บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดทริปเอาใจสมาชิกรักสุขภาพ
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดทริปเอาใจสมาชิกรักสุขภาพ
สัมผัสประสบการณ์วิ่งสุดตื่นตาตื่นใจ ในมหกรรมมาราธอนระดับโลก
“บีเอ็มดับเบิลยู เบอร์ลิน มาราธอน 2017”
หนึ่งในกิจกรรมพิเศษจากโปรแกรม The Ultimate JOY Experience
ตอกย้ำไลฟ์สไตล์เหนือระดับพร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษครั้งหนึ่งในชีวิตให้สมาชิก บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ในโปรแกรม The Ultimate JOY Experience (ดิ อัลติเมท จอยเอ็กซ์พีเรียนซ์) ได้มีโอกาสตีตั๋วไปร่วมมหกรรมการวิ่งมาราธอนระดับเมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก BMW Berlin Marathon (บีเอ็มดับเบิลยู เบอร์ลิน มาราธอน) หนึ่งในสนามแข่งมาราธอนในฝันของบรรดานักวิ่งจากทั่วทุกมุมโลก
โดย บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ได้พาเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูจากเมืองไทย บินลัดฟ้าเข้าร่วมแข่งขันเพื่อสร้างสถิติมาราธอนใหม่ให้ตัวเอง พร้อมเที่ยวชมเบอร์ลิน เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก โดยก่อนวันแข่งขันมาราธอนในสนามระดับโลก ทาง บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดเวิร์กช้อปฝึกซ้อมแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้สำหรับสมาชิก โดยเชิญครูดิน-สถาวร จันทร์ผ่องศรี อดีตนักวิ่งมาราธอนทีมชาติ มาเป็นโค้ชฝึกสอนพิเศษ และวางแผนการซ้อม ร่วมกับสมาชิกแต่ละคนยาวนานกว่าสองเดือน
เศรษฐิพงศ์ อนุตรโสตถิ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เผยว่า “บีเอ็มดับเบิลยู ในฐานะสปอนเซอร์หลักที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบประสบการณ์และความภูมิใจให้ชาวไทยผู้เป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูที่หลงใหลในการวิ่ง ได้มีโอกาสวิ่งร่วมสนามเดียวกับนักวิ่งระดับโลก ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกของกองเชียร์ตลอดสองข้างทาง พร้อมชื่นชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และอีกไฮไลท์สำคัญ คือ การได้ไปเยี่ยมชมโรงงานบีเอ็มดับเบิลยูที่เมืองไลป์ซิก ซึ่งโรงงานแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก
อย่างซาฮา ฮาดิด สถาปนิกหญิงชาวอิรัก-อังกฤษ ที่ออกแบบสถานที่สำคัญของโลกมากมาย ที่สำคัญคือโรงงานนี้เป็นโรงงานที่ประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล i ซึ่งเป็นรถยนต์ต้นแบบในอนาคตที่ใช้พลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากกังหันลม 4 ต้น เพื่อใช้ในกระบวนการผลิตบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล i โดยเฉพาะ ซึ่งผู้ร่วมทริปต่างตื่นตาตื่นใจไปกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดทันสมัยที่ใช้ภายในโรงงานระดับโลก ซึ่งแพลนท์นี้สามารถผลิตรถยนต์ได้ร่วม 1,000 คันต่อวัน”
กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนจากบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่ไปร่วมมาราธอนครั้งนี้ เผยว่า “บรรยากาศของการวิ่งในรายการ บีเอ็มดับเบิลยู เบอร์ลิน มาราธอน เป็นบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะบนถนนที่เราวิ่งไปนั้น จะเจอคนไทยที่มารอเชียร์เพื่อน ๆ ของเขา ซึ่งเมื่อพวกเขาเห็นว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน เพราะผมเองใส่เสื้อที่มีเลขเก้าไทยอยู่บนหน้าอกด้านซ้าย เพื่อน ๆ ชาวไทยก็ร้องตะโกนเชียร์ให้ เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เราก็เป็นนักกีฬาที่มาจากแผ่นดินแม่เดียวกัน ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่มากในวันที่เหนื่อยล้า แต่กำลังใจและความอบอุ่นตลอดเส้นทางวิ่งนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้เราก้าวต่อเพื่อมุ่งหน้าไปยังประตูชัยบรันเดนบูร์ก อันเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของความฝันสำหรับนักวิ่งทุกคนในรายการนี้
