PM 2.5 อันตรายที่ไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วย (ทางเดินหาย) ใจ

PM 2.5 อันตรายที่ไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วย (ทางเดินหาย) ใจ

 

 

 

PM 2.5 อันตรายที่ไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วย (ทางเดินหาย) ใจ

 

 

โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ชี้ปัญหา PM 2.5 อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ แนะรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เช็คก่อนชัวร์กว่า เลือกตรวจสุขภาพประจำปีกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปอดและระบบทางเดินหายใจ ที่ศูนย์ตรวจสุขภาพ (PERSONALIZED WELLNESS CHECK-UP CENTER) โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง


นายแพทย์นพสิทธิ์ สุวรรณชวทัต ผู้อำนวยการศูนย์ตรวจสุขภาพ (PERSONALIZED WELLNESS CHECK-UP CENTER) โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง กล่าวว่า ตัวเลขดัชนีคุณภาพอากาศ (AIR QUALITY INDEX: AQI) ที่สูงขึ้นเกินกว่าค่ามาตรฐานของอากาศที่ปลอดภัยต่อการหายใจในช่วงนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องและยาวนาน จนกลายเป็นวิกฤตสาธารณสุขในประเทศไทย ทำให้ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหนก็มองเห็นความขมุกขมัวเต็มท้องฟ้า อันเกิดจาก “ฝุ่นจิ๋ว” หรือ “ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน” (PM2.5) ที่มาจากกระบวนการอุตสาหกรรม การเผาไหม้จากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร และ ไฟป่า


“วิกฤตนี้เป็นเรื่องใหม่ที่คนไทยตื่นตัวมากขึ้น เพราะประสบปัญหานานนับเดือน จนเกิดอาการเจ็บป่วยมากบ้างน้อยบ้างตามภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มี แม้ว่าภาครัฐและเอกชนหลายฝ่ายต่างพยายามหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหา ประชาชนเองก็พยายามหาวิธีป้องกันตัวเองจากมลภาวะทางอากาศครั้งนี้ แต่ก็เป็นเพียงการบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น เพราะขนาดอนุภาคที่เล็กมากของฝุ่น PM 2.5 สามารถผ่านเข้าไปในร่างกายเราได้ลึกถึงถุงลมปอด บางส่วนสามารถรอดผ่านผนังถุงลมเข้าเส้นเลือดฝอยล่องลอยอยู่ในกระแสเลือด และกระจายตัวแทรกซึมไปทั่วร่างกาย ส่งผลรบกวนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ ปอด หัวใจ รวมถึงระบบประสาท และสมองอีกด้วย”

 


นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตกว่า 6 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งมีสาเหตุจากมลพิษทางอากาศที่ร้ายแรง และสารพิษที่อยู่ในฝุ่น PM 2.5 นี้ ก็นำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรังร้ายแรง โรคเกี่ยวกับหัวใจ และโรคมะเร็งได้ ในช่วงนี้ประชาชนจึงต้องพยายามดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพราะเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการพบเจอกับฝุ่นละอองจิ๋ว และการสวมหน้ากากอนามัยก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% และอีกหนึ่งวิธีที่จะลดปัญหาสุขภาพจากมลภาวะทางอากาศในครั้งนี้ คือ การหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพราะนอกจากจะเป็นการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายของเราแล้ว หากเกิดปัญหาสุขภาพขึ้นการตรวจพบอาการผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มแรกย่อมนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที


ในสถานการณ์ที่มลพิษทางอากาศ PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์ที่มีอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่ต้องอยู่กลางแจ้งเป็นระยะเวลายาวนาน ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด เช่น โรคหอบหืด, โรคหัวใจ รวมไปถึงบุคคลทั่วไป สามารถเลือกตรวจสุขภาพระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาทและสมองได้อีกด้วย


นอกจากนี้ โปรแกรมตรวจสุขภาพที่ศูนย์ตรวจสุขภาพ (Personalized Wellness Check-up Center) โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ยังครอบคลุมการตรวจหู คอ จมูก และการตรวจตา ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีการวินิจฉัยคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiographs) เครื่องตรวจสมรรถภาพการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Ankle Brachial Index : ABI) และห้องเก็บเสียงสำหรับตรวจสมรรถภาพการได้ยิน


“ด้วยความเข้าใจถึงภาวะความเสี่ยงและสุขภาพร่างกายที่แตกต่างกัน ศูนย์ตรวจสุขภาพ Personalized Wellness Check-up Center ซึ่งเป็น 1 ในศูนย์การแพทย์เฉพาะทางชั้นนำระดับ 6 ดาว ของโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ที่สามารถตรวจเช็คสุขภาพแบบเจาะจงเฉพาะบุคคล ครอบคลุมหลากหลายมิติภายในที่เดียว เพื่อวิเคราะห์สุขภาพและนำเสนอแผนการดูแลรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้รับบริการแต่ละคนมากที่สุด ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ บุคลากรผู้ชำนาญการ และเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีการวินิจฉัยคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thonburibamrungmuang.com หรือโทรสอบถามที่เบอร์ 02-220-7999”