วิริยะประกันภัยประกาศกลยุทธ์ปี62 “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย”

วิริยะประกันภัยประกาศกลยุทธ์ปี62 “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย”

 

 

 

 

 

วิริยะประกันภัยประกาศกลยุทธ์ปี62 “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย”

 

 

วิริยะประกันภัยแจงทิศทางการดำเนินงานปี 62 ด้วยกลยุทธ์ “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย” มุ่งเน้นใน 2 แนวทางหลัก เพิ่มประสิทธิภาพงานด้านสินไหมทดแทน “พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาเครือข่ายการให้บริการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพให้หลากหลายเพื่อคนไทยได้เข้าถึงกันถ้วนหน้า” เผยเป้าหมายเติบโตต้องโตไม่น้อยกว่าธุรกิจในภาพรวมหรือประมาณร้อยละ 5 ขณะที่ผลประกอบการปี 61 เป็นไปตามเป้าโต 4.86 % มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง 37,920 ล้านบาท โดยมีผลงานด้านรับประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์โดดเด่นที่สุด โตถึง 11.25% ส่งผลให้สัดส่วนงานรับประกันเพิ่มขึ้นถึง 10% เป็นปีแรก ขณะที่งานด้านรับประกันภัยรถยนต์ยังครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 32 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 24.90% มีเบี้ยประกันภัยรถยนต์รวม 34,093 ล้านบาท

 


นายอมร ทองธิว กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2562 นี้นับเป็นปีที่ท้าท้ายอีกปีหนึ่ง ทั้งจากหลายปัจจัยที่เป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม และปัจจัยจากภายใน โดยเฉพาะภาวะการแข่งขันของธุรกิจประกันวินาศภัยที่ยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่กระนั้นบริษัทฯ ได้มีการวางแผนและเตรียมความพร้อมในการรับมือไว้อย่างรอบคอบ และได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินไว้ว่า บริษัทฯต้องมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมในภาพรวมคือเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ภายใต้กลยุทธ์ที่กำหนดไว้ “ผู้นำคุณภาพด้านบริการประกันภัย”


นายอมร เปิดเผยอีกว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯ ได้มีแนวทางสำคัญอยู่ 2 ประการ คือ มุ่งเน้นการทำตลาดประกันภัยสุขภาพ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีสัญญาณบ่งชี้ว่าบริษัทฯ จะประสบความสำเร็จในการรับประกันภัยทางด้านนี้ ดังเห็นได้จากการตอบรับเป็นอย่างดีของตลาด ดังนั้นในปี 62 นีบริษัทฯ จะพัฒนาและเปิดตัวแผนประกันสุขภาพหลากหลายแผน ทั้งเป็นแผนที่ถือเป็นนวัตกรรมความคุ้มครอง และแผนที่จะสนองรับความต้องการของผู้บริโภค ตลอดไปถึงให้เป็นไปตามเป้าวัตถุประสงค์หลักของบริษัทฯ ที่ต้องการให้คนไทยได้เข้าถึงประกันภัยสุขภาพถ้วนหน้าและเข้าถึงมาตรฐานการรักษาที่ได้มาตรฐานสากลในระดับโลก


อีกประการหนึ่งบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นในการพัฒนาคุณภาพด้านการบริการ โดยเฉพาะคุณภาพการบริการสินไหมรถยนต์ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งและจุดขายของบริษัทฯ ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าจำนวนกว่า 5 ล้านกรมธรรม์ ทั้งนี้ในการพัฒนาบริการนอกจากจะนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพแล้ว บริษัทฯ ยังไม่หยุดยั้งในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เพื่อให้มีความรู้และทักษะสอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อที่จะได้ส่งมอบการบริการที่ดีให้กับผู้เอาประกันภัย

 


สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2561 ที่ผ่านมา นายอมร ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการที่บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นขยายงานรับประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ภายใต้กลยุทธ์ ”ถ้าเป็นชื่อวิริยะประกันภัย ทุกประกันคือมาตรฐานเดียวกัน” ส่งผลให้บริษัทฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะเป็นปีแรกที่บริษัทมีสัดส่วนการรับประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ถึง 10% ซึ่งหมายถึงบริษัทสามารถกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจมีความสมดุลมากขึ้น รวมไปถึงบริษัทฯ ยังคงพัฒนาคุณภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง เป็นการสานงานต่อก่องานใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้เอาประกันภัยได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม ซึ่งจากการมุ่งมั่นเหล่านี้จึงเป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

 


โดยในปี 2561 บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวมทั้งสิ้น 37,920 ล้านบาท เติบโตถึง 4.86% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และถือว่าบริษัทฯ ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดประกันภัยรับรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยเป็นอันดับหนึ่งมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 27 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 16.27% และเช่นเดียวกันเมื่อแยกตามสัดส่วนงานรับประกันภัย ในด้านการประกันภัยรถยนต์บริษัทฯ ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดประกันภัยรถยนต์เป็นอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 32 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 24.90% มีเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 34,093 ล้านบาท เติบโต 4.19 % ด้านการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ มีเบี้ยประกันภัย 3,826 ล้านบาทเติบโต 11.25%


“ส่วนผลประกอบการทางด้านการลงทุน ในปี 2561 บริษัทฯ มีพอร์ทการลงทุนทั้งสิ้น 62,715 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนที่บริษัทฯ ต้องปฎิบัติกฎระเบียบของสำนักงานคปภ. จึงต้องเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง ซึ่งสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็น เงินฝากในสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาครัฐ”


นายอมร เปิดเผยต่อไปอีกว่า ตัวชี้วัดความสำเร็จอีกประการหนึ่งก็คือรางวัลเกียรติยศที่บริษัทได้รับจากองค์กรต่างๆมากมาย อาทิ รางวัลเกียรติยศจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้แก่ รางวัลบริษัทประกันภัยที่มีการพัฒนาการดีเด่น รางวัลบริษัทประกันภัยที่มีการส่งเสริมกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อประชาชนดีเด่น และรางวัลตัวแทนประกันวินาศภัยคุณภาพดีเด่น ซึ่งตัวแทนในสังกัดของบริษัทฯ ได้รับถึง 3 ท่านด้วยกัน รางวัลจากสมาคมประกันวินาศภัย คือ รางวัล Best Surveyor Award ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับเป็นรางวัลที่บ่งบอกถึงคุณภาพการบริการของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี รางวัลจากหอการค้าไทย คือ รางวัลจรรยาบรรณดีเด่นหอการค้าไทย ซึ่งเป็นรางวัลที่ทางหอการค้าไทยต้องการเชิดชูเกียรติให้แก่ภาคธุรกิจเอกชนไทยที่ดำเนินการธุรกิจโดยใช้หลักจรรยาบรรณให้เกิดการยอมรับ


อย่างไรก็ตามในแผนการดำเนินงานด้านประกันภัยรถยนต์ นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานในด้านการรับประกันภัยรถยนต์ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีและสร้างสรรค์วัตกรรมมาใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัย โดยเฉพาะการบริการด้านสินไหมทดแทน เพื่อตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันภัย และเพื่อให้สอดรับกับกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้ในปีนี้ “ผู้นำคุณภาพบริการประกันภัย” ซึ่งเป็นคุณภาพที่เกิดจากประสบการณ์ในการจัดการเคลมกว่า 9 แสนเคสต่อปี โดยบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายการพัฒนาไว้ 3 ด้านด้วยกันคือ พัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาเครือข่ายการให้บริการ


โดยการพัฒนาคน...


โดยการพัฒนาคน บริษัทฯ จะมุ่งเน้นพัฒนาพนักงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสินไหมทดแทน เนื่องจากพนักงานในกลุ่มนี้ถือเป็นตัวแทนของบริษัทในการส่งมอบการบริการที่ดีมีคุณภาพให้กับลูกค้า ดังเห็นได้จากการสรรหาพนักงานสำรวจอุบัติเหตุ มีการกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นไว้ว่าต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมความรู้และพัฒนาทักษะอยู่ตลอดเวลา โดยมีหลักสูตรรองรับถึง 22 หลักสูตร ซึ่งเป็นหลักสูตรที่บริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นมาเองจากประสบการณ์ในการเคลมสินไหมมากกว่า 9 แสนเคสต่อปี และที่สำคัญใช่แต่เพิ่มเติมความรู้ และพัฒนาทักษะเท่านั้นยังมีกระบวนการพัฒนาทางด้านจิตใจและบุคลิกภาพ เพื่อให้พนักงานสินไหมวิริยะประกันภัยมีจิตใจการเป็นผู้ให้ มีบุคคลิกยิ้มแย้มแจ่มใส ดูแลเอาใจใส่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างเต็มที่รวมไปถึงคู่กรณีอีกด้วย


ส่วนทางด้านการพัฒนา บริษัทฯ ได้มีการกำหนดมาตรฐานงานสินไหมแต่ละด้านอย่างชัดเจน (Service Level Agreement : SLA) เช่นงานรับแจ้ง งานตรวจสอบอุบัติเหตุ งานประเมินและสรุปความเสียหาย งานจัดซ่อม งานทำจ่ายค่าสินไหม อีกทั้งงานแต่ละด้านแต่ละส่วนงาน บริษัทฯ ได้นำเอาระบบเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และสุดท้ายงานพัฒนาเครือข่ายการให้บริการ ซึ่งบริษัทฯมีนโยบายที่จะเพิ่มจุดบริการสินไหมต่อเนื่องในทุกๆ ปี ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีจุดบริการสินไหมอยู่ทุกทิศทั่วไทยรวมทั้งสิ้น 161 แห่ง

 

 

สำหรับแผนการดำเนินงานด้านประกันภัยที่มิใช่รถยนต์ (Non-Motor) นายเกรียงศักดิ์ โพธิเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2562 นี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นการขยายงานด้านประกันภัยบุคคลเป็นหลัก เพื่อรับประกันภัยไว้เองมากกว่าที่จะไปประกันภัยต่อ และจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือมีวิถีการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม บริษัทฯ จึงได้มีการพัฒนากรมธรรม์ให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่น กรมธรรม์ประกันภัยทรัพย์สินที่เหมาะกับธุรกิจขนาดย่อม โดยให้ความคุ้มครองครอบคลุมกับความเสี่ยงของทรัพย์สินและการดำเนินธุรกิจ ในอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายก็ยังแบ่งแยกตามประเภทของธุรกิจ


“ในส่วนของการประกันภัยสุขภาพ จะออกผลิตภัณฑ์กรมธรรม์ให้มีความหลากหลาย แบ่งตามกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มนักธุรกิจ หรือแบ่งให้เหมาะสมตามแต่ล่ะช่วงอายุ อีกทั้งมุ่งเน้นในการให้คำปรึกษาและการดูแลสุขภาพ ทั้งก่อนและหลังเข้าการรักษา การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เช่น ความร่วมมือระหว่าง บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (มหาชน) BDMS โดยบริษัทฯ ได้เข้าไปเปิดจุดบริการด้านประกันสุขภาพในโรงพยาบาลเครือข่ายกว่า 45 แห่งทั่วประเทศ การเปิดความร่วมมือกับสถาบันการเงินอื่นๆ และองค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครายย่อยทั่วประเทศ และการพัฒนาช่องทางดิจิทัล เพื่อให้ผู้บริโภคได้สื่อสารโดยตรงถึงบริษัทเกี่ยวกับความต้องการ และการบริการต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า” นายเกรียงศักดิ์ กล่าวในที่สุด