“ผมประทับใจในความเป็นนักกีฬา และสปิริตของสมาชิกผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน ที่ช่วยกันผลักดันให้แต่ละคนไปถึงเป้าหมายได้อย่างที่ตั้งใจไว้ ซึ่งทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ไปวิ่งเพื่อทำสถิติใหม่ให้กับตัวเอง เรียกว่าเป็นประสบการณ์ที่เหนือคำบรรยายจริง ๆ ที่เราได้ร่วมวิ่งบนเส้นทางเดียวกันกับนักวิ่งมาราธอนระดับแนวหน้าที่พยายามสร้างสถิติโลก จึงนับเป็นสนามที่ท้าทายมาก และสำหรับนักวิ่งที่ยังลังเลอยู่ว่าจะเริ่มวิ่งในระยะมาราธอนได้ไหม ผมขอยกคำกล่าวที่ว่า ถ้าคุณอยากวิ่ง คุณวิ่งกิโลเดียวก็พอ เเต่ถ้าคุณอยากพบชีวิตใหม่ คุณต้องมาวิ่งมาราธอน”
นอกจากนี้เหล่านักวิ่งสมาชิก The Ultimate JOY Experience (ดิ อัลติเมท จอยเอ็กซ์พีเรียนซ์) ทั้ง 15 ชีวิต ต่างมุ่งมั่นทำลายสถิติการวิ่งมาราธอนของตัวเอง หลายคนเลือกสนามนี้เป็นการเริ่มต้นฟูลมาราธอนครั้งแรกในชีวิต และผลปรากฏว่า ส่วนใหญ่สามารถสร้างเวลาการวิ่งใหม่ให้ตัวเองและสร้างความภาคภูมิใจให้เพื่อนร่วมทริปในฐานะนักวิ่งคนไทยที่มาร่วมสนามระดับโลกด้วยกัน พร้อมแบ่งปันประสบการณ์สุดประทับใจที่ได้ร่วมมหกรรมวิ่งระดับโลกครั้งนี้
หนึ่งในนักวิ่งสาว วรวรรณ สวัสดิมงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโตเมชั่น เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ อีควิปเม้น จํากัด เผยความรู้สึกว่า “ก่อนได้เข้าร่วมกับทริปนี้ความคาดหวังคือ การได้ไปวิ่ง และสัมผัสบรรยากาศการวิ่งมาราธอนที่ตัวเองใฝ่ฝัน ซึ่งพอได้เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์ค ช็อปครั้งแรกกับครูดิน ก็พบถึงความพิเศษของการมีโค้ช การมีโปรแกรมซ้อมและติดตามการซ้อม เพื่อให้เราบรรลุเป้าหมายได้อย่างสวยงาม ทําให้การวิ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก ยิ่งเพิ่มความรู้สึกประทับใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานวิ่งมาราธอนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก และให้ความรู้สึกงดงามที่ยากจะบรรยายตลอดระยะทางการวิ่ง ทั้งกองเชียร์ สถานที่ที่วิ่งผ่าน น้ำใจของผู้คนที่ร่วมเชียร์ ให้กําลังใจนักวิ่ง แม้แต่เด็กตัวน้อยๆ ที่ออกมายืนเปียกฝน ยื่นมือมาให้กําลังใจนักวิ่ง
อาหารสําหรับนักวิ่ง ที่มีบริการตลอดทาง จนรูปวิ่งที่ได้มา มีแต่รูปกินกับกิน จนเรียกได้ว่า นักวิ่งสายกิน (หัวเราะ) อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือ การดูแลที่ดีจากทางบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ตั้งแต่เริ่มเดินทาง แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่าง แท็กกระเป๋าแสนสวย, ห้องพักและการบริการที่สะดวกสบาย, การได้รับประทานอาหารในร้านระดับมิชลิน รวมถึงทีมงานที่ตามไปดักเชียร์นักวิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย กว่าจะหาจุดที่จะวิ่งผ่าน เวลาคาดการณ์ที่จะมาถึงจุดที่รอ แม้กระทั่งการตะโกนเรียกเมื่อเจอตัว บางทีนักวิ่งอาจไม่ได้ยิน แต่สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ ทําให้นักวิ่งมีกําลังใจ มีพลังงานเหลือล้น และที่สําคัญ คือมิตรภาพในครอบครัวนักวิ่ง ครั้งหน้าหากมีกิจกรรมดี ๆ แบบนี้อีกครั้ง ก็ตั้งใจว่าจะไม่พลาดมาและร่วมด้วยอย่างแน่นอนค่ะ”
ส่วนนักวิ่งหนุ่ม วรวิทย์ อรุณรัตน์ กรรมการผู้จัดการ หจก. K.W.Information Technology กล่าวถึงการวิ่งมาราธอนครั้งแรกในชีวิตว่า “เป็นรายการวิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสมกับที่นักวิ่งทั่วโลกอยากไปวิ่งและเป็นมาราธอนรายการแรกของตัวเอง สิ่งที่สำคัญคือเหมือนเราได้กล่าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองที่คิดว่าไม่สามารถทำได้ และสามารถจบมาราธอนแรกในชีวิตด้วยเวลาต่ำกว่า 5 ชั่วโมงตามที่ตั้งใจไว้แบบไม่บอบช้ำ และประทับใจมิตรภาพสมาชิกที่ร่วมทริปไปทุกท่าน และบริการที่สุดประทับใจที่ทาง The Ultimate JOY Experience (ดิ อัลติเมท จอยเอ็กซ์พีเรียนซ์) มอบให้สมาชิกทุกท่าน และนอกเหนือจากการได้วิ่งเบอร์ลิน มาราธอนแล้ว
ระหว่างที่ผมซ้อมวิ่งมาราธอน ภรรยาก็ได้เริ่มมาวิ่งด้วย ทำให้เราได้ออกกำลังกายด้วยกัน ถือเป็นโบนัสชิ้นพิเศษสำหรับผมเลยทีเดียวและนอกจากมิตรภาพที่งดงามตลอดการเดินทางของคณะที่ไปวิ่งด้วยกันครั้งนี้แล้ว การได้ไปเยี่ยมชมโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู ถือเป็นอีกกิจกรรมที่ประทับใจ ทำให้ได้เห็นนวัตกรรมของรถบีเอ็มดับเบิลยูที่ได้ออกแบบให้กับลูกค้าทั่วโลกได้ใช้ รวมทั้งสัมผัสความทันสมัยและสมรรถนะของรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง สมกับที่เราเองก็เป็นแฟนคลับบีเอ็มดับเบิลยูเช่นกันครับ”
โปรแกรม The Ultimate JOY Experience (ดิ อัลติเมท จอยเอ็กซ์พีเรียนซ์)เป็นโปรแกรมสิทธิประโยชน์ใหม่สำหรับเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูทุกคนเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์แห่งความสุขในทุก ๆ ด้านของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมการท่องเที่ยวในต่างแดนกับสุดยอดประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต พร้อมทั้งกิจกรรมภายในประเทศกับการสร้างประสบการณ์สุดพิเศษที่ยากจะมีใครได้สัมผัส และ Everyday Privilege สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตเหนือระดับ ทั้งส่วนลด ของขวัญ พิเศษจากร้านอาหาร โรงแรม และศูนย์บริการชั้นนำต่าง ๆ ทั่วประเทศ
สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษเฉพาะเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ด้วยการสมัครเข้าร่วม The Ultimate JOY Experience ที่จะมอบประสบการณ์สุดวิเศษทุกย่างก้าวตลอดทั้งปี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และรับสิทธิพิเศษจาก The Ultimate JOY Experienceได้ที่ www.BMWultimateJOY.com
# # # # #
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เราผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และโรลส์-รอยซ์ และมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู โดยมีเครือข่ายการผลิต 31 แห่งใน 14 ประเทศ อีกทั้งยังมีเครือข่ายผู้จำหน่ายและบริการมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
ในปีพ.ศ. 2559 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มียอดขายรถยนต์ 2.367 ล้านคัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 145,000 คันทั่วโลก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีพนักงานทั้งหมด 122,244 คนทั่วโลก
ความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปได้รับการขับเคลื่อนจากพลังแห่งวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี สร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และให้บริการกับลูกค้าอย่างดีที่สุด นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยการคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในทุกผลิตภัณฑ์และในทุกขั้นตอนการผลิตอีกด้วย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นสาขาของ BMW AG ประเทศเยอรมนี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2541 โดยประกอบไปด้วยสามบริษัท ได้แก่ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการขายและการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านการผลิตรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ภายใต้แบรนด์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และบริษัทบีเอ็มดับเบิลยู ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบด้านบริการทางการเงินสำหรับผู้จำหน่ายรถยนต์และลูกค้าบุคคล
ในปี 2558 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องด้วยสถิติยอดขายประจำปีสูงสุดของทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด กับยอดส่งมอบรวมกว่า 10,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ มียอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ จำนวน 8,768 คัน เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 1,280 คัน เพิ่มขึ้น 83 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมเป็นสถิติยอดส่งมอบของทั้งสามแบรนด์ที่ 10,048 คันในปี 2558 ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และนับเป็นการสร้างสถิติแห่งความสำเร็จของแต่ละแบรนด์ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นเครื่องสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่มีต่อตลาดในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะตลาดประเทศไทย ว่าเป็นตลาดที่สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของ สถานที่ตั้ง ฐานการผลิตที่แข็งแกร่ง และพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านยนตรกรรม ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการประกอบยนตรกรรมของบีเอ็มดับเบิลยูในภูมิภาคอาเซียน สำหรับในปี 2559 นี้ จะมีการลงทุนเพิ่มอีก 488 ล้านบาท เพิ่มเติมจากยอดเงินลงทุนที่ผ่านมาทั้งสิ้นกว่า 3.7 พันล้านบาท เพื่อรองรับการขยายกระบวนการประกอบภายในโรงงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ สืบเนื่องจากการจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตในประเทศและเพื่อส่งออก คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี บีเอ็มดับเบิลยูจึงเตรียมจัดตั้งสำนักงานจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ขึ้นในประเทศไทยด้วย เพื่อจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากซัพพลายเออร์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเครือข่ายการผลิตของบีเอ็มดับเบิลยู 31 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก
ในปี 2555 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้จับมือกับพันธมิตรเพื่อนำแนวคิดของระบบการศีกษาแบบทวิภาคมาปรับใช้งานในประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือกับหอการค้าไทยเยอรมัน (GTCC) ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) จนเกิดเป็นโครงการการศึกษาระบบทวิภาคีเยอรมัน-ไทย (German-Thai Dual Excellence Education (GTDEE) ซึ่งอยู่ภายใต้ขอบเขตของโครงการ BMW Service Apprentice Program
และมีจุดมุ่งหมายเพื่ออบรมความรู้และฝึกฝนทักษะในสายงานด้านช่างเทคนิคให้แก่นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งนอกจากการเรียนรู้ด้านทฤษฎีแล้ว ยังรวมถึงการอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรมของบีเอ็มดับเบิลยู และร่วมปฏิบัติงานกับช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญจากผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ ความร่วมมือในโครงการดังกล่าวนี้ได้ช่วยให้เกิด การพัฒนาความสามารถของนักศึกษาให้เติบโตต่อยอดไปสู่การสร้างแรงงานฝีมือที่เปี่ยมด้วยทักษะ พร้อมร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านศูนย์กลางการผลิตยนตรกรรมระดับโลก
# # # #
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
วศินี อ่องจริต 086-559-9198, กัณฑิมา วรรณรัตน์ 087-337-7788
บริษัท พับบลิค ฮิต จำกัด โทร.02-252-5699 แฟ็กซ์. 02-252-5698