5 สมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร (unbearable)

5 สมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร (unbearable)

 

 

 

 

เรื่อง : หมอชัย


5 สมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร (unbearable)

 

สวัสดีครับ วันนี้”หมอชัย”จะมาเนะนำสมุนไพร 5 อย่างซึ่งเมื่อทานแล้วจะช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารให้หายขาดได้ "โรคกระเพาะ" หรือโรคแผลในกระเพาะอาหาร หมายถึง แผลที่เกิดขึ้นในเยื่อบุทางเดินอาหารส่วนที่สัมผัสกับน้ำย่อย มักมีอาการปวดแสบ ปวดตื้อ ปวดเสียด หรือจุกแน่น ตรงบริเวณใต้ลิ้นปี่ อาการปวดเหล่านี้ เป็นได้ทั้งเวลาก่อนกินอาหาร หรือหลังกินอาหารใหม่ๆ และเวลาท้องว่าง บางคนอาจเป็นๆ หายๆ เวลาเป็นมักจะปวดนานครั้งละ 15-30 นาที วันละหลายครั้งตามมื้ออาหาร อาการปวดจะลดลงถ้าได้กินข้าว ดื่มน้ำ ดื่มนม หรือกินยาลดกรด

1.ขมิ้นชัน (sun)
ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง การศึกษาพบว่าขมิ้น ไม่มีพิษเฉียบพลันและไม่มีผลในด้านก่อกลายพันธุ์ และในการวิจัยทางคลินิกของ ฉวีวรรณ พฤกษ์สุนันท์และคณะ (2529) ได้ศึกษาเคมีเลือดผู้ป่วยที่รับการ ทดลองจำนวน 30 คน ก่อนและหลังรับประทานขมิ้นติดต่อกันนาน 4 สัปดาห์ ไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในผลเคมีเลือดที่บ่งถึงการตรวจหน้าที่ตับและไต และฮีมาโตโลยี ส่วนผลแทรกแซง พบอาการท้องผูก ราย แพ้ยามีผื่นที่ผิวหนัง 2 ราย

วิธีการใช้ขมิ้นรักษาโรคกระเพาะ
ขมิ้นใช้รักษาโรคกระเพาะอาหารโดยการนำเหง้าแก่สดล้างให้สะอาด (ไม่ต้องปอกเปลือก) หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตากแดดจัดสัก 1-2 วัน บดให้ละเอียด ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน หรือบรรจุแคปซูล เก็บไว้ในขวดสะอาดและมิดชิด รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน บางคนรับประทานขมิ้นแล้วอาจมีอาการแพ้ขมิ้น เช่นคลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดหัวนอนไม่หลับ เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดยาและเปลี่ยนไปใช้ยาชนิดอื่นแทน

2.กล้วยน้ำว้า (sun)
วิธีใช้กล้วยรักษาโรคกระเพาอาหาร
นำกล้วยน้ำว้าดิบฝานเป็นแว่นตากแดดประมาณ 2 วัน หรืออบให้แห้งในอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส และบดเป็นผง วิธีรับประทานโดยการนำผงกล้วยดิบครั้งละครึ่งถึงหนึ่งผล ชงน้ำหรือผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ดื่มหรือนำผงกล้วยดิบมาปั้นลูกกลอน รับประทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหาร และก่อนนอน รับประทานแล้วอาจมีอาการท้องอืดเฟ้อ ป้องกันได้โดยใช้ร่วมกับยาขับลม เช่น น้ำขิง พริกไทย เป็นต้น

3.ว่านหางจระเข้ (sun)
ใช้ใบสดที่เพิ่งตัดออกจากต้น นำมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกส่วนที่มีสีเขียวออกให้หมดเหลือแต่วุ้นใส หากมียางสีเหลืองติดที่วุ้นให้ล้างออกก่อน หั่นวุ้นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 3 นิ้ว ล้างให้สะอากอีกครั้ง กินวันละ 2 เวลา ก่อนอาหารเช้า เย็น

4.กระเจี๊ยบเขียว (sun)
กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้ลุกลาม รักษาความดันให้เป็นปกติ เป็นยาบำรุงสมอง มีสรรพคุณเป็นยาระบายและสามารถแก้โรคพยาธิตัวจี๊ดได้ด้วย แต่ต้องรับประทานติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน วิธีใช้กระเจี๊ยบเขียวรักษาโรคกระเพาะอาหารใช้ผักลวกกินน้ำพริกทุกวัน เมือกลื่นๆ ในผลกระเจี๊ยบเขียว ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารได้

5.หัวปลี (sun)
หัวปลี ถือเป็นอาหารบำรุงน้ำนมของผู้หญิงที่กำลังมีบุตร ดังนั้นคุณแม่ลูกอ่อนที่ให้นมลูกก็ควรจะกินอาหารที่มีหัวปลีเป็นส่วนประกอบ ให้มากๆ ระหว่างที่ยังให้นมลูก และนอกจากนั้นก็ยังมีแร่ธาตุอย่างธาตุเหล็กอยู่มากอีกด้วย และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผลวิจัยพบว่าหัวปลีนั้นยังช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารได้ด้วย โดยการทดลองนั้นพบว่าการใช้สารสกัดจากหัวปลีสามารถป้องกันการเกิดแผลใน กระเพาะอาหารได้มากถึง ๔๗.๘๘-๘๗.๖๓% โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกิดแผลในกระเพาะอาหารจากการดื่มสุราอยู่เป็นประจำ

วิธีใช้หัวปลีเขียวรักษาโรคกระเพาะอาหาร นำปลีกล้วยน้ำว้ามาเผา แล้วบีบเอาแต่น้ำ ได้ประมาณครึ่งแก้ว ดื่มก่อนอาหาร รสชาติฝาดเฝื่อน กินยากมาก แต่มีตนกินติดกันประมาณ 3 วัน อาการปวดกระเพาะที่อักเสบเรื้อรังมานานหายสนิท

ถ้าเพื่อนๆคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์กับคนอื่นๆ อย่าลืมแชร์เเละเผยเเพร่ต่อด้วยนะครับ เพราะจะเป็นบุญกุศลต่อตัวท่าน ต่อคนให้สูตร และต่อคนที่เจ็บป่วยด้วยครับ ขอบคุณครับ (moon grin)

 

“หมอชัย” นายเเพทย์ ชัยวัฒน์ เป็นอายุรเเพทย์ ตอนนี้ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนเเห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งเป็นผู้ที่ชอบค้นคว้าเรื่องการรักษาด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน จึงความรู้ดีๆมาเผยเเพร๋ให้เป็นวิทยาทานตามสื่อต่างๆ ผู้อ่านสามารถ “กด" เพิ่มเพื่อน"เพื่อติดตามบทความสุขภาพดีๆจาก"หมอชัย"ได้ที่..ไลน์ไอดี : @reme (ใส่ @ ข้างหน้า) หรือเเอดไลน์อัตโนมัติ คลิ๊ก>> line.me/ti/p/%40saw5630y