บางจากฯ ร่วมกับกสิกรไทย ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อ้างอิง Carbon Credit Linked ครั้งแรกในประเทศ

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เดินหน้าส่งเสริมธุรกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการอ้างอิงการซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต หรือ Carbon Credit Linked FX Forward Contract ครั้งแรกในประเทศไทย

นางสาวภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บางจากฯ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน  การร่วมทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่มีการอ้างอิงการซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต หรือ Carbon Credit Linked FX Forward กับธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรพันธมิตรร่วมก่อตั้ง Carbon Markets Club กับบางจากฯ นับเป็นอีกความสำเร็จในการร่วมกันผลักดันตลาดการซื้อขายคาร์บอนเครดิต เชื่อว่าธุรกรรมนี้จะช่วยส่งเสริมให้การซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตเป็นที่รู้จักมากขึ้น และช่วยให้ภาคส่วนต่างๆ ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมยังช่วยพัฒนาให้เกิดนวัตธรรมทางการเงินใหม่ ๆ ในตลาดการเงินของประเทศไทยอีกด้วย”

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้มีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงที่อ้างอิงเป้าหมายด้านการสนับสนุนกิจกรรมด้าน ESG ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งนับเป็นธุรกรรมที่ตอบโจทย์การดำเนินงานของธนาคารบนหลักการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ที่พร้อมจะสนับสนุนลูกค้า ด้วยการเป็นผู้บุกเบิกการเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี ในครั้งนี้ธนาคารต่อยอดการสร้างนวัตกรรมทางการเงินที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก โดยการออกสัญญาป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่อ้างอิงเป้าหมายด้านการสนับสนุนการทำธุรกรรมคาร์บอนเครดิตของคู่สัญญา “Carbon Credit Linked FX Forward Contract” ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยหากคู่สัญญามีธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับอัตราแลกเปลี่ยนตามที่กำหนด นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตธรรมการทางเงินในฐานะผู้นำด้านธุรกิจตลาดเงินและตลาดทุนชั้นนำของประเทศ ซึ่งธนาคารพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมสภาพคล่องของตลาดคาร์บอนเครดิตในไทยเพื่อให้ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิตให้เป็นที่รู้จักสำหรับผู้ประกอบการและประชาชนมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกและร่วมนำพาให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่ Net Zero อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ บางจากฯ มีการดำเนินงานด้านบริหารจัดการและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยกำหนดแผนงาน BCP316 NET เพื่อบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ในปี พ.ศ. 2593 ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงาน การดูดซับคาร์บอนทางธรรมชาติ และการเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดและนวัตกรรมสีเขียวในธุรกิจ รวมถึงการสร้างระบบนิเวศสำหรับสังคมคาร์บอนต่ำ โดยบางจากฯ ร่วมกับพันธมิตร รวม 11 องค์กร ได้ก่อตั้ง Carbon Markets Club ในปี 2564 เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต โดยปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 530 รายทั้งประเภทองค์กรและบุคคล มีการซื้อขายคาร์บอนเครดิต TVERs และ Renewable Energy Certificates (RECs)  รวมกว่า 1 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และล่าสุดได้พัฒนาเครื่องมือประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกิจกรรมขององค์กร (Carbon Footprint Tracking for Organization: CFO) เพื่อให้สมาชิกทดลองใช้งาน

Bangchak Teams Up with KASIKORNBANK to Sign a Pioneering Carbon Credit Linked FX Forward Contract. Marking the First Such Agreement of Its Kind in Thailand

Bangchak Corporation Public Company Limited is taking a proactive step to promote Carbon Credit transactions in conjunction with KASIKORNBANK. This marks a significant milestone as Thailand’s first Carbon Credit Linked FX Forward Contract.

Phatpuree Chinkulkitnivat, Senior Executive Vice President, Accounting and Finance, Bangchak Corporation Public Company Limited stated “Bangchak is committed to sustainable innovative business development. Entering into the Carbon Credit Linked FX Forward Contract with KASIKORNBANK, a founding member of Carbon Markets Club along with Bangchak, is another achievement in the collaborative effort to drive the carbon credit trading market. This transaction will not only broaden the reach of carbon credit trading, but also serves as a catalyst for various sectors in the mission to reduce greenhouse gases, fostering  new financial innovations in the Thai financial market.”

Thiti Tantikulanan, Capital Markets Business Division Head, KASIKORNBANK PUBLIC COMPANY LIMITED revealed that KASIKORNBANK or KBank has been providing ESG-linked Hedging Instruments since 2021, in alignment with our principle of a Bank of Sustainability. The Bank stands ready to support our customers by being a pioneer in offering environmentally and socially friendly financial products and services, while adhering to corporate governance principles. In this instance, the Bank moved a step further with our financial innovation to support participation in the greenhouse gas reduction activities through the successful launch of Thailand’s first “Carbon Credit Linked FX Forward Contract.” Such contract stipulates that when the customer engages in qualified carbon credit activities, the contracted exchange rate will be executed. This reaffirms the Bank’s commitment to continue launching innovative financial product to demonstrate our position  as a leader of the Treasury and Capital Markets Business in the country. KBank stands ready to enhance the liquidity of  Thai Carbon Credit Market which help increase public awareness of carbon credits related transactions, with the intended outcome of stimulating greenhouse gas reduction and driving Thailand towards Net Zero in a sustainable manner.

Bangchak had implemented greenhouse gas management and reduction measures by setting the BCP 316 NET plan. It aims to achieve the goal of Net Zero GHG Emissions by 2050, through greenhouse gas reductions from efficiency and process improvement, nature-based carbon  sequestration, business transition towards  clean energy and greenovative businesses. This also includes the creation of a low-carbon ecosystem, whereby Bangchak along with 10 other founding member organizations, established the Carbon Markets Club to promote carbon credit trading. There are currently more than 530 members, including organizations and individuals It facilitated the trade of carbon credits, TVERs, and Renewable Energy Certificates (RECs) totaling more than one million tons of carbon dioxide equivalent, and recently launched the Carbon Footprint Tracking for Organizations (CFO) for its members to test and utilize.