อสังหาฯ ไทยยังทรงตัว พบปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นตลาด แนะรัฐเปิดโอกาสให้ตลาดบ้านมือสอง

อสังหาฯ ไทยยังทรงตัว พบปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นตลาด แนะรัฐเปิดโอกาสให้ตลาดบ้านมือสอง

 

 

 

 
 
 
อสังหาฯ ไทยยังทรงตัว พบปัจจัยบวกช่วยกระตุ้นตลาด
แนะรัฐเปิดโอกาสให้ตลาดบ้านมือสอง
 
 
 
 
เน็กซัสฯ เปิดบทวิเคราะห์ตลาดอสังหาฯ ไทย พบยังอยู่ในภาวะทรงตัว เผยปัจจัยลบตลาดจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน มาตรการ LTV ยังออกฤทธิ์ ส่งผลผู้ประกอบการเร่งปรับตัวครึ่งปีหลัง ด้านนักลงทุนไทยต่างชาติเบนเข็มลงทุนธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ระยะยาว แต่ยังพบปัจจัยบวกจากการลดอัตราดอกเบี้ย-ความต่อเนื่องด้านนโยบายของรัฐบาลขั้วเดิม แนะรัฐลดค่าธรรมเนียมการโอน-ภาษีธุรกิจเฉพาะ พร้อมเปิดโอกาสบ้านมือสอง กระตุ้นตลาดช่วงที่เหลือของปี
 
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (Mrs. Nalinrat Chareonsuphong, Managing Director of Nexus Property Marketing Company Limited (NEXUS) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาคาดว่า ในช่วงที่เหลือของปีตลาดยังคงเผชิญภาวะความไม่แน่นอน ซึ่งหากดูในภาพรวมของเศรษฐกิจโลก เรื่องของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้จีนต้องลดค่าเงินหยวน และกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนจีนในตลาดต่างชาติ รวมถึงประเทศไทยด้วย อีกทั้งความไม่สงบทางการเมืองในฮ่องกงทำให้เกิดภาวะชะงักงันในการลงทุนในไทยด้วยเช่นกัน ประกอบกับค่าเงินบาทของไทยที่แข็งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อสังหาริมทรัพย์ไทยมีราคาสูงขึ้น แต่ด้วยตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย มีกลุ่มผู้บริโภคหลักคือผู้บริโภคภายในประเทศ ทำให้ประเมินได้ว่าผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกอาจมีผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่เกิน 10-15% ของตลาดที่อยู่อาศัยรวมเท่านั้น แม้จะไม่ส่งผลต่อภาพรวมตลาดแต่มีผลกระทบต่อตลาดทุนไทยแน่นอน
 
นอกจากปัจจัยลบภายนอกประเทศแล้ว ปัจจัยภายในประเทศอย่างมาตราการ LTV และหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นก็ยังเป็นปัจจัยลบที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากตั้งแต่รัฐบาลประกาศว่าจะมีการใช้มาตราการ LTV เพื่อมาสกัดการเก็งกำไรในกลุ่มนักลงทุน (โดยมีผลบังคับใช้ 1 เมษายนที่ผ่านมา) ผู้บริโภคต่างก็เร่งก่อหนี้ เพื่อให้ทันก่อนที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้เกิดการหดตัวลงของการอนุมัติสินเชื่อนับตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งหากไม่มีการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีตลาดอสังหาริมทรัพย์จะไม่สามารถเติบโตได้เหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
 
เมื่อมาพิจารณาในส่วนของมาตรการ LTV พบว่า นับตั้งแต่มาตราการมีผลบังคับใช้ตลาดมีการชะลอตัวลงในทุก Sector ไม่ว่าจะเป็น บ้านหรือคอนโดมิเนียมในทุกระดับราคาเนื่องจากผู้ซื้อต้องพิจารณาถึงความสามารถในการกู้ของตนมากขึ้น ซึ่งก็เป็นสาเหตุให้ผู้ประกอบการรายใหญ่-รายกลาง ต่างออกมาประกาศผลกระทบจากมาตรการที่มีต่อธุรกิจ และเรียกร้องให้มีการผ่อนปรนนโยบายดังกล่าว หลายโครงการที่เปิดตัวในไตรมาส 2/2562 มีการปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดและมุ่งหวังยอดขายจากตลาดผู้ซื้อจริงมากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ยังคงมีปัจจัยบวกมาสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการโดยตรงกล่าวคือ สามารถยื่นขอสินเชื่อโดยมีต้นทุนที่ต่ำลง ในขณะที่ผู้กู้รายย่อยก็สามารถยื่นขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเช่นกัน อีกทั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งยังเป็นรัฐบาลขั้วเดิม ทำให้เกิดความต่อเนื่องในการสานต่อนโยบายต่างๆ ทั้งทางด้านการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ระบบขนส่งมวลชน โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ
 
“แม้ว่าตลาดจะมีปัจจัยบวก แต่ก็ยังส่งผลดีกับตลาดอสังหาฯในสัดส่วนที่น้อยกว่าปัจจัยลบ ดังนั้นจึงอยากร้องขอรัฐบาลชุดนี้ให้ช่วยกำหนดมาตรการช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงที่เหลือของปี เช่น การพิจารณาลดค่าธรรมเนียมการโอนและภาษีธุรกิจเฉพาะให้กับอสังหาฯที่พร้อมโอนในปีนี้ เป็นการช่วยกระตุ้นให้ผู้มีกำลังซื้อที่ผ่านเงื่อนไข LTV สามารถมีต้นทุนการซื้อที่ต่ำลง ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถระบายสินค้าที่เสร็จแล้วได้ โดยกำหนดให้สามารถลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวในอสังหาฯทุกระดับราคา ตลอดจนการให้สิทธิพิเศษกับอสังหาริมทรัพย์มือสองบ้าง เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองของไทย ยังคงไม่เติบโตมากทั้งๆ ที่เป็นโอกาสให้ผู้ซื้อได้ซื้ออสังหาฯคุณภาพดี ที่มีขนาดใหญ่กว่าสินค้าใหม่ในปัจจุบัน ในราคาใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน บนทำเลที่มีศักยภาพ ก็น่าจะช่วยให้ตลาดมีการขยายตัวได้ดีขึ้น” นางนลินรัตน์ กล่าว
 
สำหรับทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีคาดว่า หลายๆ บริษัทต้องเร่งระบายสินค้าที่มีอยู่ โดยวิเคราะห์จากความต้องการที่แท้จริง เพราะการพึ่งตลาดต่างชาติอาจไม่ได้หวือหวาเหมือนเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมาโดยเฉพาะตลาดจีนและฮ่องกง และการหันไปปรับแผนการลงทุนสู่ธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ระยะยาวมากขึ้น เช่น การลงทุนในธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงาน หรือลงทุนในต่างประเทศ การขายที่ดินบางแปลงที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกจากบริษัท หรือแม้แต่ในที่ดินที่ซื้อมาแล้วก็อาจปรับแผนพัฒนาโครงการจากตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการขายเป็นตลาดเพื่อการลงทุนระยะยาวมากขึ้น
 
 
Thai Property Remains Steady,
Government Should Support Second hand Market
 
NEXUS points out the fluctuation of the global economy, lower confidence of investors and LTV measures have affected the Thai property. Developers need to adjust their investment strategies in the second half of this year while both local and foreign investors focus more on the recurring income sector. However, there are are some positive factors including the reduction of policy interest rate and the policy continue from previous government. Reducion of transfer fee and specific business tax is recommended to boost the demand in the last four months of 2019.
 
Mrs. Nalinrat Chareonsuphong, Managing Director of Nexus Property Marketing Company Limited (NEXUS), said that we analyzed the data in the property market since the begining of this year and found that the market has to cope with uncertainties for the remaining of this year. Trade war between China and the United States has caused the RMB depreciation, which affects overseas Chinese investment including Thailand. While political chaos in Hong Kong also affect the investment sentiment in Thailand. In addition, baht appreciation makes the property price higher for foreigners. However, the main buyers of Thai property are local people while the global market might affect only 10-15% of the overall property market in Thailand. Although it does not impact much on the property market, it definitely impacts on Thai capital market.
 
In addition to those global negative factors, there are some domestic factors including LTV measure and higher household debt that should be awared. Since the government announced that they would launch the LTV measure (effective since April this year) to prevent the speculation from real estate investors, consumers had spiralled up their mortgage before the measure was effective. This situation has resulted in decreasing loan approval since the second quarter of this year. Unless this measure is eased, it forecasts that the property business might not be able to grow at the same pace as it did over the past few years.
 
Since LTV measure was effective, it has found that residential property sector in all price ranges has been slow down because buyers have to reconsider their ability to retain mortgages. This is the reason that mid-sized and large-sized developers have revealed the impact from LTV measures and called for the government to alleviate such measure. To cope with this issue, a lot of projects that were launched in second quarter this year have adjusted their marketing strategies and targeted more sales from real buyers.
 
However, some positive factors remain in the market, announcing from Bank of Thailand to cut the policy interest rate by 0.25%, causes a positive effect for the developers because they can apply for loan with lower investment cost while dividual borrowers can retain mortgage at the lower rate. Another positive factor is the government from the election is the same group of the previous military government, so they can carry on their investment policies including infrastructure, mass transit and special economic zone.
 
“Although the market has some positive factors, the impact from negative factors are more solid. Therefore, some measures to boost the demand in the market for the remaining period of this year are advised. For example, the reduction of property transfer fee and specific business tax for the projects that are ready to transfer this year can help reducing cost for those buyers who meet LTV condition. The government can also give more discount for such fees to help the developers reduce their inventories as well as consider the privileges to the second hand or resell market. In Bangkok, the second hand market is not growing as much as it should be although buyers can get the property in larger size than the new projects at the same price and same location. If the government issues these measures, the market should be resumed better,” said Mrs. Nalinrat.
 
For the direction of property market for the rest of this year, it forecasts that the developers will speed up releasing their inventory by analyzing from the real demand. The demand from foreigners might not be as high as the past two to three years particularly from the Chinese and Hongkong. Developers tend to shift their investment into the long-term recurring income property businesses, for example, hotels, office buildings and investment in overseas. The developers might sell some lands that do not generate the income for the company or adjust their plan from residential development to those recurring income-based projects.