (อัตราค่าบริการ 1,100 บาทต่อคน) ในส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากกว่า 10 คน (มีอัตราค่าบริการ 990 บาทต่อคน) โดยแพคเกจดังกล่าวเหมารวมค่าบริการต่างๆ ประกอบด้วย ค่าบริการนักสื่อความหมายที่สามารถบรรยายได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ค่าบริการจักรยาน/รถพ่วง/รถสามล้อ/รถยนต์ เพื่อการเยี่ยมชมบ้านสวนมะพร้าวซึ่งมีระยะทางประมาณ 7-10 กิโลเมตร ค่าชมสวนสมาชิกวิสาหกิจชุมชนบ้านร้อยเสา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่สนใจใช้บริการที่พักค้างคืนในพื้นที่สามารถเข้าพักได้ที่ “บ้านกะลารีสอร์ทแอนด์โฮมสเตย์” ในอัตราคืนละ 250 บาทต่อคน (ไม่รวมอาหารเช้า) และราคา 350บาทต่อคน (รวมอาหารเช้า)
อย่างไรก็ตามกิจกรรมทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนWow Experience จะเป็นการนำผลการประเมินความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยบล็อกเกอร์และสื่อมวลชน นำไปสู่การปรับปรุงและยกระดับการให้บริการในเส้นทางการท่องเที่ยวและการพัฒนานักสื่อความหมายชุมชนให้มีความสมบรูณ์มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการขยายตลาดการท่องเที่ยวจากประสบการณ์ Wow Experience ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ให้กับคนในชุมชนและการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก