เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 3 รางวัลใหญ่ โครงการ “ตลาดทุนไทยร่วมใจส่งพลังความรู้สู่ประชาชน”
เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 3 รางวัลใหญ่
โครงการ “ตลาดทุนไทยร่วมใจส่งพลังความรู้สู่ประชาชน” เฟสที่ 2 จากสำนักงาน ก.ล.ต.
เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 3 รางวัลใหญ่ จาก สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศผลรางวัลในโครงการ "ตลาดทุนไทยร่วมใจส่งพลังความรู้สู่ประชาชน" เฟสที่ 2 ซึ่งเป็นเวทีที่มอบรางวัลให้แก่บริษัทที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความรู้ด้านการเงินและการลงทุนแก่สังคมไทย มุ่งเน้นการนำเสนอด้วยแนวทางการนำเสนอที่โดดเด่นและสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืน
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทมีความมุ่งมั่นเสมอในการสร้างหลักประกันชีวิตและสุขภาพที่มั่นคงให้กับคนไทย และตระหนักถึงการให้ความรู้ด้านการเงินและการประกันชีวิตเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในบริบทของประเทศไทย ที่ได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ บริษัทได้ส่งเสริมความรู้ด้านการเงินและการประกันชีวิต ทั้งภายในองค์กรและสู่ประชาชนทั่วไป เพื่อให้ทุกคนสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนวทางการส่งเสริมความรู้ของเมืองไทยประกันชีวิตที่ผ่านมานั้นยึดมั่นในพันธกิจการเสริมสร้างรากฐานการเงินที่แข็งแกร่งให้กับสังคมไทย โดยดำเนินงานใน 2 มิติหลัก ดังนี้
1. การพัฒนาพนักงาน: เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะการบริหารการเงินส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความมั่นคงในอนาคต
2. การให้ความรู้แก่ประชาชน: เมืองไทยประกันชีวิตใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ความรู้ด้านการเงินและการประกันชีวิตเข้าถึงได้ง่ายและเข้าใจได้ง่าย พร้อมจัดกิจกรรม Workshop ที่ช่วยให้ประชาชนสามารถลงมือวางแผนการเงินของตนเองได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ในโอกาสที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดโครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2” ผนึกกำลังผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะด้านการเงินการลงทุน (Financial Literacy) ให้แก่ผู้ลงทุนและประชาชน ในเฟส 2 ประจำปี 2567 โดยในปีนี้ เมืองไทยประกันชีวิต สามารถผ่านเกณฑ์การพิจารณา จาก ก.ล.ต. ได้รับรางวัลเกียรติทั้ง 3 ประเภท ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นองค์กรที่สร้างคุณค่าในการเป็น “ผู้ให้ความรู้” ด้านการเงินการลงทุนที่นอกเหนือจากการเสนอขายผลิตภัณฑ์ อันเป็นคุณประโยชน์แก่สังคมและประชาช ได้แก่
1. รางวัลขวัญใจมหาชน (Public Favorite Award): ESG: RakLearn Social Media by MTL
โดยโครงการ "RakLearn" มุ่งเน้นการเผยแพร่ความรู้ด้านการเงิน การลงทุน และการประกันชีวิต ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok และ Facebook โดยนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอสั้นและอินโฟกราฟิกส์ สื่อสารด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ช่วยให้การวางแผนการเงินกลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ทุกคน
2. รางวัลการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน (Sustainability Award): ESG: Financial Literacy “WORKSHOP”
โครงการ "Financial Literacy Workshop" ปี 2567 ที่บริษัมุ่งเน้นเสริมสร้างความรู้ด้านการวางแผนการเงินส่วนบุคคลอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรม Workshop ที่ช่วยพัฒนาทักษะการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่การจัดทำงบประมาณ การออม การลงทุน ไปจนถึงการประกันชีวิตและการจัดการความเสี่ยง โดย 95% ของผู้เข้าร่วมสามารถจัดทำแผนการเงินส่วนบุคคลได้สำเร็จ ทั้งนี้ภายหลังการอบรมบริษัทได้มีการติดตามผลเพื่อประเมินความเปลี่ยนแปลงทางการเงินของผู้เข้าร่วม
3. รางวัลความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม (Creativity Award): MTL Retirement Check – ระบบคำนวณเงินทุนเพื่อการเกษียณ
"MTL Retirement Check" ซึ่งเครื่องมือการคำนวณและวางแผนการเงินสำหรับการเกษียณอายุเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อสร้างการตระหนักรู้ทางด้านการเงินสำหรับการวางแผนอนาคตที่ยั่งยืนให้พนักงาน ตัวแทนประกันชีวิต และบุคคลทั่วไป สามารถวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณอายุได้อย่างง่ายดาย บริษัทยังได้วางแผนส่งมอบเครื่องมือนี้ให้ตัวแทนประกันชีวิตทั่วประเทศและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลของ RakLearn เพื่อให้คนไทยสามารถคำนวณและวางแผนการเงินของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา
ในโอกาสนี้ นางพรอนงค์ บุษราตระกูล ท่านเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ให้เกียรติมอบรางวัลอันทรงเกียรติทั้ง 3 ประเภท แก่บริษัทฯ โดยมอบรางวัลขวัญใจมหาชน (Public Favorite Award) ให้แก่ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รางวัลการสร้างองค์ความรู้อย่างยั่งยืน (Sustainability Award) ให้แก่ ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ และรางวัลความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม (Creativity Award) ให้แก่ นางสาวอุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ
“เราตั้งเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่า เราจะช่วยสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งให้กับสังคมไทย ภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท (ESG Strategy) เพื่อให้คนไทยมีความสุขและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในทุกช่วงของชีวิต ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จของเรา และขอให้คำมั่นว่า เมืองไทยประกันชีวิต จะไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดียิ่งขึ้น” นายสาระกล่าวสรุป